ไปเที่ยวระยอง 2 คืนก็สบายแบบนี้แหละ

บทความนี้เป็น Advertorial Content เนื้อหา ข้อมูล และรูปภาพทั้งหมดมาจากผู้สนับสนุน เว็บไซต์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบใดๆ

อัพเดตล่าสุดเมื่อ 21 กรกฎาคม 2567

 

Let’s Get SUMMER !

ก่อนวันลาพักร้อนที่เหลือของปีที่แล้วจะหมดอายุไปเสียก่อน ก็ต้องรีบใช้วันลาเก่า ๆ และหาที่ออกไปรับวิตามิน Sea ให้อินเทรนด์ซะหน่อย แต่ด้วยตารางงานและเวลาแล้ว ไปค้างสักสองคืนก็กำลังดี ยิ่งหนีไปช่วงกลางสัปดาห์ ให้นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่านยิ่งดีใหญ่เลย ว่าแต่จะไปที่ไหน แบบที่ชิดติดขอบทะเล ธรรมชาติสมบูรณ์ คนไม่เยอะ ไม่เอาที่ๆ วุ่นวาย แถมไม่ไกลมาก และความเจริญเข้าถึงบน Concept นี้ ก็คงหนีไม่พ้นที่นี่เลย ระยอง


ขอบคุณรูปภาพจาก : ร้านทะเลมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง  ระยอง

 

เริ่มทริปแบบสบาย ๆ ตื่นสายชิลล์ ออกจากบ้านสายๆ แบบไม่ต้องรีบเร่ง แล้วขับรถเรื่อย ๆ จากกรุงเทพมุ่งหน้าทางหลวงหมายเลข 7 (กรุงเทพ – ชลบุรี หรือมอเตอร์เวย์) ประมาณ 120 กิโลเมตรจนถึง อ.บางละมุง จากนั้นก็แยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 36 อีกประมาณ 60 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง เมื่อมาถึงก็ได้เวลาทานมื้อเที่ยงพอดี แวะทานอาหารริมหาดที่ร้านทะเลมีคลื่นเล็กน้อยถึงปานกลาง เป็นร้านบรรยากาศดีตกแต่งแบบโมเดิร์น – ลอฟท์เอาใจวัยรุ่น อาหารทะเลสด แถมยังมองเห็นวิวทะเลอีกด้วย ถือเป็นการเปิดทริปรับวิตามินซีอย่างดีงาม

หลังจากอิ่มท้องไปแล้ว ก็ยังไม่ถึงเวลาเช็คอินเข้าโรงแรม เลยไปเดินเล่นตามแบบฮิปสเตอร์ที่ถนนยมจินดา ถนนสายแรกของเมืองระยอง ย่านเมืองเก่าและแหล่งค้าขายตั้งแต่สมัยโบราณที่อยู่ขนานเลียบแม่น้ำระยอง ชมและถ่ายรูปบ้านเมืองที่ยังคงเอกลักษณ์เดิมสุดคลาสสิค ชิลล์ ๆ ไปกับการแวะร้านรวงต่าง ๆ แล้วพักชิมชาคลายร้อนที่ร้านราย็อง จนหายเหนื่อยก็มุ่งหน้าสู่ที่พัก

 

ทริปชิลล์ กับวันพักผ่อนสบายๆ แบบนี้ เราเลือกที่พักดีๆ เก๋ๆ สวย สบาย และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ก็ต้องที่นี่เลย ระยอง แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา อีกทั้งยังใหม่แกะกล่องที่สุดในย่านนี้อีกด้วย

 

Rayong Mariott Resort and Spa

ความเริดของที่นี่นอกจากความเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พื้นที่รอบๆ โรงแรมก็กว้างขวางมาพร้อมวิวดีๆ และเป็นที่พักติดทะเล ที่สำคัญสระว่ายน้ำติดริมชายหาดขนาดใหญ่มาก แถมการตกแต่งก็ทันสมัย ในส่วนของห้องพักก็ดีมากๆ ห้องกว้างขวาง มีระเบียงที่สามารถเห็นวิวทะเลจากห้องพักได้ และพิเศษสุดกับอ่างจากุชชี่แบบกึ่ง Open ที่สามารถนอนแช่น้ำในอ่างพร้อมดูวิวท้องทะเลสีฟ้าครามสุดสายตาไปพร้อมๆ กัน หากมากับแฟนบอกเลยว่า โรแมนติกสุดๆ แต่ถ้ามากับเพื่อน หรือครอบครัวก็ชิลล์สุดยอด คุ้มค่ากับราคาที่ได้จ่ายไป หากจองที่พักกับ Traveloka ราคาประมาณ 4,3xx บาท

เช้าวันใหม่ หลังจากตื่นมารับลมทะเล เดินเล่นริมชายหาดของโรงแรม และทานอาหารเช้าแล้ว ก็รีบแพ็คกระเป๋า เตรียมเช็คเอ้าท์ เพื่อมุ่งหน้าไปต่อที่ ท่าเรือบ้านเพ เพื่อขึ้นเรือไปเกาะเสม็ด มารับวิตามิน Sea ถึงระยองทั้งที ก็ต้องเสร็จที่เกาะเสม็ด ถึงจะถูก เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง โดยเรือข้ามไปเกาะเสม็ดมีให้เลือกหลายเจ้า ให้บริการตลอด 24 ชม. และมีเวลาออกเรือแทบทุกชั่วโมง จึงไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาสักเท่าไหร่ แต่ถ้าใครรีบเหมา Speed Boat ก็ได้ไม่ว่ากัน เรือโดยสารใช้เวลาเดินทางเพียง 40 นาที เราก็มาเหยียบบนเกาะเสม็ดเรียบร้อยสมใจหมาย มาถึงที่เกาะปุ๊บก็พุ่งไปเช่ามอเตอร์ไซด์รายวัน ที่เรียงหน้าชะเง้อรอกันอยู่แล้ว ราคาค่าเช่าอยู่ที่ 200 – 300 บาท เพื่อความสะดวกในการเดินทาง แต่ถ้าใครขี่มอเตอร์ไซด์ไม่แข็ง บนเกาะมีรถสองแถวเล็กไว้ให้บริการ ขึ้นเกาะมาเช่ารถเสร็จก็ได้เวลาท้องร้องพอดี รีบบิดรถไปหาของกินกันเลย หลังจากเคลียร์เรื่องท้องจบเพลินจนเกือบลืมเวลาเช็คอินเข้าที่พัก ดีนะที่ร้านอาหารนี้เป็นร้านอาหารที่อยู่ในบริเวณที่พักที่เลือกไว้บนอ่าวพร้าวนี่เอง ที่ เลอ วิมาน คอทเทจ แอนด์ สปา

Le Vimarn Cottage & Spa

ที่พักหรูบนอ่าวพร้าว แสนสงบและใกล้ชิดธรรมชาติบนชายหาดส่วนตัว ในตกแต่งแบบ Boutique Tropical Garden ที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง เหมาะอย่างยิ่งกับวันพักผ่อนแสนสบาย ให้ได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและสมองแบบลืมโลกที่จากมากันเลยทีเดียว เราจองผ่าน Traveloka เหมือนเคย สามารถเข้าไปดูราคาก่อนได้ ที่นี่

เข้าห้องพักเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว เดินชมรอบบริเวณที่พักเพลินซะจนเกือบเย็น วางแผนไว้ว่าจะตะลอนเที่ยวรอบเกาะ รีบสตาร์ทรถเครื่องเลย ขับวนรอบเกาะจนครบทุก หาด ทั้งหาดน้อยหน่า หาดวงเดือน หาดทรายแก้ว หาดไผ่ หาดลุงหวัง หาดปะการัง หาดกิ่ว หาดหวาย อ่าวนวล หาดลุงดำ และหาดแสงเทียน แต่ละอ่าว แต่ละหาด ทรายขาว น้ำทะเลใส และสวยในแบบของตัวเอง แต่ขอแนะนำถ้าจะดูวิวตะวันตกดินในจุดที่สวยที่สุดของเกาะเสม็ดแล้วต้องที่อ่าวพร้าว เพราะตัวอ่าวตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกพอดิบพอดี

 

พอเริ่มค่ำก็ต้องตามหาแสงสี นั่งดื่ม ฟังเพลงชิลล์ ๆ สักหน่อย วนรถเพื่อไปนั่งที่บาร์ชิด ๆ เก๋ ๆ ยอดฮิตของเกาะ ที่ Bar and Bed กับบาร์ริมหาดติดสระว่ายน้ำสีแดงแสนฮิป ใน Concept Sleepless Society เอาใจคนนอนดึกด้วยแนวเพลงเฮ้าส์ เรทโทร และอิเลคโทร ชิลล์เพลินจนไม่อยากเข้านอน พอเริ่มจะหาวนอน ก็รีบกลับเข้าที่พักดีกว่า แอบบอกไว้นิดว่านอกจากร้อนอาหารและบาร์ ที่นี่ยังมีที่พักด้วยสวย เก๋ ฮิปไม่แพ้บาร์เลย

 

เสียงคลื่นกระทบหาดปลุกให้เริ่มรับวันใหม่อย่างสดใส วันสุดท้ายของการพักผ่อนเช็คเอ้าท์จากที่พักและขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง ใช้เวลาไม่นานก็ขึ้นฝั่งที่ท่าบ้านเพ แวะชอปปิ้งของฝากที่ ตลาดท่าเรือนวลทิพย์ ก่อนจำใจหันหลังลาจากเกาะเสม็ด ระหว่างขากลับก็ยังแอบแวะพักหาของว่าง และเครื่องดื่มรองท้องที่ ตลาดเกาะลอย ตลาดย้อนยุคเล็ก ๆ ในบรรยากาศของชุมชนเก่า ชอปของฝากอีกเล็กน้อย ก่อนจะต้องลาจากวันพักผ่อนแสนสบายที่ระยองกลับเข้ากรุงเทพจริง ๆ เสียที

ถ้าใครสนใจทริประยอง สองคืนชิลล์ๆ แบบนี้ จะดำเนินรอยตามก็ไม่ว่ากันอยู่แล้ว จะได้ชิลล์กันไปตา ๆ กัน แต่ขอบอกนิดนึงว่า ถ้าลงเวลาว่างไม่ได้แล้วต้องไปทริประยองช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือช่วงหยุดยาวด้วยแล้ว บอกเลยว่าให้จองที่พักไว้ก่อนล่วงหน้า เพราะช่วงซัมเมอร์แบบนี้ คือช่วงพีคสุดๆ ของที่ท่องเที่ยวติดทะเลอย่างระยอง ถ้าจองที่พักช้า มีหวังที่พักเต็มหมด อดเที่ยวแน่ๆ เรามีแอฟพลิเคชั่นจองที่พักมานำเสนอ Traveloka รับรองว่าจองแล้วมีที่พักชัวร์ คลิกที่นี่ ที่พักทั้งหมดในระยองก็จะเรียงรายการออกมาให้เลือกสรร แสนง่ายและสบายขนาดนี้แล้วต้องรีบจัดซะเลย


บทความนี้เป็น Advertorial Content เนื้อหา ข้อมูล และรูปภาพทั้งหมดมาจากผู้สนับสนุน เว็บไซต์นี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบใดๆ