Photo from pixabay.com/sk/photos/n%C3%A1mestia-plaza-de-espa%C3%B1a-seville-1644624/ [CC0.0]

เมืองเซวิญ่า (Sevilla) นั้นเป็นเมืองหลักของแคว้นอันดาลูซิอา (Andalucia) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศสเปน รวมทั้งยังเป็นศูนย์กลางทางการเงิน วัฒนธรรม และศิลปะของแถบทางทิศใต้ของสเปน และยังเป็นเมืองน่าเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างมุ่งหน้ามาปักหมุดให้ได้ซักครั้งในชีวิตอีกด้วย นั่นก็เพราะเสน่ห์หลากหลายด้านของเมืองที่น่าหลงใหลไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคที่มีอยู่หลากหลายแห่ง สถานที่ทางประวิติศาสตร์ที่งดงามทรงคุณค่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก วัฒนธรรมการเต้นฟลาเมนโก้อันโด่งดังที่มีต้นกำเนิดอยู่ที่เมืองแห่งนี้ ทุกสิ่งผนวกรวมกันทำให้เป็นเมืองน่าเที่ยวที่ใครได้มารับรองว่าจะต้องหลงรักได้ไม่ยากเลยล่ะครับ

 

 

มหาวิหารเซวิลล์นั้นเป็นสถานที่ที่จะได้ชมทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคแบบยุคกลางอันงดงาม แต่ไม่ได้แค่งดงามเท่าอย่างเดียวนะครับ เพราะยังจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกใหญ่เป็นอันดับสามในบรรดามหาวิหารของคริสต์ศาสนจักรอีกด้วย  ไฮไลท์ดังๆมีทั้งหอระฆัง Giralda รวมทั้งยังสามารถเดินขึ้นไปชมวิว 360 องศาบนของหอระระฆังหอคอยสูงกว่า 35 ชั้นได้อีกต่างหาก แอบบอกกันนิดนึงว่าถ้ามีแพลนของขึ้นไปชมวิวนั้นไปเช้าๆหรือเย็นจะดีสุดนะครับ เพราะมันสูงมากจริงๆไปเที่ยวงๆ บ่ายๆนี่จะเพิ่มความเหนื่อยเข้าไปไม่รู้ตัว ที่สำคัญร่างกายควรพร้อมนะครับเห็นแบบนี้ใช้แรงไม่น้อยเลยทีเดียว

 

 

เมโทรโพล พาราซอล หรือที่เรียกอีกชื่อว่า “Las Setas” ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสุดแนวโมเดิร์นในย่านเมืองเก่าของเมืองที่อลังการงานสร้างมากๆเชียวครับ ทั้งสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นที่แปลกตาไม่เหมือนใครและยังเป็นอาคารที่โครงสร้างทำจากไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย ด้านในนั้นมีทั้งร้านค้าต่างๆมากมาย พิพิธภัณฑ์ และที่นี่ยังจะเป็นจุดที่สามารถชมวิวของเมืองได้ด้วยล่ะครับ

 

 

พระราชวังอัลคาซาร์แห่งเมืองเซวิญ่า ได้ชื่อว่าเป็นพระราชวังที่โด่งดังมากที่สุดของเมืองแห่งนี้ ด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างสไตล์ Mudéjar ที่แสนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีรายละเอียดในทุกซอกทุกมุมที่ละเมียดละไมแบบหาดูได้ยากมากๆ รวมทั้งยังเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงใช้งานอยู่ในยุโรปและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ในปี ค.ศ. 1987

 

 

พลาซ่าเดอเอสปานา เป็นจัตุรัสย่านกลางเมืองที่เป็นที่นิยมอย่างมาก โดดเด่นด้วยอาคารครึ่งวงกลมสไตล์สเปนทางใต้ที่ตั้งเด่นเป็นสง่า วันหยุดหรือช่วงเย็นๆนี่เต็มไปด้วยผู้คนจำนวนมากมาทำกิจกรรมต่างๆ โดยบางทีก็จะมีการแสดงกลางแจ้งมาให้ได้ชมอยู่เนืองๆ นอกจากการได้ชมของสวยๆงามแล้วนั้นยังจะถือว่าเป็นจุดที่ทำให้เราได้เข้าใกล้วิถีชีวิตของคนเมืองนี้ได้มากขึ้นอีกก้าว

 

 

สวนธรรมชาติที่เป็นเสมือนโอเอซิสให้ได้ผ่อนคลายกันอย่างเต็มอิ่ม มีทั้งพื้นที่สีเขียวที่เต็มไปด้วยต้นไม้เรียงรายสลับกับสวนดอกไม้ตามฤดูกาลอย่างงดงาม หลายๆจุดมีการตกแต่งด้วยรูปปั้นประติมากรรมต่างๆพาให้ได้ชมกันเบาๆ ถ้าอยากจิบกาแฟพร้อมชมวิวสวนที่นี่เค้าก็มีให้ได้แวะนั่งกันนะครับ แถมยังจะมีพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆให้ได้เพลิดเพลิน เรียกได้ว่าเป็นสวนที่มีมากกว่าความสวยจริงๆ

 

 

เอล รินคอลซิโอ ไม่ได้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์อะไรนะครับ แต่สิ่งที่ทำให้น่าสนใจคงจะเป็นการที่ร้านนี้ได้ชื่อว่าเก่าแก่ที่สุดของเมือง โดยที่ร้านแห่งนี้นั้นเค้าเปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1670 คิดๆดูแล้วก็ปาเข้าไปสามร้อยกว่าปีทีเดียว แม้ว่าจะมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตัวร้านอยู่บ้าง หากเค้าก็ยังคงทุกสิ่งแบบเดิมๆให้มากที่สุด จะมีซักกี่ร้านที่จะเก่าแก่อยู่มานานขนาดนี้ แน่นอนว่ามาร้านอาหารชื่อดังก็ต้องลองอาหารของเค้าดูซักที ซึ่งอาหารที่นี่เค้าจะเน้นไปที่สไตล์สเปนใต้แท้ๆเรียลๆ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยล่ะครับ

 

 

มาถึงเมืองแห่งต้นกำเนิดการแสดงฟลามิงโก้ทั้งทีถ้าไม่ได้มาดูของแท้ของจริงซักครั้งเดี๋ยวเค้าจะหาว่ามาไม่ถึงนะครับ โดยที่นี่เค้าจะเป็นโรงละครที่ไม่ได้ใหญ่โตอลังการอะไรมาก หากสิ่งที่ทำให้กลายเป็นที่ติดใจของนักท่องเที่ยวก็ตรงการได้ดูแบบใกล้ชิดกว่าที่อื่นๆนี่เองครับ เวทีเค้าก็เล็กๆห้องก็จุคนได้ไม่ถึงร้อยคน แต่การแสดงบอกได้ทำเดียวว่าเด็ด มันครบไปทุกส่วน บรรยากาศก็เป็นกันเองพาให้เพิ่มอรรถรสการชมให้มีมิติมากยิ่งขึ้น ใครที่ไม่เคยได้ดูโชว์ฟลามิงโก้ที่นี่น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีทีเดียว

 

 

การชนวัวกระทิงนั้นถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมอันโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แม้จะแลดูดุดันและรุนแรงไปอยู่บ้าง หากก็นับเป็นเสน่ห์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นๆแน่นอนครับ การมาสนามไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนอย่างไร เพราะเค้ามีทัวร์สนามให้ได้เลือกซื้อกัน โดยจะมีการพาไปชมหลายๆจุดสำคัญของสนามที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ๆอันนี้ขอคนที่พร้อมจะดูจริงๆนะครับ เนื่องจากอย่างที่บอกแม้จะเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ว่าเค้าทำกันสืบต่อมานาน และคนสเปนก็เห็นเป็นเพียงกีฬาชนิดหนึ่งเท่านั้น ทว่าสำคัญใจอ่อนอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ถ้าคนไม่อยากดูเอาจริงๆแต่มาชมสนามกคุ้มครับเพราะยิ่งใหญ่อลังการสมการมาชมไม่ใช่น้อย

 

 

ย่านขนาดเล็กย่านตัวเมืองที่เล็กแค่ขนาดเท่านั้นครับ หากคุณภาพเรียกได้ว่าคับแก้วเลยทีเดียว โดยตึกอาคารแถวนี้แสดงให้เห็นถึงสถาปัตยกรรมของชาวมัวร์ที่เด่นชัด มีความเป็นตรอกซอกวอยให้ได้เดินกันอย่างสนุกสนานและยังไม่ได้กว้างเกินจนพาให้เหนื่อย บรรยากาศค่อนข้างคึกคักมีร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และโรงแรงให้เห็นตลอดรายทาง ซึ่งส่วนมากร้านค้าหรือร้านต่างๆมักจะเป็นร้านที่เปิดมานานมีความเก่าแก่เอาเรื่อง ถือว่าเป็นย่านน่าเดินไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป แถมมีเสน่ห์ดึงดูดใจเชียวครับ

 

 

พระราชวังเลบริฆา หรือที่มีอีกชื่อในภาษาสเปนว่า “Palacio de la Condesa de Lebrija” นั้นเป็นพระราชวังที่มีความสำคัญในอดีตที่ปัจจุบันกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์บ้านในใจกลางเมืองเซวิญ่า ภายในมีข้าวของเครื่องใช้สมัยก่อน ภาพวาดต้นแบบยุโรป ภาพโมเสคโรมัน และโบราณวัตถุให้ดูเพียบ ตัวอาคารเองก็มีสถาปัตยกรรมเก๋ก็สไตล์สเปนทั้งด้านนอกก้านใน แม้จะทั่งแผ่นกระเบื้องเซรามิคที่ใช้ปูพื้นนี่ยังสวยสะดุดตา ถ้าลองได้มาครั้งแรกแนะนำให้ซื้อตั๋วแบบรวมไกด์จะดีสุดนะครับ เพื่อจะได้ดูในมุมสำคัญต่างๆได้อย่างครบถ้วน รวมทั้งมีความเข้าใจในประวัติทั้งของพระราชวังและสิ่งของจุดแสดงได้อย่างมีความเข้าใจมากกว่าที่เดินดูเองมากเชียวครับ