โปรแกรมนั่งรถทัวร์ไปเที่ยวหลวงพระบางแบบ 2 คืน 1 วัน

ไปเที่ยวหลวงพระบางกันใหม เมืองแห่งอารยธรรมและมรดกโลก เมืองแห่งความสงบเรียบง่าย เหมาะสำหรับที่พักกายพักใจเพราะบ้านเมืองเขา ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมเดิมๆ คือความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายและสงบ ทริปนี้จะพาเที่ยว 2 คืน กับ 1 วัน ที่”หลวงพระบาง” การเดินทางมีหลายวิธีค่ะ แล้วแต่ความสะดวกสบายของแต่ละคน ชอบสบายไปเครื่องบิน ชอบลุยไปรถทัวร์อาจจะต่อรถหลายต่อหน่อย แต่ระหว่างทางที่เดินนั้นเราจะพบกับสิ่งต่างๆมากมายเชียวแหละ ทริปนี้จะพาเดินทางแบบขาลุยไปรถทัวร์เริ่มต้นการเดินทางที่ขนส่งหนองคายกันเลยค่ะ

ทริปขาลุยขึ้นรถทัวร์

07.30 รถเที่ยวแรกจาก สถานีขนส่งหนองคาย ไปยังสถานีขนส่งเวียงจันทร์เดินทางประมาน 2 ชั่วโมงเพราจะไปเสียเวลาตรง ด่านตรวจคนเข้าเมืองนั่นเอง ค่าเดินทางถึงเวียงจันทน์ คนละ 55 บาท ด่านเปิดตั้งแต่ 06.00-22.00 น

*** หลักฐานที่จำเป็นต้องใช้ในการเดินทางข้ามแดนคือ หนังสือเดินทาง( Passport) ค่าธนนมเนียมฉบับบละ 20 บาท หนังสือผ่านแดนชั่วคราว(Temporay Border Pass) หรือบัตรชั่วคราวสำหรับบุคคล ผู้มีสัญชาติไทย ค่าธรรมเนียมฉบับละ 80 บาทส่วนเอกสารก็จะมี ภาพถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 3 ภาพ สำเนาบัตรประชาชนเซ็นสำเนาถูกต้อง ส่วนบุคคลที่มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 1-15 ปี สามารถใช้สูติบัตรแทนได้บิดามารดาต้องยินยอมและอยู่ในความดูแลและอยู่นความรับผิดชอบของผู้ปกครอง***

09.30 ถึงขนส่งเวียงจันทน์ และต้องรอต่อรถจากเวียงจันทน์ไปยังหลวงพระบางด้วยระยะทาง 400 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากสถาพถนนที่คดเคียวงอโค้ง จึงใช้เวลาเดินทางถึง 9 ชั่วโมง!!อัตราค่ารถเริ่มต้นตั้งแต่ 395-571 บาทเงินไทย

สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถได้ http://www.louangprabang.net/content.asp?id=366

11.00 น.รถออกจากสถานีขนส่งเวียงจันทน์ ถึงลวงพระบางโดยประมาณ

20.30 น. เช็คอินที่ สายน้ำคานริเวอร์วิว (Saynamkhan River View) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง และพักผ่อนตามอัธยาศัย หลังจากที่เหนื่อยกับการเดินทางมาแล้วอย่างทรหด ราคาที่พักสามารถจองผ่านทาง อินเตอร์เน็ตได้ก่อนเลยค่ะ และจองไว้ก่อนจะดีมากๆ เพราะหากเราเดินทางมาถึงดึกๆ มีที่พักปลอดภัยและอุ่นใจที่สุดนะคะ

05.00-09.00 เสียงระฆังบอกบุญดังกังวานไปทั่วเมือง เป็นเหมือนนาฬิกาปลุกให้เรารับรู้ว่า แรงศัทธาและวัฒธรรมของชาวเมืองนี้ ยังคงดำรงอยู่จากอดีตจนถึงปัจจุบันสืบมา ร่วมตักบาตรข้าวเหนียว กับพระสงฆ์มากกว่า 100 รูปขึ้นไป ข้าวเหนียวกระติบละ 100 นะคะ หยิบข้าวเหนียวคำเล็กๆพอนะคะถึงจะพอใส่พระ เป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวหลวงพระบางที่น่าดูเป็นอย่างยิ่ง จากนั้นก็เดินเที่ยวชมวิถีชีวิตของผู้คนเมืองหลวงพระบางและชมหาเลือกชิมอาหารพื้นบ้านที่ตลาดเช้าก่อนจะเตรียมตัวเดินทาง ไปสัมผัสอารยธรรมของเมืองหลวงพระบาง

ตักบาตรพระสงฆ์มากกว่า 100 รูป

ตักบาตรข้าวเหนียว

09.00 -12.30 น. เข้าชมพระราชวังเก่าซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติลาวจากนั้นก็จะไปสักการะ วัดพระธาตุหมากโมซึ่งมีอายุมากกว่า 500 ปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระบางมาก่อนและแวะไปไหว้วัดใหม่สุวรรณพูมาราม เป็นวัดที่มีอุโบสถลักษณะผสมผสานใต้ลื้อเชียงขวางและหลวงพระบางเข้าด้วยกัน ซึ่งงดงามมากๆ แล้วก็ไปต่อที่วัด เชียงทองอันลือชื่อของหลวงพระบาง เป็นวัดที่สำคัญสำหรับชาวเมืองและมีความงดงามที่สุดเลยค่ะ งดงามจนกระทั่งได้รับการยกย่องจาก นักโบราณคดีว่า เป็นดั่งอัญมณีแห่งสถาปัตยกรรมลาว เลยทีเดียวจากนั้นเดินชมพระธาตุจอมพูสีที่เปรียบเสมือน หลักเมืองของหลวงพระบาง เป็นเนินเขาใจกลางเมือง มีบันใดประมาณ 328 ขั้น ระหว่างทางเดินขึ้นพระธาตุ มีต้นไม้จำปาลาวและดอกลั่นทมขึ้นระหว่างสองข้างทางซึ่งถือเป็นดอกไม้ประจำชาติลาวด้วย

12.30 น พักเหนื่อยหาอะไรลงท้องสักหน่อย เติมพลังจะได้ไปลุยเก็บภาพบรรยากาศกันต่อ อาหารวันนี้ซดน้ำร้อนๆก็อร่อยดีนะคะที่นี่เขาเรียกว่าเฝอ แต่บ้านเราเรียกก๋วยเตี๋ยวค่ะ ถ้วยนี้ราคาเบาๆ 65 บาท

เฝอ(ก๋วยเตี๋ยว)

13.30 เมื่ออิ่มแล้วหนังท้องเริ่มตึงๆ ง่วงละนั่งเรือข้ามฟากไปไหว้สักการะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กันดีกว่า ชมภาพเขียนสีโบราณบนผนังและ ที่สำคัญ คอแอลกอฮอล์เตียมตัวควักกระเป๋าจ่าย เพราะจะแวะชมวิธีการต้มเหล้าอันลือชื่อของชาวบ้านซางไห้เขามีให้ชิมฟรีด้วยนะ หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้ ค่าเรือข้ามฟากคนละ 10,000 กีบ หรือตกประมาณคนละ 43 บาทไทย นั่นเอง ค่าเข้าชมถ้ำปากอู คนละ 20,000 กีบ(87 บาท) เขามีเวลาเปิดปิดด้วยนะคะ ตั้งแต่ 08.00-17.00 น

19.00 กลับถึง ที่พัก รับประทานอาหาร ทำภารกิจส่วนตัวแล้ว ไปเดินเลือกซื้อของฝากที่ถนนคนเดิน ย่านใจกลางเมืองหลวงพระบางกัน ที่นี่เขาจะขายสินค้าพื้นเมือง จากชนเผ่าต่างๆ น่าสนใจมากๆ หรือจะไปเที่ยวเธคก็ได้นะ หรือบ้านเราเรียกว่าผับ เธคเมืองซวงจะเป็นเธคน่ารักๆ เด็กๆก็สามารถเข้าได้ เพราะเขาจะไม่ให้สูบบุหรี่ค่ะเข้าได้ทุกวัย ท่าเต้นก็จะน่ารักๆเป็นจังหวะของ บ้านเขาเองที่เรียกกันว่า บัดสะลบ เปิดตั้งแต่ 21.00-23.00 ค่ะ หลังจากนั้นก็กลับที่พัก เหลืออีก1 วัน สำหรับหลวงพระบาง

น้ำตกตาดกวางสี

09.00เช็คเอาท์กลับวังเวียงและออกเดินทางไปนั่งเล่นน้ำเย็นๆที่ นำตกตาดกวางสีซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดที่น้ำมีสีเขียวมรกตน่าเล่นมาก เป็นอุทยานแห่งชาติของลาว ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบางราวๆ 30 กิโลเมตร

11.00 ขึ้นรถไปที่กิ่วกระจำ เมืองผ่านที่จารจำ ระหว่างทางเดินกลับไปยังเวียงจันทร์ เส้นทางที่ปกคลุมไปด้วยเขาสลับซับซ้อนที่เขียวขจี รถวิ่งผ่านสลับภูเขาสูงต่ำสลับกันไป วิวธรรมชาติสองข้างทางที่สวยงดงาม ประทับใจมากๆ เป็นที่อยู่อาศัยของคนภูเขาลาวเทิงหรือม้ง ที่ยังคงเสน่ห์ ของการใช้ชีวิตในรูปแบบเดิมๆ ก่อนหน้านี้ในอดีต กิ่วกระจำ เคยเป็นฐานที่มั่นเก่าของทหารผ่านอเมริกาและทหารรับจ้างชาวไทย ที่เคยปะทะสู้รบกันมายาวนานในสมัยอดีต แต่ปัจจุบันมีบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆมากมายไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว เป็นเมืองผ่านที่จารจำจริงๆค่ะ

เมืองผ่านที่จารจำ

18.30 กลับถึงเวียงจันทน์ นั่งรถข้ามไปยังฝั่งไทย
เป็นอันจบทริป สบายดีหลวงพระบาง เมืองแห่งอารยธรรม เมืองแห่งนักบุญและวัฒนธรรมประเพณีที่สืบต่อกันมา และยังคงดำรงไว้ทุกอย่างเพื่อความเป็นเอกลักษณ์ ของชาวลาว