อุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อ (Taroko National Park)
อุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อ(Taroko National Park, 太魯閣國家公園)หรือที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเรียกกันติดปากว่า “ทาโรโกะ” สุดยอดสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อยอดฮิตติด 1 ใน 3 ของไต้หวัน ด้วยทัศนียภาพของหุบเขาและเทือกเขาสลับซับซ้อนสวยงามของภูเขาหินอ่อนอันสูงใหญ่และหน้าผ้าสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำมาเป็นเวลานานกว่า 200 ล้านปี
ไท่ลู่เก๋อมีพื้นที่กว้างครอบคลุมประมาณ 1,200 ตารางกิโลเมตรประกอบด้วย 27 ยอดเขาภายในมีทั้งถ้ำ, น้ำตก, น้ำพุ, ลำธาร, จุดชมวิวต่างๆ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงร้านค้า, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึกและห้องน้ำสาธารณะไว้คอยให้บริการ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวเหนื่อยหรือลำบากแต่อย่างใดคุณสามารถเดินเล่นได้ชิลๆ ชมนก ชมไม้ตลอดข้างทางรวมถึงสายน้ำเขียวมรกตของแม่น้ำหลี่วู่ที่ตัดผ่านกลางหุบเขา และภูมิทัศน์ภูเขาหินอ่อนสุดอลังการที่มีลักษณะเป็นหุบเขาลึกราว 18 กิโลเมตรถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่งดงามของเอเชีย เมื่อเหนื่อยก็แวะพักทานอาหาร เข้าห้องน้ำแล้วก็กลับมาเดินเล่นต่อให้อย่างสะดวกสบาย
หากวางแผนจะมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อควรใช้เวลา 2 วัน 1 คืนถือว่ากำลังดีแต่หากมีเวลาจำกัดการเที่ยวแบบวันเดียวก็สามารถทำได้เช่นกันทว่าก็ไม่สามารถเดินชมได้อย่างละเอียดมากนักและอาจจะเหนื่อยกับการเดินทางไปกลับอยู่สักหน่อย จุดชมวิวที่น่าสนใจภายในเขตอุทยาน ได้แก่ อุโมงค์เก้าโค้ง, หอที่รำลึกฉางชุน, สะพานหินอ่อน เป็นต้น
นอกจากการเส้นทางเดินชมธรรมชาติและการพักแวะจุดชมวิวสวยๆ เพื่อถ่ายรูปแล้ว คุณยังสามารถเข้าไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์อันยาวนานของอุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อได้ที่ Visitor Center เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาได้อีกด้วย
จุดท่องเที่ยวสำคัญ
1. เส้นทางเดินชมธรรมชาติ Xiaozhuilu
เป็นเส้นทางลาดชันไปสู่ที่ต่ำเพื่อเดินไปยังแม่น้ำหลี่วู่ที่อยู่นอกอุโมงค์ Shakadang เริ่มต้นเส้นทางด้วยทางเดินกระดานไม้ที่ลาดชันไปตามทางสายน้ำจากแม่น้ำหลี่วู่ ทางทิศตะวันออกมีหน้าผา ทิวทัศน์โดยรอบเป็นต้นไม้สูงใหญ่ที่เจริญเติบโตบนหน้าผาสูงชัน และสะพาน Jinwen ที่เป็นไฮไลท์เด่นของอุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อ
2. Taroko Terrace
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวถือเป็นจุดแรกที่คุณจะได้เจอตั้งอยู่ทางด้านขวาของทางเข้าของถนนทางหลวง Central Cross-Island เป็นอาคารสีแดงอิฐ มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการที่สำคัญ เช่น ห้องสิ่งแวดล้อมของเรา, มนุษย์กับสิ่งแวดล้อม, ห้องการศึกษาสิ่งแวดล้อมและห้องนิทรรศการพิเศษ คอยให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางแก่นักท่องเที่ยว
เวลาเปิดทำการ: 8:45-16:45 น. ปิดทุกวันจันทร์ในสัปดาห์ที่สองของเดือน
3. เส้นทางเดินในหุบเขา Shakadang
หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Mysterious Valley Trail” มีความหมายว่า “ตามหุบเขาลึกลับ” แต่ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “Shakadang Trail” ในปี 2001 ถูกสร้างขึ้นตามแนวหน้าผาแม่น้ำเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถสังเกตเห็นหินจากหุบเขาและระบบนิเวศของพืชข้างในแม่น้ำ ในเดือนพฤษภาคมจะเป็นช่วงที่มีดอกไม้บานสะพรั่งสวยงาม
4. ศาลบรรพชนฉางชุน (Eteranal Spring Shrine)
จากทางออกทางตะวันตกของอุโมงค์ฉางชุนบนทางหลวง Central Cross-Island แล้วหันไปทางทิศใต้ (ซ้าย) และไปตามทางเดิมของทางหลวง Central Cross-Island เพื่อจอดรถติดกับแม่น้ำหลี่วู่คุณก็จะได้เจอกับศาลบรรพชนฉางชุน สถานที่รำลึกถึงทหาร 226 นายที่เสียชีวิตระหว่างการก่อสร้างทางหลวง Central Cross-Island ช่วงปี 1956 – 1960 นับเป็นจุดชมวิวสำคัญที่เป็นไฮไลท์อย่างหนึ่งของที่นี่เลยทีเดียว
5. ที่ราบบนเนินเขา Buluowan
เส้นทางที่อยู่ถัดจากอุโมงค์ฉางชุนและข้ามสะพาน Ning’an ไป 300 เมตรก่อนถึงเขื่อน Xipan เป็นที่ราบบนเนินเขาขนาดใหญ่เหมาะสำหรับการมาปิกนิกและพักผ่อน เป็นพื้นที่ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุด
6. จุดชมวิว Yanzihkou (Swallow Grotto)
สุดยอดจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋ออยู่ใกล้ส่วนกลางของอุทยานตั้งอยู่ถัดจาก Buluowan
7. อุโมงค์เก้าโค้ง Tunnel of Nine Turns
เส้นทาง Jiuqudong (Tunnel of Nine Turns – อุโมงค์เก้าโค้ง) ตั้งอยู่ระหว่างพื้นที่ Lüshui และ Swallow Grotto มีเส้นทางคดเคี้ยวส่วนหน้าเป็นภูเขาหินอ่อนขนาดใหญ่ ทัศนียภาพตื่นตาตื่นใจพร้อมกับชมแม่น้ำหลี่วู่ ปัจจุบันยังไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเนื่องจากอยู่ในระหว่างฟื้นฟู
8. สะพาน Cimu
จากเส้นทาง Jiuqudong คุณก็จะได้เจอกับจุดถ่ายรูปยอดฮิตกับสะพานเหล็กสีแดงหรือสะพาน Cimu ประดับด้วยหินอ่อนรูปสิงโตตั้งโดดเด่นอยู่ที่หัวสะพาน พื้นที่ศาลาเล็กๆ ทางด้านตะวันออกของสะพานถูกสร้างขึ้นโดยอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเชกเพื่อรำลึกถึงมารดานางหวัง
9. เส้นทาง Lushui
แต่เดิมสร้างเป็นถนนสายหลักสำหรับการคมนาคมในยุคที่ถูกญี่ปุ่นยึดครอง เป็นเส้นทางริมหน้าผาสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำหลี่วู่ได้ ทัศนียภาพเป็นหุบเขาและพืชหายาก ถ้าโชคดีคุณจะได้พบกับลิงแสมอย่างใกล้ชิด
10. เส้นทาง Baiyang
จุดเด่นคือน้ำตก Baiyang สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1984 มีส่วนทางเดินที่เป็นช่วงอุโมงค์ที่ค่อนข้างมืดแนะนำให้พกไฟฉายติดตัวไปด้วยจะดีมาก
การเดินทาง
รถไฟธรรมดา TRA จาก Taipei ไปยังสถานี Hualien ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง เวลาเที่ยวแรก 6.00 น. และเที่ยวสุดท้ายเวลา 21.45 น.
ค่าโดยสารประมาณ NT$ 440
ตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่ http://www.railway.gov.tw/en/timetable.aspx?n=19678
จากเมืองฮัวเหลียนไปยังอุทยานแห่งชาติไท่ลู่เก๋อมีหลายวิธีดังนี้
- แทกซี่นำเที่ยว ประมาณชั่วโมงละ NT$ 500 ใช้เวลาท่องเที่ยวอย่างน้อย 5 ชั่วโมง แต่หากเช่าเป็นวัน (ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง) จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ NT$ 3500 นั่งได้ประมาณ 4 คน
- รถบัสท่องเที่ยว 1 วัน NT$ 250 แบบ 2 วัน NT$ 400 ซึ่งรถบัสจะปล่อยไว้ตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00 – 18.00 น. เริ่มต้นเส้นทางตั้งแต่สถานีรถไฟฮัวเหลียน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://hualiendaytripper.blogspot.tw/2012/12/touring-taroko-gorge-using-tourist.html
- เช่ามอเตอร์ไซด์ หากเลือกวิธีนี้คุณจะต้องมีใบขับขี่สากลเสียก่อน ค่าเช่าประมาณ NT$ 200 – 500 ต่อวัน แต่ไม่แนะนำวิธีนี้เนื่องจากสภาพเส้นทางที่เราไม่คุ้นชินและรายรอบด้วยภูเขาอาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้
ค่าใช้จ่าย
เข้าชมฟรี
เวลาทำการ
เปิด 24 ชม.
เปิดทุกวัน