บัตรการเดินทางประเภทต่างๆของฮ่องกง Octopus และ Tourist Pass

บัตรการเดินทางประเภทต่างๆของฮ่องกง Octopus และ Tourist Pass

บัตรต่างๆที่เกี่ยวกับการเดินทางในฮ่องกงมีอยู่หลายอย่างหลายประเภท มีทั้งแบบเติมเงิน Pre paid ที่เรียกว่า Octopus, แบบเหมาเป็นรายวัน ซึ่งก็มีที่ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆกันให้เลือกอีกหลายแบบ เพื่อไม่ให้สับสนเราจึงรวมเอาข้อมูลบัตรทุกแบบพร้อมเงื่อนไขและคำแนะนำในการใช้มารวมกันไว้ในหน้านี้เลย

1. บัตรเติมเงิน Octopus

บัตรเติมเงิน Octopus ใบเดียวเที่ยวทั่วฮ่องกง

เป็นบัตรที่ใช้จ่ายค่าเดินทางในฮ่องกงได้ทุกแบบ ทั้ง รถบัส, รถไฟ, รถราง, ที่จอดรถ, บริการต่างๆเช่น ตู้ Locker, ร้านอาหาร, ศูนย์อาหาร และใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อต่างๆได้ด้วย เป็นบัตรที่คนฮ่องกง 99% มีกัน และเป็นบัตรที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้ วิธีการใช้งานก็ง่ายเหมือนบัตรรถไฟฟ้าบ้านเรา แค่แตะที่แป้น ก็เรียบร้อย สามารถเติมเงินได้เองง่ายที่ตู้อัตโนมัติหรือที่เค้าเตอร์ตามสถานีรถไฟ ขั้นต่ำ 50 เหรียญ สามารถซื้อได้หลายแห่งเช่นตามสถานีรถไฟทุกสถานี เป็นบัตรใบเดียวทั่วฮ่องกงจริงๆ โดยจะมีอยู่ 2 แบบให้เลือก คือ

1.1 แบบเช่าบัตร (On-Loan Octopus Card) ซึ่งเป็นแบบที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกใช้ สามารถซื้อได้ตามสถานีรถไฟใต้ดินทุกแห่ง โดยมีราคาขั้นต่ำ 150 เหรียญ โดยเราจะมีเงินในบัตรที่ใช้ได้แค่ 100 เหรียญ ส่วนอีก 50 เหรียญจะเป็นค่ามัดจำบัตร ซึ่งเราสามารถคืนบัตรได้ โดยจะถูกหักค่าใช้บัตร 9 เหรียญ ตัวอย่างเช่น ถ้าเงินในบัตรเหลือ 25 เหรียญ เรานำไปคืน จะได้เงินมา 25 + 50 – 9 = 66 เหรียญ การคืนบัตร Octopus สามารถคืนได้ที่เค้าเตอร์ตามสถานีรถไฟทุกสถานี หรือที่สนามบินก็ได้ แต่ต้องระวังในกรณีที่บัตรเสียหายจะคืนไม่ได้

1.2 แบบซื้อบัตร (Sold Tourist Octopus Card) ทำขึ้นมาสำหรับคนชอบสะสมหรือต้องการเก็บไปเป็นที่ระลึก เพราะจะเป็นแบบที่เราซื้อบัตรมาเลย จะคืนบัตรไม่ได้ โดยจะเสียค่าบัตร 39 เหรียญ และในบัตรจะไม่มีเงินอยู่เลยต้องนำไปเติมเงินก่อนจึงจะใช้ได้ บัตรแบบนี้จะสามารถซื้อได้เฉพาะที่ร้านสะดวกซื้อเช่น 7/11 หรือแบบ Online เท่านั้น ไม่สามารถซื้อที่เค้าเตอร์ทั่วไปได้

2. บัตรแบบเหมาของสนามบิน Airport Express Travel Pass

ตัวอย่างบัตรแบบเหมาจากสนามบินฮ่องกง Hong Kong Airport Travel Pass

[wp_ad_camp_1]

จะเป็นแบบเหมาจ่าย ใช้ได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่จะอยู่ในฮ่องกงไม่เกิน 14 วันเท่านั้น ใช้กับรถไฟ MTR ได้ทุกสายยกเว้นสถานที่จะไปเซินเจิ้นประเทศจีน สามารถโดยสาร รถไฟ และรถบัส MTR ได้ไม่จำกัด 3 วัน ซึ่งแปลว่าสามาารถใช้ได้จากเวลาที่ใช้ครั้งแรก นับไปอีก 72 ชั่วโมง และไปจนถึงรถไฟขบวนสุดท้ายของวันนั้นด้วย เช่น เราใช้งานครั้งแรก วันที่ 1 เวลา 10 โมงเช้า จะสามารถใช้งานได้ถึงขบวนสุดท้ายของรถไฟในวันที่ 4 สามารถซื้อได้ที่ Counter Service ของสถานีรถไฟที่สนามบินเลย มี 2 แบบให้เลือกคือ

2.1. แบบนั่งสาย Airport Express เที่ยวเดียว ราคา 250 เหรียญ

2.2. แบบนั่งสาย Airport Express ได้ 2 เที่ยว ราคา 350 เหรียญ

3. บัตรข้ามไปประเทศจีน Touris Cross-Boundary Travel Pass

ตัวอย่างบัตรแบบเหมา Hong Kong Tourist Cross boundary Travel Pass

คล้ายกับบัตรแบบเหมาของสนามบิน แต่เปลี่ยนจากการใช้งาน Airport Express มาเป็นการใช้งานสถานี Lo Wu Station และ Lok Ma Chau stations ซึ่งเป็นสถานีที่เชื่อมต่อกับเมืองเซินเจิ้น(Shenzhen)ประเทศจีน ใช้งานได้ 2 เที่ยวสำหรับสถานี Lo Wu Station และ Lok Ma Chau และใช้ได้ไม่จำกัดสำหรับสถานีอื่นๆ ยกเว้นสาย Airport Express มีแบบ 2 แบบให้เลือกคือ

3.1 แบบ 1 วัน ราคา 100 เหรียญ เริ่มนับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งานจนถึงรถไฟเที่ยวสุดท้ายของวันรุ่งขึ้น

3.2 แบบ 2 วัน ราคา 140 เหรียญ เริ่มนับตั้งแต่วันที่เริ่มใช้งานจนถึงรถไฟเที่ยวสุดท้ายของอีก 2 วันถัดไป

4. บัตรเหมาของ MTR Tourist Day Pass

ตัวอย่างบัตรแบบเหมา Hong Kong Tourist Day Pass

จะเป็นแบบเหมาจ่าย ใช้ได้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่จะอยู่ในฮ่องกงไม่เกิน 14 วันเท่านั้น ใช้กับรถไฟ MTR ได้ทุกสายยกเว้นสาย Airport Express และ สถานที่จะไปเซินเจิ้นประเทศจีน สามารถโดยสาร รถไฟ และรถบัส MTR ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งเป็นเวลา 1 วัน โดยนับเป็นแบบ 24 ชั่วโมง หลังจากที่เริ่มใช้งานครั้งแรก เช่น เริ่มใช้งานครั้งแรกตอน 10 โมงเช้า ก็จะสามารถใช้ได้จนถึง 10 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น สามารถหาซื้อได้ตามสถานีรถไฟใต้ดินทั่วไป บัตรนี้มี 2 แบบคือ

4.1 บัตรผู้ใหญ่ Adult Tourist Day Pass อายุ 11 ปีขึ้นไป 1 วันราคา 65 เหรียญ

4.2 บัตรเด็ก Child Tourist Day Pass อายุ 3-11 ปี 1 วันราคา 30 เหรียญ

สรุปโดยรวมเรื่องการเดินทางในฮ่องกง เราแนะนำให้ใช้บัตร Octopus แบบเช่า คือซื้อมาครั้งแรกจ่าย 150 เหรียญ ใช้ได้ทันที 100 เหรียญ แล้วทำไมไม่ใช้แบบเหมา? เพราะว่าจากประสบการณ์ของทีมงานและคนอื่นๆที่ไปเที่ยวมาส่วนใหญ่ที่ใช้ในหนึ่งวันมักจะไม่ค่อยถึง 65 เหรียญ เช่นการเดินทางไปกลับจากเกาะลันเตาที่มีพระใหญ่นองปิงและดิสนีย์แลนด์ซึ่งมักจะใช้เวลาทั้งวันแล้ว กลับมาที่สถานีฮ่องกงก็ยังไม่ถึง 50 เหรียญเลย นอกจากว่าจะยังมีไปเที่ยวต่ออีก อย่างน้อย 2 แห่งก็อาจจะเท่ากับราคาบัตรแบบเหมา 1 วันได้ ทำให้การซื้อแบบเหมาจึงมีความเสี่ยงที่อาจจะใช้ได้ไม่ถึงมากกว่า เราจึงแนะนำให้ใช้บัตรแบบเติมเงิน Octopus ก็พอ

บัตรทุกแบบจะมีการใช้งานง่ายๆเพียงแค่ 2 แบบ คือ

วิธีการใช้งานบัตร Octopus

1. แบบแตะที่แป้น

2. แบบสอดเข้าช่องแล้วดึงออก