15 ที่เที่ยวดีงาม แต่เข้าได้ฟรีๆ ของสิงคโปร์ ทริปนี้กระเป๋าไม่ฉีก 2567
Photo: Schristia [CCSA2.0] from flickr.com/photos/schristia/5180885512
โพสนี้เอาใจนักเที่ยวงบจำกัดโดยเฉพาะ รวมเอา 15 สถานที่ท่องเที่ยวสุดเด็ด และฮิตติดท้อปของสิงคโปร์ แต่เที่ยวได้ฟรี ไม่ต้องเสียซักบาท ของเด็ดและฟรีมีในสิงคโปร์ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีที่ไหนบ้าง
1. รูปปั้นสิงโตพ่นน้ำ Merlion
รูปปั้นสิงโตเงือก เมอร์ไลอ้อน Merlion
สิงโตพ่นน้ำเมอร์ไลอ้อนเป็นสัญญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ปัจจุบันนี้ตั้งอยู่อยู่ทะเลอ่าวมารีน่า(Marina Bay) เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีผู้คนเดินทางไปเยือนมากที่สุดของประเทศสิงคโปร์ ไปเที่ยวสิงคโปร์ทั้งทีก็คงต้องไปถ่ายรูปกับสัญญลักษณ์ของประเทศเขาเป็นที่ระลึกซะหน่อยใช่มั้ยล่ะ และด้วยบรรยากาศสุดชิวริมอ่าว ทำให้นักท่องเที่ยวที่มาก็มักจะนั่งเล่น ชิวๆกันก่อน ซึ่งนอกจากนี้ยังเป็นจุดชมการแสดงแสงสีเสียงเลเซอร์สุดอลังการที่ชื่อว่า Wonder Full Light Show ด้วย
2. วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว หรือ Buddha Tooth Relic Temple แห่งย่านไชน่าทาวน์
วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว Buddha Tooth Relic Temple
หรือที่คนไทยเรียกกันว่า วัดเขี้ยวแก้ว เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาของประเทศสิงคโปร์ที่ไม่ควรพลาด เพราะเป็นวัดทางศาสนาพุทธที่สำคัญวัดหนึ่งของชาวสิงคโปร์ อยู่ใกล้กับย่านไชน่าทาวน์(Chinatown) ที่นอกจากจะมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่นๆภายในวัดนี้อีกมาก
3. การแสดงแสง สี เสียง เลเซอร์ ริมอ่าวมาริน่าเบย์ Wonder Full Light Show
บรรยากาศการแสดง WONDER FULL Light ชมจากสวนเมอร์ไลอ้อน
การแสดงนี้จะมีคอนเซ็บคือ Wonder Full จะเกี่ยวกับการกำเนิดของสิ่งมีชีวิต มีการใช้น้ำพุ ไฟ แสง และเลเซอร์มาเป็นส่วนประกอบในการแสดง ที่ริมน้ำของอ่าวมาริน่า(Marina Bay) โดยมีตัวเมืองสิงคโปร์เป็น Background เป็นการแสดงที่ไม่ควรพลาด สามารถชมได้จาก 2 จุดหลักๆ คือการชมแบบใกล้ๆได้ที่ด้านหน้าของตึกเรือ Marina Bay Sands ก็จะเห็นการฉายภาพจากโปรเจ็คเตอร์ รวมทั้งเสียงอย่างใกล้ชิดและชัดเจน กับอีกที่คือที่สวนเมอร์ไลอ้อน(Merlion Park)ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม จะมองไม่เห็นภาพจากโปรเจ็คเตอร์และเสียงอาจจะเบากว่า แต่จะเห็นความยิ่งใหญ่ของการยิงแสงเลเซอร์และการใช้แสงในการแสดงอย่างสวยงาม โดยการชมการแสดงทั้ง 2 แบบจะให้อารมณ์และแง่มุมในการแสดงที่แตกต่างกันจึงแนะนำให้ชมทั้ง 2 จุดเลย
เวลาแสดงโชว์ WONDER FULL: วันอาทิตย์-วันพฤหัส 20:00 และ 21:30 / วันศุกร์ วันเสาร์ 20:00, 21:00 และ 11:00 ใช้เวลารอบละ 15 นาที
4. สวนริมทะเลสุดอลังการ Garden by the Bay
ไปถึงยังไม่มี ก็เดินถ่ายไฟไปเรื่อยๆ
เป็นผลงานความสร้างสรรค์ของชาวสิงคโปร์ ที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทั้งการออกแบบและการก่อสร้าง จนกลายเป็นสวนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสวนหนึ่งของโลก ได้รับรางวัลมากมายจากทั่วโลก มีสัญญลักษณ์เป็นต้นไม้จำลองขนาดยักษ์ที่เรียกว่า Supertree และโดมแก้วเรือนกระจกขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอีก 2 โดม ภายในนั้นได้มีการจำลองสภาพอากาศแบบต่างๆของต้นไม้ หนึ่งในนั้นคือป่าดิบชื้นที่มีการสร้างน้ำตกจำลองในร่มที่สูงที่สุดในโลกด้วย เรียกว่าเป็นสวนที่มีความเป็นที่สุดของโลกรวมกันอยู่เยอะจริงๆ และยังมีโซนต่างๆอีกเยอะแยะให้เที่ยว
ค่าเข้าชมสวนเกือบทุกโซนจะฟรี ยกเว้นโดมเรือนกระจก ผู้ใหญ่ S$28 dollars / เด็ก S$15 dollars และทางเดินลอยฟ้าบน Supertree
5. ตลาดและถนนคนเดินย่าน Chinatown
Chinatown Food Street
เนื่องจากประเทศสิงคโปร์ประกอบด้วยคนเชื่อสายจีนมากถึง 75% ของประเทศทำให้ไชน่าทาวน์ของประเทศสิงคโปร์ก็มีขนาดใหญ่และอลังการไม่แพ้ประเทศอื่นๆ โดยมีบรรยากาศเป็นบ้านเรือนสไตล์โคโรเนียลที่ต่างก็ทาสีสันสดใส อย่างกับเดินอยู่ในภาพยนตร์เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าเล็กๆขายของที่ระลึก ของฝากต่างๆ และสินค้าที่เกี่ยวข้องกับความเป็นคนจีน เช่น ชา พัด ภาพวาด และหมูแผ่น ที่เป็นของฝากชื่อดังของย่านนี้ด้วย
6. ตลาดและถนนคนเดินย่าน Little India
ย่านลิตเติ้ลอินเดีย Little India
ย่านลิตเติ้ลอินเดีย(Little India)เป็นย่านที่อาจจะเรียกได้ว่ามีสีสันทางได้วัฒนธรรมมากที่สุดของประเทศสิงคโปร์ มีถนนคนเดินที่คึกคัก มีตึกและอาคารที่ทาสีสันสดใสตลอดทาง มีร้านค้าต่างๆที่ขายสินค้ามากมายหลากหลายประเภท ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าตามวัฒนธรรมอินเดีย ในบางแห่งจะเหมือนกับกำลังเดินอยู่ที่ประเทศอินเดียเลย มีวัดแขกที่มีชื่อเสียงหลายแห่งในบริเวณ เป็นอีกหนึ่งสีสันของประเทศสิงคโปร์ที่คุณไม่ควรพลาด
วัดที่เก่าแก่ที่สุดวัดหนึ่งของศาสนาฮินดู และยังเป็นวัดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศด้วย สังเกตได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าไปภายในวัดจะมีมากกว่าวัดฮินดูอื่นๆ มีซุ้มประตูและกำแพงวัดที่วิจิตรงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ ตั้งอยู่ใจกลางของย่านลิตเติ้ลอินเดีย(Little India) สร้างขึ้นเพื่อสักการะบูชาพระแม่กาลีตั้งแต่ปี 1855 [topic1]8. สวนพฤษศาสตร์สิงคโปร์(Singapore Botanic Garden)7. วัดศรีวีรมากาลีอัมมัน(Sri Veerama Kaliamman Temple)
[caption id="attachment_20418" align="aligncenter" width="750"]
รูปปั้นเทพเจ้าต่างๆที่ด้านบนซุ้มประตูทางเข้าวัดแขก ศรีวีรมากาลีอัมมัน Sri Veerama Kaliamman Temple[/caption]
ทางเดินใต้อุโมงค์ดอกกล้วยไม้
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่เก่าแก่ มีอายุมากกว่า 150 ปีแล้วและเป็นสวนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก(UNESCO World Heritage)ด้วย เป็นสวนที่ได้รับการออกแบบและบริหารจัดการเป็นอย่างดี จนได้รับรางวัลมากมายเช่น Best Garden in Asia จากเว็บ TripAdvisor ติดกันมาตั้งแต่ปี 2012 และอื่นๆอีกหลายรางวัล ภายในแบ่งออกเป็นโซนต่างๆที่น่าสนใจมากมายแต่ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของสวนแห่งนี้คือ สวนกล้วยไม้แห่งชาติ(National Orchid Garden) เป็นทั้งสถานที่เรียนรู้ และพักผ่อนหย่อนใจของชาวสิงคโปร์และชาวต่างชาติ
9. เกาะแห่งสวนสนุก เซนโตซ่า Sentosa
เมอร์ไลออน เซ็นโตซ่า
เป็นเกาะเล็กๆทางตอนใต้ของประเทศสิงคโปร์เดินทางได้สะดวกเพราะมีการเชื่อมต่อกับเกาะหลักด้วยถนน, รถราง และเรือ บนเกาะจะอัดแน่นไปด้วยสวนสนุก เครื่องเล่น และพิพิธภัณท์ต่างๆมากมายที่มีชื่อเสียง หลายอย่างในนั้นก็เสียตัง แต่ก็มีอีกหลายๆอย่างที่ไม่เสียตังเลย เช่น ทางเดินลอยฟ้าป้อมปราบการเก่า Fort Siloso, Sentosa Merlion, Merlion Walk และชายหาดสีขาวสะอาดกับน้ำทะเลใสๆเป็นแนวยาว ก็สามารถใช้บริการได้ฟรี
ถ้าเดินเข้าเกาะ จะไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย และสามารถใช้บริการรถรางและรถบัสบนเกาะได้ฟรี แต่ถ้าขึ้นรถรางเข้าเกาะ ไป-กลับ S$4 dollars
10. สะพานเดินชมวิวลอยฟ้า เฮนเดอร์สัน เวฟ Henderson Waves Bridge
Photo by Schristia from commons.wikimedia.org/wiki/File:Henderson_Waves,_Singapore.jpg [CC by-sa 4.0]
11. น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง (Fountain of Wealth)
น้ำพุแห่งโชคลาภที่ตึกซันเทค Fountain of Wealth Suntec city
น้ำพุแห่งโชคลาภหรือน้ำพุแห่งความมั่งคั่ง(Fountain of Wealth) ที่กลุ่มอาคารซันเทค ซิตี้(Suntec city)ของประเทศสิงคโปร์ เป็นกลุ่มอาคารที่ว่ากันว่าออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยทุกประการ จนเชื่อกันว่าเป็นจุดที่มีฮวงจุ้มดีที่สุดในโลก และที่ตรงกลางของกลุ่มอาคารนี้เอง ที่เป็นสถานที่ตั้งของน้ำพุแห่งโชคลาภ(Fountain of Wealth) ซึ่งก็เชื่อกันว่าเป็นจุดศูนย์รวมของพลังงานด้านบวกตามหลักฮวงจุ้ย ที่ดึงดูดผู้คนที่มีความศรัทธาทางศาสตร์นี้ให้เดินทางมารับพลังกันถ้วนๆหน้า
12. เขื่อนมารีน่า บาร์ราจ (Marina Barrage)
บรรยากาศยามเย็นที่ Marina Barrage
มาริน่า บาร์ราจ(Marina Barrage) เป็นเขื่อนกั้นน้ำที่มีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกคล้ายกับเป็นส่วนต่อขยายมาจากสวนมาริน่าการ์เด้น(Marina Garden) โดยมี สวนลอยฟ้าที่เป็นสนามหญ้าขนาดใหญ่อยู่บนชั้นลอย, มีศูนย์กิจกรรมทางน้ำให้ทำเช่น การพายเรือคายัค และศูนย์ข้อมูลการจัดการน้ำของสิงคโปร์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองสิงคโปร์ไปในตัว
13. พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์(Singapore National Museum)
อาคารพิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์ Singapore National Museum
พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์(Singapore National Museum)เป็นพิพิธภัณท์ที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ จัดแสดงอยู่ภายในอาคารขนาดใหญ่ที่มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม สไตล์ Neo-Classic คล้ายกับพระที่นั่งอนันตสมาคม สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1887 แต่ได้รับการ renovate จนปัจจุบันมีการผสมผสานความเก่าและใหม่กันอย่างลงตัว
14. สวนป้อมปราการแคนนิง (Fort Canning Park)
สวนป้อมปราการ แคนนิง Fort Canning Park
สวนป้อมปราการ แคนนิง(Fort Canning Park)เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่บนเนินเขาใจกลางตัวเมืองสิงคโปร์ ที่ภายในแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆที่น่าสนใจทั้งทางด้านประวัติศาสตร์, ลานแสดงดนตรี และธรรมชาติอันร่มรื่น อยู่ติดกับ Clark Quay, พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์(Singapore National Museum) และใกล้กับย่านช้อปปิ้งถนนออชาร์ด(Orchard Road)
15. มหาวิหารเซนต์แอนดรูว์ (St Andrew’s Cathedral)
โบสถ์ เซนต์แอนดรู St Andrew’s Cathedral
โบสถ์ เซนต์แอนดรู(St Andrew’s Cathedral)เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สวยงามมาก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน City Hall Station เป็นโบสถ์ Anglican ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสิงคโปร์ และโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์ English Gothic ที่สวยงามและเก่าแก่มากที่สุดของสิงคโปร์ด้วย โดยตัวโบสถ์จะมีสีขาวจะตั้งอยู่ตรงกลางของสนามหญ้าสีเขียว ทำให้ตัดกันอย่างสวยงาม เป็นอาคารที่รายละเอียดในการก่อสร้างที่สวยงาม เช่น รูปภาพและลวดลายบนกระจก สร้างโดยพ่อค้าชาวสกอตแลนด์ ด้วยแรงงานของนักโทษชาวอินเดีย ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1838 ซึ่งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าได้ตลอดเวลาในช่วงกลางวันยกเว้นมีงานสำคัญ
รวมที่เที่ยวสิงคโปรอัพเดตล่าสุด
