รวม 13 เมืองสวยสุดโรแมนติกยุโรป น่าพาคนรู้ใจไปฮันนีมูน 2567


ถ้ามองหาความโรแมนติกมายุโรปบอกเลยว่ายืนหนึ่งเรื่องนี้มาก แถมยังเต็มไปด้วยเมืองน่ารักๆบรรยากาศดีๆอีกมากมายให้ได้ไปเยือนกันได้เต็มไปหมด แถมแต่ละเมืองนั้นเค้าก็มีความเหมือนในความแต่งที่น่าค้นหาแตกต่างกันไป เรียกได้ว่าไปกี่ทีมีแต่คำว่าฟินล่ะครับงานนี้ โดยจะมีเมืองไหนกันบ้างนั้นตามกันมาเลยครับ

 

1. เวนิส (Venice)

Photo by Peter K Burian from commons.wikimedia.org/wiki/File:Gondola_on_the_Grand_Canal,_Venice,_Italy.jpg [CC by-sa 4.0]

Photo by Ingo Mehling from commons.wikimedia.org/wiki/File:Venice_-_Piazza_San_Marco.jpg [CC by-sa 3.0]

เวนิส ตั้งอยู่ที่แคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลี เอกลักษณ์ที่ทำให้เมืองเป็นที่จดจำมากๆก็ตรงเราสามารถล่องเรือพายสไตล์พื้นเมืองเที่ยวชมเมืองที่อาคารบ้านเรือนยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมไว้อย่างเต็มเปี่ยมอย่างชิลๆได้ เนื่องมากจากทั้งเมืองถูกโอบล้อมด้วยสายน้ำ จนทำให้ได้ฉายาว่า “เมืองแห่งสายน้ำ” นั่นเองล่ะครับ

 

 

2. โรม (Rome)

Photo by Bert Kaufmann from commons.wikimedia.org/wiki/File:Rome_Skyline_(8012016319).jpg [CC by-sa 4.0]

Photo by Diliff from commons.wikimedia.org/wiki/File:Colosseum_in_Rome,_Italy_-_April_2007.jpg [CC by-sa 3.0]

โรม ตั้งอยู่ภายในแคว้นลัตซีโย ประเทศอิตาลี จากการที่เป็นเมืองหลวงและยังมีขนาดใหญ่ที่สุดของอิตาลี ทำให้เมืองนี้เต็มไปด้วยสีสันมากมาย แต่ที่ทำให้การเที่ยวเมืองนี้ฟินมากเป็นพิเศษ ก็คงมาจากการเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่นำเสนอสถาปัตยกรรมสไตล์โรมมันโบราณแบบต้นตำหรับ ซึ่งบางแห่งยังจะเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอีกด้วย

 

 

3. เวียนนา (Vienna)

Photo by domeckopol from pixabay.com/es/photos/viena-iglesia-1567865/ [CC0.0]

Photo by Emmanuel DYAN from flickr.com/photos/emmanueldyan/5133313344 [CCSA2.0]

เวียนนา ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรีย โดยเป็นเมืองหลวงที่มากกว่าแค่เมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างเดียว ใครที่หลงรักในเสียงเพลงและศิลปะรับรองมีเคลิ้ม เพราะที่นี่เค้าเปรียบประหนึ่งเมืองหลวงแห่งดนตรี โดยเฉพาะสายคลาสสิกที่เป็นบ้านเกิดของคีตกวีชื่อก้องโลกมากมาย แถมยังรายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมงดงามากมาย ทั้งบรรยากาศและเสียงเพลงมาเต็มขนาดนี้ถ้าขอแต่งงานแล้วมีแต่เซย์เยสเท่านั้น

 

 

 

4. ฮัลล์สตัทท์ (Hallstatt)

Photo by Nick Csakany from commons.wikimedia.org/wiki/File:Hallstatt_300.jpg [CC1.0]

Photo by Dahee Son from commons.wikimedia.org/wiki/File:Hallstatt,_Austria_(Unsplash_tV06QVJXVxU).jpg [CC1.0]

ฮัลล์สตัทท์ ตั้งอยู่บริเวณติดทะเลสาบฮัลชตัท ในรัฐอัปเปอร์ออสเตรีย ประเทศออสเตรีย เมืองขนาดเล็กๆแต่เสน่ห์เพียบ ตัวอาคารบ้านเรือนที่มีกลิ่นอายความดั้งเดิม ติดริมทะเลสาบ บรรยากาศเงียบสงบ พร้อมโอบล้อมด้วยขุนเขารอบด้าน นี่มันเมืองในฝันชัดๆ

 

 

 

5. ลูเซิร์น (Lucerne)

Photo by Andrew Shiva from commons.wikimedia.org/wiki/File:Chapel_Bridge_(Kapellbr%C3%BCcke),_Lucerne,_Switzerland_02.jpg [CCSA4.0]

Photo by Werni from pixabay.com/es/photos/lucerna-lago-de-lucerna-3540546/ [CC1.0]

ลูเซิร์น ตั้งอยู่ติดทะเลสาบลูเซิร์นทางทิศตะวันตก ภายในรัฐลูเซิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เรียกได้ว่าไม่เพียงเป็นเมืองแห่งเศรษฐกิจ คมนาคมและวัฒนธรรมที่สำคัญของแถบภาคกลางของสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น ยังจะเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆที่นักท่องเที่ยวหลายๆคนใฝ่ฝันถึง เพราะทั้งธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวเค้าแน่นจริงๆ เอาแค่ได้มานั่งชิลริมทะเลสาบมองวิวทิวทัศน์รอบๆพร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์นี่ก็คุ้มค่าการมาเยือนแล้ว

 

 

6. อินเทอร์ลาเก้น (Interlaken)

Photo by Artur Staszewski from flickr.com/photos/arturstaszewski/7019407411 [CCSA2.0]

Photo by Andrew Bossi from commons.wikimedia.org/wiki/File:5635_-_Schynige_Platte_-_View_of_Interlaken_and_Thunersee.JPG [CCSA2.0]

อินเทอร์ลาเก้น ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาทางเหนือของเทือกเขาสวิตแอลป์ในรัฐแบร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมืองขนาดกะทัดรัดที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ด้วยความที่ตัวเมืองถูกขนาบด้วยสองทะเลสาบสำคัญทั้งทะเลสาบเบรียนซ์และทูน เรียกง่ายๆว่าเป็นเมืองสองทะเลสาบ บวกกับบ้านเรือนที่น่ารักสไตล์ท้องถิ่น เรียกว่ารวมทุกความปังของวิวทิวทัศน์ไว้ในเมืองเดียว อยากจะตะลุยหิมะช่วงฤดูหนาวพร้อมเล่นสกีท่ามกลางเทือกเขาแอลป์ ที่เราจะได้ขึ้นไปถึงบนยอดจุงเฟราที่เห็นวิวได้แบบพาโนราม่า หรือจะมาช่วงฤดูร้อนที่เขียวชอุ่มไปทั้งเมืองอันนี้ก็สวยไม่มียอมกันเลยทีเดียวครับ

 

 

7. บูดาเปสต์ (Budapest)

Photo by Jorge Franganillo from flickr.com/photos/franganillo/31519313312 [CCSA2.0]

Photo by Savannah Grandfather from commons.wikimedia.org/wiki/File:Castle_Hill_(Budapest).jpg [CCSA2.0]

บูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการีที่เต็มไปด้วยมนตร์ขลัง จากการเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์ ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่แฝงกลิ่นอายย้อนยุคมากมายให้ได้เดินชมกันอย่างจุใจ รวมทั้งการที่มีแม่น้ำดานูบไหลผ่านกลางเมือง ยิ่งทำให้เพิ่มอรรถรสในการชื่นชมเข้าไปอีก เอาแค่หาร้านใกล้ริมแม่น้ำมองวิวไปจิบไวน์อินไปกับบรรยากาศแค่นี้ก็ฟินแล้วครับ

 

 

8. ซานโตรินี ( Santorini )

Photo by Pedro Szekely from commons.wikimedia.org/wiki/File:Oia,_Santorini_HDR_sunset.jpg [CCSA2.0]

Photo by Pedro Szekely from flickr.com/photos/pedrosz/37705096385 [CCSA2.0]

ซานโตรินี ตั้งอยู่บนเกาะตอนใต้ของทะเลอีเจียน ประเทศกรีซ เรียกได้ว่าเป็นเกาะสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวต่างโหวตที่อยากจะมาเป็นอันดับ 2 จากบรรดาเกาะทั่วโลก โดยตัวเมืองจะมีเอกลักษณ์ตั้งแต่บ้านเรือนที่ดีไซน์ได้เรียบง่ายทาเป็นสีขาวหลังฟ้าสดมองแล้วตัดกับสีท้องทะเลแบบฉับๆ จะเดินชมวิวริมหาดหรือจะลุยกิจกรรมมากมายนี่ก็เพลินได้ทั้งวันไม่มีคำว่าเบื่อ

 

 

 

9. มิวนิค (Munich)

Photo by Diliff from commons.wikimedia.org/wiki/File:Frauenkirche_Munich_-_View_from_Peterskirche_Tower2.jpg [CCSA2.0]

Photo by Richard Bartz from commons.wikimedia.org/wiki/File:Image-Schloss_Nymphenburg_Munich_CC.jpg [CCSA3.0]

มิวนิค ตั้งอยู่ภายในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน ถือได้ว่าเป็นเมืองที่ครบเครื่องมากๆไม่ว่าจะเป็นสายไหนสามารถตอบโจทย์ได้หมด ทั้งสายช็อปที่มีแหล่งละลายทรัพย์กระจายทั่วเมือง สายกินที่มีทั้งอาหารพื้นเมืองบวกด้วยเบียร์ต้นตำหรับ รวมทั้งสายเที่ยวที่มีทั้งย่านเมืองเก่าและแหล่งทางเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกเพียบให้ได้แวะกันได้ยาวๆทั้งวัน

 

 

10. โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ (Rothenburg ob der Tauber)

Photo by Bernhard Hanakam from flickr.com/photos/bernhardhanakam/22226761640/ [CCSA2.0]

Photo by Berthold Werner from commons.wikimedia.org/wiki/File:Rothenburg_ob_der_Tauber_BW_2008-07-01_16-39-18.jpg [CCSA2.0]

โรเธนเบิร์ก ออบ เดียร์ เทาเบอร์ ตั้งอยู่ภายในรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน เอาแค่ชื่อนี่ก็สะดุดตามากๆว่าเมืองอะไรชื่อยาวขนาดนี้ ซึ่งก็ไม่ได้แค่ชื่อยาวที่น่าสนใจอย่างเดียว ตัวเมืองเองมีแรงดึงดูดไม่แพ้กัน ด้วยความที่บ้านเรือนเค้าเหมือนหลุดมาจากเทพนิยายอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งนั่นก็มาจากการที่เค้ายังคงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมโบราณดั้งเดิมของยุคกลางได้ดีมากๆ เมืองอาจไม่ได้ใหญ่มากแบบเดียววันเดียวก็ครบ หากทุกๆที่รวมกันมันทำให้เมืองนี้มีเสน่ห์ในแบบไม่เหมือนใคร ใครอยากมาเมืองน่ารักๆนี่ไม่อยากให้พลาดเชียวล่ะครับ

 

 

11. นีซ (Nice) ฝรั่งเศส

Photo by Tobi 87 from commons.wikimedia.org/wiki/File:Hafen_von_Nizza.jpg [CCSA2.0]

Photo by Kristoffer Trolle from flickr.com/photos/kristoffer-trolle/17630242941 [CCSA2.0]

นีซ ตั้งอยู่บริเวณริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ภายในแคว้นพรอว็องซาลป์โกตดาซูร์ ประเทศฝรั่งเศส นับเป็นเมืองต้นตำหรับของเมืองท่องเที่ยวสไตล์ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างแท้จริง ยิ่งช่วงฤดูร้อนที่นี่ฮอตไฟลุกทั้งบรรยากาศการท่องเที่ยวที่คึกคัก นักท่องเที่ยวสุดครึกครื้น พร้อมทะเลสีฟ้าสดๆ สมกับที่ถูกยกให้เป็นเมืองตากอากาศอันดับของฝรั่งเศสจริงๆครับ

 

 

12. วาลองโซล (Valensole)

Photo by RDLH from pixabay.com/es/photos/valensole-francia-europa-3925067/ [CC0.0]

วาลองโซล  ตั้งอยู่ภายในแคว้นโพรวองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ถ้าอยากมาสัมผัสกับทุ่งดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสุดละลาตามาแล้วไม่มีผิดหวัง เพราะที่นี่ถือได้ว่าเป็นที่สุดของทุ่งดอกแล้วครับ แต่ถ้าคิดจะมาตะลุยความม่วงต้องมาในช่วงปลายเดือนมิถุนายนไปจนถึงประมาณกลางเดือนสิงหาคม

 

 

13. อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)

Photo by Massimo Catarinella from commons.wikimedia.org/wiki/File:KeizersgrachtReguliersgrachtAmsterdam.jpg [CCSA2.0]

Photo from needpix.com/photo/908664/amsterdam-canal-restaurant-netherlands-boat-tourism-travel-dutch-holland

อัมสเตอร์ดัม เมืองหลวงแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ที่เล็กแค่ขนาด หากเด็ดขาดเรื่องความงามที่มีชื่อเสียงเลื่องลือในระดับโลก จะเดินเบาๆชมเมืองไปเรื่อยๆก็ดี หรือจะปั่นจักรยานยิ่งหายห่วง เนื่องจากทางปั่นจักรยานเมืองนี้นี่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในโลก หรือสายอาร์ตอยากเสพงานศิลป์ก็มีพิพิธภัณฑ์งานศิลปะที่มีผลงานของศิลปินระดับโลกให้ได้เพลิดเพลินกัน แต่ที่เป็นเอกลักษณ์สุดๆต้องยกให้หมู่บ้านกังหันลมโบราณอายุหลายร้อยปีท่ามกลางทุ่งดอกทิวลิปหลากสีสันอันนี้สุดจริงๆ