เที่ยวฝรั่งเศส 4 ฤดู มีทีเด็ดอะไรบ้าง


ฤดูกาลนับเป็นสิ่งที่ต้องเตรียมศึกษาก่อนจะไปท่องเที่ยวยังประเทศฝรั่งเศส เพราะจะบอกได้ถึงความแตกต่างได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ อุณภูมิ ช่วงเวลากลางวันกลางคืน ไปจนถึงการแต่งตัว เพราะยิ่งเรารู้เกี่ยวกับสภาพอากาศในแต่ละเดือนมากขึ้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งสามารถออกแบบแผนการเที่ยวให้เหมาะสมได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมยังทำให้การเตรียมตัวเรื่องอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้อย่างเสื้อกัน หนาว ถุงมือ และเสื้อผ้าได้พอดีกับอากาศ ยิ่งจะยกระดับการท่องเที่ยวให้สนุกสุดเหวี่ยง ไม่มีคำว่าเฟลให้เสียอารมณ์

เนื่องจากประเทศฝรั่งเศสนั้นค่อนข้างจะใหญ่และมีสภาพภูมิประเทศที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก ตั้งแต่แบบอบอุ่น ร้อนชื้นติดทะเล ไปจนถึงหนาวเย็นบนเทือกเขาสูง แต่โดยทั่วๆไปในฝรั่งเศสนั้นจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดูกาลหลักๆได้ชัดเจน ดังนี้

 

1. ฤดูใบไม้ผลิ  ( le  printemps ) 

Photo by Myrabella from commons.wikimedia.org/wiki/File:Bretagne_les_remparts_de_Vannes.jpg [CC by-sa 4.0]

เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนมิถุนายน นับเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวในการมาเยือนยังฝรั่งเศส เพราะอากาศไม่ร้อนไปหรือหนาวไปกำลังสบายๆเพียงแต่ถ้าช่วงต้นๆฤดูอาจยังหนาวอยู่บ้าง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ประมาณ 10 -18 องศาเซลเซียส ต้นไม้ก็ดูร่มรื่น ดอกไม้กำลังบานสะพรั่ง เรียกได้ว่าถ้ามาฮันนีมูนหรือมากับคู่รักแล้วละก็รับรองว่าฟินขั้นสุด จะไปเที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติ สวนดอกไม้ กระทั่งไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆการันตีว่าไม่มีสะดุด ที่สำคัญไม่ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวพร้อมอุปกรณ์กันหนาวไปให้เปลืองพื้นที่กระเป๋ามากนัก แค่เสื้อแขนยาว กลางเกงขายาว เสื้อคลุมซักตัว อุปกรณ์กันหนาวเบาๆ ก็พอเอาอยู่ แถมช่วงเวลานี้ยังอาจได้ไปเจองานแต่งงานของหลายๆคู่ในหลากหลายสถานที่ยอดนิยมมาให้อินกับบรรยากาศความโรแมนติกกันอีกต่างหาก อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดกันนั่นคือชิมสตรอเบอร์รีหลากหลายสายพันธุ์ออกวางขายตามท้องตลาดหรือซุปเปอร์มาเก็ตแบบละลานตา แถมขนมหวานนานาชนิดก็ยังมีสตรอเบอร์รีลูกโตๆเป็นวัตถุดิบหลักให้เลือกชิมกันแบบไม่หวาดไม่ไหว เรียกได้ว่าโรแมนติกตั้งแต่บรรยากาศยันอาหารการกินกันเลย และช่วงนี้ก็ยังมีช่วงเวลากลางวันกลางคืนที่ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับเมืองไทยด้วยคือพระอาทิตย์ขึ้นประมาณ 6 โมงเช้าและตกประมาณ 6 โมงเย็น

 

 

2. ฤดูร้อน( l’été )

Photo by Andyblind from commons.wikimedia.org/wiki/File:Lavender_field.jpg [CC by-sa 0.0]

เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนกันยายน ถือว่าเป็นช่วงที่ท้องฟ้าสีสดใสถ่ายรูปออกมาได้งามสุดๆ อากาศยังไม่ถึงกับร้อนจนทนไม่ไหว อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 20 – 30 องศาเซลเซียส แต่งตัวได้ตามสบายเหมือนเมืองไทยเลย มีเวลาการท่องเที่ยวในช่วงกลางวันได้ยาวนานมากกกว่าทุกฤดูกาล เนื่องมาจากพระอาทิตย์ตกดินช้ากว่าปกติ ขนาดว่าบางเดือนสองทุ่มยังดูสว่างอยู่เลย ถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูนี้นับว่าเป็นโบนัสที่จะเที่ยวเพลินได้นานๆ เหมาะที่สุดที่จะไปเมืองติดทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเมืองนีซ คานน์ และโมนาโก เพราะเรียกว่าไฮซีซั่นของแถบนั้นเลยก็ว่าได้ มีกิจกรรมกลางแจ้งและทางน้ำให้ทำกันเพียบ เอาแค่เดินเล่นชายหาดริมทะเลช่วงเช้าหรือเย็นก็คุ้มแล้ว คนแถบๆยุโรปนิยมมาอาบแดดตามชายหาดอย่างมาก  ฉะนั้นแถบเมืองติดทะเลจะได้รับความนิยมสุดๆคนอาจเยอะมากเป็นพิเศษ  หากไม่อยากไปแนวเมืองทะเลแนะนำให้ไปเยือนแคว้นโพรวองซ์ในช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงกรกฎาคมเพราะเป็นช่วงที่สามารถชมทุ่งลาเวนเดอร์ได้สวยที่สุดของปี

 

 

3. ฤดูใบไม้ร่วง ( l’automne )

Photo by Daniel Jolivet from flickr.com/photos/sybarite48/5246915366 [CC by-sa 2.0]

เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายๆเดือนกันยายนไปจนถึงเดือนธันวาคม หนึ่งในฤดูกาลโปรดของหลายๆคนที่จะมาชมใบไม้เปลี่ยนสี เพราะที่ฝรั่งเศสรับประกับว่างดงามไม่แพ้แถบเอเชีย อีกทั้งยังมีมนตร์เสน่ห์จากกลิ่นอายสถาปัตยกรรมโบราณที่ดูคลาสสิกยิ่งขับให้ดูโรแมนติกขึ้นเป็นเท่าตัว ช่วงนี้อาจจะมีฝนตกบ้างเล็กน้อยแนะนำให้พกร่มคันเล็กๆติดกระเป๋าไว้ดีที่สุด เหมาะสุดๆสำหรับการไปเดินตามสวนสาธารณะ หรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีต้นเมเปิ้ลเยอะๆ เดินกลางแจ้งได้สบายๆเพราะแดดไม่ค่อยแรง อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10 – 18 องศาเซลเซลเซียส ช่วงเวลากลางวันเริ่มจะสั้นขึ้นจะมืดค่อนข้างเร็ว อุดมไปด้วยผลไม้โปรดของหลายๆคนอย่าง องุ่น ลูกพลับ แพร์ และแอปเปิ้ล ที่จะรสชาติดีที่สุดในช่วงนี้ จะเริ่มหนาวขึ้นตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนอาจจะอุณหภูมิต่ำถึง 2-3 องศาเซลเซลเซียส ดังนั้นถ้าจะมาช่วงนี้ควรเตรียมเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์ต่างๆมากกว่าฤดูใบไม้ผลิ และช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่กลางวันจะเริ่มสั้นลงเรื่อยๆแล้ว

 

 

4. ฤดูหนาว ( l’hiver )

Photo by Yann Caradec from flickr.com/photos/la_bretagne_a_paris/8400685120 [CC by-sa 2.0]

เริ่มตั้งแต่ช่วงปลายๆเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมีนาคม เรียกได้ว่าหนาวสะใจคนชอบอากาศหนาวกันเลย ที่สำคัญเป็นช่วงที่ตั๋วเครื่องบินและที่พักราคาถูกกว่าช่วงอื่นๆ อาจต้องแบกกระเป๋าที่หนักไปด้วยเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์กันหนาวต่างๆแบบครบสูตร เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ประมาณ 2 – 5 องศาเซลเซียส แต่ก็มีข้อดีหลายๆอย่างเอาง่ายๆแค่การแต่งตัวก็สามารถจัดหนักจัดเต็มแต่งแบบอลังการแค่ไหนก็ทำได้ สายแฟชั่นเต็มสูบน่าจะชอบเพราะที่เมืองไทยจะมาใส่แบบนี้คงมองกันเกรียวกราว จะไปเที่ยวที่ไหนๆก็เข้าคิวไม่ยาว คนไม่ค่อยพลุกพล่าน สถานที่ส่วนใหญ่จะปกคลุมด้วยหิมะจนกลายเป็นทัศนียภาพที่งดงามเหมือนภาพในฝันถ่ายรูปออกมาสวยอย่าบอกใคร ยิ่งคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬาบนหิมะอย่างสกี สโนว์บอร์ด หรือสไลเดอร์หิมะน่าจะถูกใจสุดๆ เพราะหิมะฟูๆแถวๆเทือกเขาแอลป์ก็มีสกีรีสอร์ทให้ได้ทั้งเล่นกีฬาสนุกๆไปพร้อมๆกับวิวที่สวยสุดใจ เพียงแต่จะมืดเร็วมากๆ จะไปเที่ยวที่ไหนต้องตรวจสอบช่วงเวลาเปิดปิดให้ดีเพราะส่วนมากฤดูหนาวจะปิดเร็วกว่าทุกๆฤดู นอกจากนี้ในช่วงปลายๆเดือนธันวาคมยังจะได้สัมผัสบรรยากาศแห่งคริสต์มาส จากการประดับประดาไฟทั่วทั้งอาคารบ้านเรือนไปจนสถานที่สำคัญๆที่ยิ่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลนที่เป็นภาพที่ยากจะละสายตา ตบท้ายด้วยสามารถเดินเที่ยวชิมและช็อปตามตลาดคริสต์มาสที่จัดตามเมืองใหญ่ๆได้อีกต่างหาก
Exit mobile version