สะพาน Eiserner Steg

Eiserner Steg /Iron Bridge เป็นสะพานเหล็กเก่าแก่ของแฟรงค์เฟิร์ตข้ามแม่น้ำไมน์ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญยอดนิยมทั้งของชาวพื้นเมืองและชาวต่างประเทศ

สะพานเหล็ก Iron Bridge แห่งนี้ มีสีเขียวโดดเด่น สัญลักษณ์ที่ทำให้รู้ว่าที่นี่เป็นที่นิยมของผู้คนทั่วไปคือ การนำแม่กุญแจไปคล้องตามสะพาน ทั้งส่วนที่เป็นแนวกั้นสะพาน ตามเสาสะพาน เบื้องต้นไม่ได้ระบุว่า เริ่มเป็นธรรมเนียมนำแม่กุญแจไปคล้องไว้ที่สะพานเป็นสัญลักษณ์เมื่อใด แต่ยิ่งนับวันยิ่งมีกุญแจห้อยอยู่ที่สะพานเหล็กแห่งนี้มากขึ้นๆ และเพิ่มไอเดียในการห้อยกุญแจ การถ่ายภาพสิ่งเหล่านั้นมาเผยแพร่ต่อๆ กันไป จนกลายเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ และไม่ลืมที่จะนำกุญแจไปคล้องเมื่อแวะไปที่นี่

สะพานเหล็กเก่าแก่แห่งนี้ เริ่มเปิดใช้ตั้งแต่ปีค.ศ.1869 เป็นสะพานข้ามแม่น้ำ เชื่อมระหว่างตอนเหนือและตอนใต้ของแฟรงค์เฟิร์ต เมืองเก่าและมิวเซียมซูเฟอร์ กับซัคเซนเฮาเซนที่อยู่ด้านทิศใต้ของสะพาน สะพานแห่งนี้สร้างโดยการระดมทุนของประชาชนด้วยกันเอง เพื่อบรรเทาความคับคั่งจากการจราจรที่แต่เดิมมีเพียงสะพานเดียว และขาดการดูแลเอาใจใส่จากรัฐบาลที่แม้จะขอร้องก็ยังปฏิเสธที่จะให้งบก่อสร้าง

จากจุดเริ่มต้นการก่อสร้างที่สะพานเดิมถูกกองทัพเยอรมันทำลายทิ้งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อป้องกันการบุกรุกจากศัตรู แต่ที่สุดแล้วก็ได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปีค.ศ.1946 ด้วยยุคสมัย รูปแบบ ความแข็งแรง ทำเลที่ตั้ง ประกอบกับประโยชน์ใช้สอย อีกทั้งวิวทิวทัศน์ของฝั่งแม่น้ำ ทำให้ที่นี่เป็นสะพานที่มีคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์ คุณค่าจากภูมทัศน์แวดล้อมและคุณค่าที่มีนักท่องเที่ยวช่วยกันสร้างสรรค์ขึ้นมา

ด้วยความสูง 170 เมตร สะพานเหล็กแห่งนี้ มีตัวอักษรจารึกไว้เหนือสะพาน มีการบันทึกไว้ว่า ประโยคดังกล่าวมีที่มาจากมหากาพย์โอดิสซีย์ของโฮเมอร์ ซึ่งเป็นภาษากรีก ให้ความหมายเนื่องกับวิถีชีวิตของผู้คนว่า “ในขณะแล่นเรือผ่านกาฬนทีสีราวกับไวน์องุ่น ผู้คนต่างพูดจาด้วยภาษาที่ไม่คุ้นหู”

อาคารสีอิฐออกแดงๆ มีชื่อ Eiserner Steg  เชื่อมโยงกับสะพานเหล็กแห่งนี้ มีประติมากรรมบนหลังคา เสาไฟฟ้ามีประติมากรรมเด็กสองคน ที่นี่ผู้คนมากมายได้ใช้ประโยชน์ข้ามฝั่งแม่น้ำ เป็นทางลัด บางคนมาทำกิจกรรมบริเวณนี้ ด้วยความร่มรื่นจึงมีคนมานั่งเล่นริมน้ำ ชมวิวสองฟากฝั่ง ถ่ายภาพสวยงาม เพราะมีอาคารที่อยู่ริมน้ำซึ่งมีทั้งอาคารร่วมสมัย อาคารที่มีสถาปัตยกรรมโบราณต่างยุค ถ่ายภาพด้านล่างก็ได้อารมณ์หนึ่ง ถ่ายจากบนสะพานก็ได้มุมที่แตกต่าง ได้เห็นเรือที่มีคนโดยสารขนาดใหญ่ในแม่น้ำ มีคนพายเรือแคนู ด้านบนสะพานมีคนแวะมาเดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน

นักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือน มักเอาแม่กุญแจรูปแบบและสีสันสวยงามสารพัดมาคล้องที่สะพานแบบอิสระ กลายเป็นงานศิลปะที่ช่วยกันสร้างสรรค์ มีหลายสี นอกจากจะคล้องที่ลวดลายแนวสะพาน ยังมีการห้อยต่างๆ กัน บางคนเลือกเสาสะพาน กลายเป็นห้อยระย้าลงมาก็มี เห็นความพยายามของนักท่องเที่ยว กลายเป็นงานศิลปะที่คนพยายามป่ายปีนขึ้นไปล็อคกุญแจของตัวเองให้สูงๆ กลายเป็นเสาสะพานที่มีความอาร์ตในตัวเอง

มุมถ่ายภาพตัวราวสะพานซึ่งเป็นลูกกรงเหล็กลายดอกไม้อยู่แล้ว พอได้กุญแจสีๆ ไปผูกเพิ่มสีสันเหมือนติดริบบิ้นระย้าในงานคริสตมาส หรือปีใหม่ ทั้งวิวทั้งความอาร์ตที่ช่วยกันแต้มแต่ง กล้องในมือกดชัตเตอร์มือเป็นระวิงแน่นอน สะพานเดียวกัน ได้ภาพที่แตกต่างกันไปตามมุมมองของแต่ละคน

เมื่อเป็นความนิยมและอนุญาตให้ทำได้ ใครไปก็อย่าลืมแม่กุญแจ เลือกที่กิ๊บเก๋ติดมือไปด้วย จะสลักชื่อตัวเองก็สลักที่กุญแจที่เตรียมไป ไม่ควรเขียนอะไรไว้ที่ตัวสะพาน ทำให้สะพานไม่สวย อนาคตอาจเดือดร้อนคนดูแลต้องมาตามลบชื่อต่างๆ ที่ขีดเขียนเอาไว้ (ปัจจุบันมีเขียนไว้ไม่น้อย) เที่ยวอย่างอารยชนจะดีที่สุด

ที่ตั้ง

Mainkai 39, 60311 Frankfurt am Main, เยอรมนี