พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน
พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน เป็นพระราชวังที่แปรพระราชฐานของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 แห่งราชวงศ์จักรี ในช่วงคิมหันตฤดู ตั้งอยู่ในทำเลธรรมชาติ ติดทะเล ที่ใช้สถาปัตย์แบบไทยประยุกต์และวัสดุก่อสร้างที่น่าสนใจ อีกทั้งอายุของพระราชวังที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทำให้ที่นี่กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเพชรบุรี
นักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติ ชื่นชมมรดกไทย พระที่นั่งแห่งนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง รูปแบบสถาปัตยกรรมของที่นี่ เป็นแนวบ้านพักตากอากาศ จึงมีอาคารใต้ถุนโล่ง ทางเดินชั้นบนที่มีหลังคาปกคลุมที่ทอดตรงไปสู่ทะเล บรรยากาศโดยรอบดูร่มรื่น ได้รับการบำรุงรักษาทั้งอาคารและสภาพแวดล้อม เหมือนไม่ใช่อาคารที่มีอายุเป็น 100 ปี แน่นอนว่า เคยมีการบูรณะมาแล้วบ้าง แต่สภาพที่เห็นยังเป็นศิลปะสถาปัตยกรรมดั้งเดิม
พระที่นั่งที่นี่ทั้ง 3 หลังมีระเบียงเชื่อมต่อถึงกัน เป็นแนวการสร้างสไตล์ฝรั่ง ที่เรียกว่า คัฟเวอร์เวย์ ทางเชื่อมมีหลังคาปกคลุม ความพิเศษของพระราชวังที่โดดเด่นคือ สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง นอกจากนั้นก็เป็นโซนสวนที่น่ารื่นรมย์
สมุทรพิมาน เป็นพระที่นั่งหลังใหญ่ที่ต่อเนื่องกับสโมสรเสวกามาตย์ ที่นี่มีความสำคัญยังคงเก็บรักษาสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 6 เอาไว้ในบางส่วน ภายในยังมีห้องสำคัญๆ เช่น ห้องพระบรรทม ทรงพระอักษร ห้องสรง ฯลฯ ดูจากภายนอกจะเห็นเป็นเรือนไทยประยุกต์ ตรงกลางมีศาลารูปสีเหลี่ยม มีเส้นทางมุ่งสู่ทะเล ส่วนใกล้ทะเลที่สุดเป็นพลับพลาที่ประทับ
พิศาลสาคร เดิมเป็นที่ประทับของเจ้านายฝ่ายหญิงทั้งพระวรราชชายา และพระสนมเอก รวมถึงข้าราชการฝ่ายในด้วย ที่นี่มีทางลงทะเลเช่นกัน
สโมสรเสวกามาตย์ พระที่นั่งแห่งนี้เคยเป็น “สโมสร” คือที่ประชุมจัดงานต่างๆ จึงเน้นเป็นที่เปิดโล่ง จุคนได้ครั้งละมากๆ มีโซนระเบียง ปัจจุบันเป็นโซนแสดงความเป็นมาของพระราชนิเวศแห่งนี้
สวนต่างๆ ของที่นี่จะตั้งชื่อโดยอ้างอิงผลงานการประพันธ์ พระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 ที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดีจนถึงยุคปัจจุบัน คือ เวนิสวานิช ศกุนตลา และมัทนะพาธา
ซึ่งแต่ละโซนมีการจัดประดับตกแต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวต่างๆ เช่น
“เวนิสวานิช” เป็นสวนสไตล์เรอเนสซอง เนื่องจากเวนิสวานิชเป็นพระราชนิพนธ์ที่แปลจากผลงานของวิลเลี่ยม เช็กสเปียร์ อารมณ์การชมสวนนี้จะเป็นฟีลเมืองเวนิส
“ศกุนตลา” ปูพื้นด้วยอิฐสีแดง รอบๆ ปลูกหญ้าสีเขียวๆ สองสีตรงข้ามตัดกันยิ่งทำให้มีความเด่น และมีความร่มรื่นจากต้นไม้ใหญ่ ไม้ประดับ ดอกไม้งดงาม ในอดีตที่นี่เคยเป็นเวทีแสดงโขน
สุดท้าย “มัทนะพาธา” ตำนานแห่งความรัก หญิงสาวที่ถูกสาปให้เป็นดอกกุหลาบ สวนนี้งดงามด้วยต้นไม้ที่มีการตัดและตกแต่งอย่างมืออาชีพ บรรจงแต่งเหมือนความงดงามของฉันทลักษณ์ของฉันท์ที่เชิดชูให้เรื่องราวความรักในมัทนะพาธากลายเป็นรักอมตะและมีแง่คิดของความรักที่มีความงดงามแม้จะเศร้าก็ตาม
วันเวลาเกือบ 100 ปีที่ผ่านไป ไม่ได้ทำให้พระราชนิเวศแห่งนี้คลายความงดงาม เป็นอดีตที่ควรอนุรักษ์ เป็นสถาปัตย์ที่ควรให้อนุชนรุ่นหลังได้ชื่นชม
ที่ตั้ง
1281 เพชรเกษม ต.ห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี