พิพิธภัณท์วิทยาศาสตร์ปารีส Paris science museum

พิพิธภัณท์วิทยาศาสตร์ปารีส(Paris science museum) หรือในชื่อภาษาฝรั่งเศสว่า Cité des Sciences et de l’Industrie เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบวงจร ที่นี่นับเป็นศูนย์กลางที่มุ่งเน้นส่งเสริมวัฒนธรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างแท้จริง

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของปารีส Porte de la Villette ในเขตการปกครองที่ 19 ปารีส ประเทศฝรั่งเศส เปิดขึ้นในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ.1986 โดยการเปิดตัวของ Francois Mitterrand เนื่องในโอกาสของการประชุมภารกิจ Giotto และ Halley Comet พิพิธภัณฑ์นี้ถูกออกแบบโดยวิศวกร Ardrien Fainsiberc และ Peter Rice เป้าหมายหลักๆของที่นี้นั้นคือ เผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ภายในมีความงดงามตระการตาไปกับเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่ล้ำสมัย มีการจัดนิทรรศการงานวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์และอื่นๆอีกมากมาย

ไฮไลท์ของที่นีมีอยู่หลายอย่าง ได้แก่ ท้องฟ้าจำลองขนาดใหญ่, เรือดำน้ำของกองทัพฝรั่งเศส (Argonaute) , La geode ทั้งหมดนี้จัดแสดงบนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร (322,000 ตารางฟุต) โดยในแต่ละปีนั้นเฉลี่ยแล้วมีผู้เข้าเยี่ยมชมมากกว่า 5 ล้านคนเลย ทีเดียว พิพิธภัณฑ์นี้ล้อมรอบไปด้วย Parc de la Villette ซึ่งเป็นสวนสาธารณะที่มีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของปารีส สวนลานกว้างแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิมักจะมีการจัดแสดงภาพยนต์กลางแจ้งและคอนเสิร์ต

เข้ามาใน ท้องฟ้าจำลอง (planetarium) ที่สร้างขึ้นมาเพื่อนำเสนอความรู้เกี่ยวกับ ดาราศาสตร์แสดงให้เห็นระบบสุริยะจักรวาล ความสวยงามบนท้องฟ้าและดาวเคราะห์ต่างๆในยามราตรี จากการจำลองด้วยระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี ต่อมาคุณจะพบกับ La geode โดมรูปทรงกลมกระจกเงาที่สะท้อนท้องฟ้าด้วยเส้นผ่าศูนย์กลาง 36 เมตร ประกอบไปด้วย สแตนเลสทั้งหมด 6,433 ชิ้น ภายในเป็นโรงละครฉายภาพยนต์ในรูปแบบ IMAX ที่มีความละเอียดสูงในระบบ 3 มิติ บนจอขนาดใหญ่ ซึ่งจะถ่ายทอดเกี่ยวกับธรรมชาติสารคดีวิทยาศาสตร์

ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีพื้นที่เล่นสำหรับเด็กเล่น หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า cite des Enfants ซึ่งตรงนี้จะแบ่งออกเป็นสองโซน มีเวลาให้ 70 – 90 นาทีในเล่นเล่น คือ สำหรับเด็กเล็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 – 7 ขวบ และ เด็กโตที่มีอายุ 5 – 12 ปี รวมๆสภาพแวดล้อมมีบรรยากาศน่ารื่นรมย์ ที่จะช่วยให้เด็กๆนั้นมีส่วนร่วมกับการร่วมกิจกรรมที่สนุกสนานต่างๆและสามารถเข้าใจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้มากขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีจุดอื่นๆที่น่าสนใจ ได้แก่ อาคารเรือนกระจก bioclimatic facade ที่หันหน้าไปทางสวน les serres นี่คือตึกแห่งแรกที่ใช้กระจกเป็นโครงสร้างหลักของผนังทั้งหมด ,พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ,ห้องสมุดวิทยาศาสตร์ และตามมาด้วยบริการ ร้านอาหารต่างๆ ,ร้านกาแฟ ที่ชั้นล่าง, ร้านขายของและร้านหนังสือ ที่เปิดบริการให้แก่นักท่องเที่ยวในทุกๆวัน

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ให้ความสำคัญและสนับสนุนเรื่องราวทางด้านวิทยาศาสตร์เป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชนไปจนถึงผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตามในความก้าวหน้าของวิทยาการที่ทันสมัยอันน่าทึ่ง หรือประกอบแลนด์มาร์คที่อันงดงามเป็นเอกลักษณ์ ทั้งหมดนี้แสดงออกถึงความทุ่มเท ความตั้งใจที่จะทำให้พิพิธภัณฑ์นี้เป็นดั่งสนามแม่เหล็กซึ่งปัจจุบันนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยว นักศึกษา เข้ามาจำนวนมาก ราวกับมีพลังงานอะไรบางอย่าง รับรองว่าคุ้มค่ากับการเดินทางของนักท่องเที่ยวแน่นอนครับ