10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ของโอมาน 2567
10 สถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ของโอมาน
หากพูดถึงการท่องเที่ยวในแถบตะวันออกกลางอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจและเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ ของใครหลายคนเห็นจะไม่พ้นประเทศโอมานหรือเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า “รัฐสุลต่านโอมาน” ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานกว่า 5,000 ปี ที่รอให้คุณออกเดินทางไปค้นหาและสัมผัสกับประสบการณ์อันน่าทึ่งด้วยตัวคุณเอง
บรรยากาศยามค่ำคืนของโอมาน
รู้จักโอมานเพื่อเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
- ภูมิประเทศ โอมานเป็นประเทศในแถบทะเลทรายที่กินพื้นที่ไปกว่าร้อยละ 82 เทือกเขาร้อยละ 15 และที่ราบชายฝั่งทะเลประมาณร้อยละ 3
- ภูมิอากาศ หน้าร้อนจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายนถึงตุลาคมโดยจะร้อนถึง 31-47 องศา และหน้าหนาวในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคมอุณหภูมิประมาณ 20-25 องศา ยกเว้นทางใต้ของประเทศจะมีภูมิอากาศแบบมรสุมและมีฝนตกเป็นประจำระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
- ศาสนา ประชากรเกือบทั้งประเทศนับถือศาสนาอิสลามคิดเป็นร้อยละ 82 นับและอีกร้อยละ 12 นับถือศาสนาฮินดูและคริสต์ ทว่าไม่เคร่งครัดเรื่องการแต่งกายกับนักท่องเที่ยวมากนักแต่ก็ควรจะสวมใส่ชุดสุภาพและมิดชิด
- สกุลเงิน เรียลโอมาน (Rial Omani= RO) และ Baiza (ไบซา) โดย 1,000 ไบซา = 1 เรียล อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ประมาณ 1 RO = 97 บาท
ริมชายหาดกับธรรมชาติที่สวยงาม
หากใครที่ต้องการมาท่องเที่ยวโอมานก็วางแผนการท่องเที่ยวกันให้ดีๆ เพื่อไม่มีอะไรผิดพลาด ถ้าใครที่ไม่ชินและไม่อยากเสี่ยงกับหน้าร้อนทะเลทรายแนะนำให้มาเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคมซึ่งตรงกับฤดูหนาวในโอมานน่าจะดีที่สุด
อาคารบ้านเรือนและสถาปัตยกรรมต่างๆมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
การขอวีซ่า
นักท่องเที่ยวสามารถทำวีซ่าได้แบบ Visa on Arrival ผ่านตู้อัตโนมัติที่สนามบินของโอมานได้เลยไม่ต้องใช้เอกสารหลักฐาน แค่เพียงใช้พาสปอร์ตและเงินค่าธรรมเนียมตามจำนวนวันที่ต้องการท่องเที่ยว
ระบบขนส่งสาธารณะของโอมาน
แม้ว่าจะเป็นประเทศใหญ่ทว่าระบบขนส่งสาธารณะกลับยังไม่สะดวกอย่างที่คิด โอมานยังไม่มีเส้นทางรถไฟสำหรับการเดินทางระหว่างเมืองโดยในปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2019 หรือแม้แต่ระบบรถไฟฟ้าสำหรับในเมืองหลวงก็ยังไม่มีเช่นกัน ระบบขนส่งที่นิยมคือรถแท็กซี่ซึ่งไม่มีราคาตายตัวผู้โดยสารสามารถต่อรองกับคนขับได้เอง
วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือการเช่ารถและใช้บริการรถแท็กซี่นั่นเองหรือจะใช้บริการไกด์ส่วนตัวพร้อมรถก็ถือว่าเป็นวิธีที่สะดวกและเป็นส่วนตัวที่สุดแล้ว ส่วนการเดินทางระหว่างเมืองสามารถใช้บริการรถบัสสาธารณะของ The Oman National Transport Corporation (ONTC) ได้
ตรวจสอบตารางเดินรถได้ที่ http://mwasalat.om/en-us/Bus-routes/Time-Table
รถแท็กซี่ในโอมาน
หากจะจินตนาการถึงสถานที่ท่องเที่ยวของโอมานนั้นในหัวของคุณอาจจะมีแค่ภาพของท้องทะเลทรายเวิ้งว้าง แต่ใครจะรู้ว่าประเทศแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาและน่าทึ่งอยู่อีกมากมายเนื่องด้วยเขตชายแดนที่อยู่ติดทะเลมากกว่าครึ่งจากทั้งประเทศ และยังมีทั้งภูเขาที่อุดมสมบูรณ์และพื้นน้ำรวมถึงสถานที่ทางอื่นๆ ที่เกิดจากการกัดเซาะและกระบวนการทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจรออยู่ด้วยเช่นกัน
สถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดในโอมาน
1. ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Sands)
ตั้งอยู่ห่างจากเมืองมัสกัตไปประมาณ 190 กิโลเมตร เนินทรายยาวประมาณ 200 กิโลเมตรและกว้างประมาณ 100 กิโลเมตร สูงประมาณ 100-150 เมตร
มาเที่ยวประเทศแห่งทะเลทรายทั้งทีแน่นอนว่าคุณจะพลาดกับการได้ออกไปสัมผัสกับทะเลทรายจริงๆ แบบต้นตำหรับได้อย่างไร ทะเลทรายวาฮิบาถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของโอมานที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกต้องไปเยือนให้ได้ การได้ลองเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากและอุณหภูมิอันร้อนระอุก็ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหลไม่น้อยเลยทีเดียว
ภาพของทะเลทรายสีแดงน้ำผึ้งอันกว้างใหญ่และกิจกรรมสนุกๆ รอให้คุณได้เข้าร่วมมากมายทั้งการตั้งแค้มป์ทะเลทราย นอนดูดาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ขี่อูฐหรือแม้แต่การขับรถกลางทะเลทรายก็ชวนตื่นเต้นไม่น้อย ทั้งนี้คุณยังจะได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับครอบครัวชาวเบดูอินที่เตรียมรอต้อนรับนักท่องเที่ยว
ค่าใช้จ่ายการตั้งแค้มป์จะขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการแต่ละเจ้า
ค่าใช้จ่าย: การขี่อูฐ 7 RO ต่อคน รอบละประมาณ 20 นาที
ระยะเวลาการเดินทาง: ประมาณ 2 ชั่วโมง
ทะเลทรายวาฮิบา (Wahiba Sands)
2. โอเอซิสวาดิหรือวาดิชาบ (Wadi Shab)
เมื่อมาเที่ยวทะเลทรายอีกหนึ่งสถานที่ที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือโอเอซิสนั่นเอง วาดิชาบถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของโอมานตั้งอยู่ในแคว้น Al Sharqiya ประกอบด้วยหน้าผา โขดหิน ต้นปาล์ม นกหัวขวาน สระน้ำหลายแห่งและน้ำตกในถ้ำที่ต้องใช้เวลาเดินเท้าไปกว่า 30-45 นาทีและว่ายน้ำผ่านหลุมระหว่างภูเขาแต่หากน้ำมีระดับสูงก็จะต้องดำน้ำผ่านเข้าไป นอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอันน่าทึ่งแล้วคุณยังจะได้ร่วมทำกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย อาทิ การว่ายน้ำในสระน้ำจืดหรือปาร์ตี้บาร์บีคิวกลางโอเอซิส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย
การเดินทาง: เริ่มต้นจากการขับรถมายังจุดจอดรถที่ลานจอดใต้สะพานเพื่อต่อเรือข้ามฟากไปยังวาดิชาบและต่อด้วยการเดินเท้าเข้า
ค่าเรือเข้าไปยังโอเอซิส: คนละ 1 RO เปิดให้บริการตั้งแต่ 8.00 น. ใช้เวลา 2 นาที
ระยะเวลาการเดินทาง: ห่างจากเมืองมัสกัตประมาณ 140 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
โอเอซิสวาดิหรือวาดิชาบ (Wadi Shab)
3. หลุมน้ำบิมมาซิงก์โฮล (Bimmah Sinkhole)
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดมหัศจรรย์ของโอมานกับหลุมน้ำสีเขียวมรกตใสขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Hawiyat Najm ทางตอนเหนือของประเทศ มีลักษณะเป็นหลุมน้ำขนาดใหญ่เกิดขึ้นจากกระบวนการกัดเซาะตามธรรมชาติของหินปูนจนเกิดเป็นหลุมใหญ่และมีน้ำทะเลไหลซึมผ่านเข้ามาเนื่องจากอยู่ใกล้กับทะเล ลึกประมาณ 20 เมตรมีความกว้างประมาณ 550 x 40 เมตร
หลุมน้ำบิมมาซิงก์โฮลถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเป็นอย่างมาก กิจกรรมที่นิยมได้แก่ ว่ายน้ำและการทำสปาปลา อีกทั้งยังสามารถใช้เวลาพักผ่อนในส่วนของพื้นที่โดยรอบสวนสาธารณะได้อีกด้วย
ระยะเวลาการเดินทาง: ห่างจากเมืองมัสกัตประมาณ 113 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
หลุมน้ำบิมมาซิงก์โฮล (Bimmah Sinkhole)
4. มูซานดัมฟยอร์ด (Musandam Fjords)
หรือที่เรียกกันว่า “นอร์เวย์แห่งอาระเบีย” สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามและน่าทึ่งของโอมาน ส่วนผสมที่ลงตัวของภูเขาทะเลทรายที่ตั้งตระหง่านรายล้อมทะเลสีฟ้าใสราวคริสตัล พร้อมกิจกรรมการล่องเรือโอมานิเรือแบบดั้งเดิมของโอมานผ่านหน้าผาสูงชัน ชมปลาโลมาและลงว่ายน้ำหรือดำน้ำตื้น
มูซานดัมฟยอร์ด (Musandam Fjords)
การโดยสารเรือโอมานิจะให้คุณสามารถเลือกนั่งได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่างหรือบางลำก็มีเพียงแค่ชั้นเดียว พร้อมเบาะที่นั่งที่จัดเตรียมไว้อย่างสะดวกสายอีกทั้งมีบริการฟรี น้ำดื่ม, น้ำอัดลมและกาแฟหรือจะเป็นอุปกรณ์ดำน้ำตื้นและผ้าขนหนูก็มีพร้อมด้วยเช่นกัน ตลอดทริปใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง เมื่อเรือแล่นผ่านไปครึ่งทางก็จะมีจุดจอดให้นักท่องเที่ยวลงไปดำน้ำ, ว่ายน้ำหรือแช่ตัวก็ได้
คุณสามารถจองทัวร์แบบ one day trip ผ่านบริษัททัวร์หรือจะเลือกเดินทางไปยังท่าเรือ Khasab เพื่อเลือกซื้อทัวร์จากผู้ประกอบการที่คอยให้บริการ ทั้งนี้สามารถเลือกจองได้ทั้งแบบเป็นหมู่คณะหรือสำหรับท่องเที่ยวคนเดียวก็ได้เช่นกัน
ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 12-15 RO ต่อคน
เรือโอมานิ
5. ภูเขา Jebel Akhdar
ภูเขา Jebel Akhdar มีความหมายว่า “ภูเขาของดวงอาทิตย์” สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้พบกับหิมะในดินแดนทะเลทรายหนึ่งในพื้นที่สีเขียวของโอมาน มีสภาพอากาศที่เป็นเอกลักษณ์และภูเขาสีเขียวและผลไม้นานาพรรณ เช่น แอปริคอต, พลัม, มะเดื่อ, องุ่น, แอปเปิลและลูกแพร์ และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากการไปเที่ยวชมทัศนียภาพแปลกตาของภูเขาสูงแล้วคุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมที่ Jebel Akhdar อีกด้วย
ระยะเวลาการเดินทาง: ห่างจากเมืองมัสกัตประมาณ 280 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
ภูเขา Jebel Akhdar
6. เมือง Nizwa (Nizwa City)
Nizwa (Nizwa City) เมืองใหญ่ที่สุดของเขต Ad Dakhiliyah ตั้งอยู่ในใจกลางพื้นที่ของประเทศ เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์และอารยธรรมโบราณที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศโอมานและเป็นที่ตั้งของป้อมปราการสำคัญในอดีต อาทิ ป้อม Bahla และป้อม Nizwa เป็นต้น อีกทั้งยังมีปราสาท Nizwa Fort ปราสาทใหญ่และเก่าแก่ของเมืองจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ได้รับความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวไม่แพ้ที่อื่นๆ และถึงแม้ว่าจะมีสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่กระจายอยู่ทั่วทั้งเมืองทว่า Nizwa กลับเป็นเมืองที่มีความเจริญทั้งด้านการคมนาคมและยังมีสถานที่บันเทิงยามค่ำคืนที่รอให้คุณไปสัมผัส
เวลาเปิดปิด Nizwa Fort: 09.00 – 16.00 น.
ระยะเวลาการเดินทาง: ห่างจากเมืองมัสกัตประมาณ 140 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง
เมือง Nizwa (Nizwa City)
7. ปราสาท Jibreen (Jabreen Castle)
สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1670 ดูแลการออกแบบและก่อสร้างโดย Al Immam BilArab สุลต่าน Al Y`aribi ซึ่งนับว่าเป็นพระราชวังที่สวยที่สุดในยุคนั้นเลยทีเดียว ปราสาทเป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่มีทั้งหมด 5 ชั้นและมีห้องพักทั้งหมด 55 ห้อง มีระบบน้ำ Falaj ไหลผ่านกลางปราสาท โดดเด่นทางด้านจิตรกรรมฝาผนัง เพดานของปราสาทได้รับการตกแต่งด้วยภาพวาดสไตล์อิสลามและประตูที่มีการแกะสลักอย่างสวยงาม
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 500 baizas
เวลาเปิดปิด: วันเสาร์ – พฤหัสบดีเวลา 09.00 – 16.00 น. และวันศุกร์ 08.00 – 11.00 น.
ระยะเวลาการเดินทาง: ห่างจากเมืองมัสกัตประมาณ 175 กิโลเมตรใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง
ปราสาท Jibreen (Jabreen Castle)
8. พระราชวัง Al Alam (Al Alam Palace)
ตั้งอยู่ในเมืองหลวงมัสกัต หนึ่งในหกที่ประทับสำคัญของสุลต่านกาบูสกษัตริย์ผู้ปกครองโอมาน สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1972 มีการออกแบบร่วมสมัยและมีสีสันมากที่สุด ทั้งนี้ตัวปราสาทไม่ได้มีการเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมแต่อย่างใด
พระราชวัง Al Alam (Al Alam Palace)
9. มัสยิดสุลต่านกาบูสบิน (Sultan Qaboos Grand Mosque)
ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงมัสกัต ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในคาบสมุทรอาหรับได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีและใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 6 ปี ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 416,000 ตารางเมตร นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปเที่ยวชมภายในขอให้แต่งกายสุภาพ ผู้หญิงสวมใส่เสื้อแขนยาวและกระโปรงยาวคลุมเท้าต้องมีผ้าคลุมผมให้เรียบร้อยด้วย
ค่าเช่าชุดอาบายะห์ (ชุดยาวสีดำล้วนของอิสลามของผู้หญิง) และชุดโต๊บ (ชุดยาวสีขาวแขนยาวของผู้ชาย) 5 RO
เวลาเปิดปิด: วันเสาร์ – พฤหัส เวลา 8.00 – 11.00 น. (ปิดวันศุกร์)
มัสยิดสุลต่านกาบูสบิน (Sultan Qaboos Grand Mosque)
10. ตลาด Muttrah Souk (Old Muttrah Souk)
หนึ่งในตลาดเก่าแก่ที่สุดของดินแดนอาหรับ สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ความนิยมจากบรรดานักท่องเที่ยวหลากหลายชาติที่มาเยือน นับเป็นตลาดที่มีมนเสน่ห์แห่งหนึ่งแม้จะมีเส้นทางคับแคบและบรรดาร้านรวงที่ตั้งเรียงตัวกันราวกับเขาวงกตขนาดย่อม มีขายตั้งแต่สินค้าพื้นเมืองของโอมานทั้ง น้ำหอม เครื่องเทศ ผ้าลวดลายอาหรับสีสันสดใสหรือว่าจะเป็นเครื่องหัตถกรรมต่างๆ ที่ตั้งซ้อนกันแน่นเต็มร้านคล้ายกับตลาดสำเพ็งบ้านเรารอให้คุณได้จับจ่ายเป็นของฝากกลับบ้าน
เวลาเปิดปิด: 07.00 – 11.00 น. และ 17.30 – 23.00 น.
ตลาด Muttrah Souk (Old Muttrah Souk)
ร้านขายของในตลาด
กาน้ำชาแบบโบราณ
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามและร่องรอยอารยธรรมอันน่าทึ่งที่เราแนะนำกันไปแล้วนั้นประเทศโอมานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมายที่รอให้คุณเดินทางไปเยือนและสัมผัสกับความแปลกตานี้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหรือสถานที่สำคัญทางศาสนา รับรองว่าโอมานจะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่คุณจะหลงรักและประทับใจได้ไม่ยาก
