เที่ยวปารีสและเมืองรอบๆ 5 วัน 4 คืน มือใหม่ก็ไปได้


ถามว่าปารีสนั้นเที่ยวกี่วันถึงจะพอ คงเป็นสิ่งที่ตอบตายตัวค่อนข้างลำบาก เพราะแต่ละคนแต่ละแนวมีรูปแบบหรือความชื่นชอบแตกต่างกันไป โดยเฉพาะปารีสเองก็เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆโดนๆทั้งนั้น แถมยังมีเมืองรอบๆที่ไม่ไกลไปนักก็มีอะไรน่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากัน ครั้งนี้เราจึงได้คัดเอาแต่ไฮไลท์เด็ดๆของปารีสและพื้นที่ใกล้เคียง ในเวลาเที่ยว 5 วัน 4 คืน แบบที่ง่ายๆเดินทางไม่ยากมือใหม่ก็เที่ยวเองได้สบายๆ

 

▌วันที่ 1

Photo by Nithi Anand from commons.wikimedia.org/wiki/File:Eiffel_Tower_from_Champ-de-Mars,_2_August_2015.jpg [CC by 2.0]

ประเดิมวันแรกด้วยแลนด์มาร์กอันแสนโด่งดังของปารีสที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักอย่างหอไอเฟล(Eiffel Tower) จะนั่งจิบกาแฟอยู่แถวๆบริเวณฐานหรือขึ้นไปชมวิวชั้นสองเพื่อชมวิวทิวทัศน์เมืองปารีสก็เลือกแบบที่ชอบได้เลย ในส่วนบนยอดบนสุดก็สามารถขึ้นไปดูได้เพียงแค่ราคาก็เหมือนเพิ่มมากขึ้นตามระดับความสูง เพียงแต่ถ้าอยากจะขึ้นไปด้านบนควรมาเช้าๆเอาแบบเวลาเปิดเลยจะดีมาก เพราะนักท่องเที่ยวเยอะทุกวันถ้ามาช้าน่าจะต้องรอคิวยาว การเดินรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Trocadero จะมีป้ายบอกทางเดินตามมาได้เลย

Photo by Nexxt PRESS from flickr.com/photos/nexxtpress/35802612131/ [CC by-sa 2.0]

ต่อด้วยการชมเมืองผ่านการล่องเรือแม่น้ำแซน ที่จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวๆสำคัญแบบครบๆ โดยบริเวณที่ขึ้นเรือจะอยู่เยื้องๆกับหอไอเฟล ตกเย็นมาเดินถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของปารีสนั่นคือ ถนนช็องเซลีเซ ที่เรียงรายไปด้วยช็อปหรูๆ ข้างทางมีต้นไม้ขึ้นตลอดสองฝั่งและรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารยิ่งขับให้ถนนยิ่งโดดเด่นมากขึ้นเท่าตัว การเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินสาย 1 กับ 13 ลงที่สถานี Champs-Élysées – Clemenceau

 

▌วันที่ 2

Photo by alex hanoko from flickr.com/photos/alex_hanoko/6790054979/ [CC by-nd 2.0]

เริ่มต้นวันที่สองด้วยมหาวิหารน็อทร์ดาม (Notre Dame Cathedral) นับเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมกอทิกเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะด้านนอกที่มีลักษณะอันโดดเด่น มีรูปศิลปะปูนปั้นเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ด้านในตัวบานกระจกก็ประดับประดาไปด้วยกระจกหลายสีสัน มีอีกหนึ่งจุดไฮไลท์นั่นก็คือ Point Zero ที่เชื่อกันว่าถ้าได้มาเหยียบแล้วจะได้กลับมาปารีสอีกครั้ง อีกทั้งยังสามารถขึ้นไปด้านบนสุดเพื่อวิวเมืองมุมกว้างๆได้ด้วย การเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินลงสถานี Cité Station

Photo by Sebastian Bergmann from commons.wikimedia.org/wiki/File:Basilique_du_Sacré-Cœur_de_Montmartre_1.jpg [CC by-sa 2.0]

ไหนๆวันนี้ก็ทางโบราณสถานแล้วต่อกันยาวๆด้วยเนินมงต์มาร์ (Montmarte) เนินเขาที่มีความสูง 130 เมตรที่เรียกได้เป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ปารีสได้สวยมากที่สุด เพราะเป็นจุดที่สูงที่สุดแล้วของเมืองนั่นเอง บนเนินแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ซาเครเกอร์ ซึ่งนับเป็นจุดที่ช่วงเย็นๆจะมีนักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองมานั่งเพลินๆกันมาก รอบๆยังมีร้านอาหารให้เลือกหลายร้านเผื่อจะแวะทานมื้อค่ำซะที่นี่ก็ได้ การเดินทางนั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 ลงที่สถานี Anvers

 

▌วันที่ 3

Photo by Shadowgate from flickr.com/photos/shadowgate/27161283972/ [CC by 2.0]

เอาใจสายครอบครัวหรือผู้ที่ชื่นชอบการไปเครื่องเล่นต่างๆด้วย Disneyland Paris โดยจะแบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ ได้แก่ Disney Studio ภายในเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์ของดิสนีย์ การตกแต่งเหมือนหลุดเข้าในปราสาทเจ้าหญิงในเทพนิยายต่างๆ และ Disneyland Park เต็มไปด้วยเครื่องเล่นสุดมันส์ที่มีระดับเหมาะสมสำหรับเด็กเล็กจนถึงผู้ใหญ่ ความกว้างใหญ่ของพื้นที่ต่างๆรวมไปถึงบางทีที่คนเยอะๆจึงเหมาะที่จะใช้เวลาทั้งวันเพื่อดื่มด่ำความสนุกให้ฉ่ำปอด ตบท้ายด้วยการมีการประดับประดาสถานที่ด้วยแสงไฟพร้อมขบวนพาเรดของคาแรคเตอร์การ์ตูนยอดฮิตต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย สามารถใช้เวลาได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำแบบไม่มีคำว่าน่าเบื่อ การเดินทางนั่งรถไฟ RER สาย A ลงที่สถานี Marne la Vallée Chessy

 

▌วันที่ 4

Photo by Michal Osmenda from commons.wikimedia.org/wiki/File:Claude_Monet_house_and_garden_in_Giverny_(8741496041).jpg [CC by-sa 2.0]

มาเสพบรรยากาศความเป็นนอกปารีสกันบ้างที่หมู่บ้าน Giverny เพื่อเที่ยวยังบ้านและสวนของ Claude Monet ซึ่งเคยเป็นบ้านของศิลปินชื่อดังของฝรั่งเศสนามว่า Monet ตัวบ้านจะเป็นแบบสถาปัตยกรรมยุโรปที่เห็นตามชนบท ภายในบ้านยังมีการจัดแสดงส่วนต่างๆเสมือน Monet ยังมีชีวิตอยู่ สวนรอบๆที่ยิ่งขับให้บ้านยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก เพราะตัวสวนมีการจัดอย่างร่มรื่นมีไม้ดอกนานาพันธุ์ โดยมีสระดอกบัวมีสะพานโค้งสไตล์ญี่ปุ่นพาดผ่านที่จะสวยงามมากที่สุดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ถ้าเวลาเหลือๆยังสามารถเดินมาพิพิธภัณฑ์อิมเพรสชั่นนิมส์ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกัน การเดินทางจากปารีสมายัง Giverny ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ  สามารถเดินทางจากปารีสที่สถานี Paris Saint-Lazare มาลงที่สถานี Vernon แล้วค่อยต่อรถบัส La Navette ที่จะอยู่ด้านหน้าสถานี

 

▌วันที่ 5

Photo by Simon Matzinger from flickr.com/photos/simonmatzinger/13284596793/ [CC by 2.0]

ปิดท้ายทริปปารีสด้วยเมือง Versailles ที่เป็นสถานที่ตั้งของพระราชวังแวร์ซายอันหรูหราอลังการ ด้วยความใหญ่โตของตัวพระราชวังที่แต่ละห้องล้วนตกแต่งอย่างตระการตา หลายๆห้องมีภาพวาดบนเพดานนี่สวยจนแทบลืมหายใจ แค่บริเวณห้องโถงต่างๆที่มีแชนเดอเลียร์แก้วระโยงระยางก็หรูหรามากแล้ว และพลาดไม่ได้กับห้องกระจกที่โดดเด่นด้านความงามและยังมีความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ด้วย สวนด้านนอกก็มีดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะพื้นที่อันกว้างขวางและยังมีการจัดแต่งสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆที่เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสวนต้นแบบของฝรั่งเศส การเดินทางจากปารีสก็ไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว เพราะใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยนั่งรถไฟ RER สาย C ลงที่สถานี Versailles Rive Gauche เดินต่ออีกไม่เกิน 10 นาทีถึง