20 สถานที่ท่องเที่ยวปักกิ่ง ประเทศจีน ยอดฮิต ต้องห้ามพลาด Beijing Top Hit 2024 2567

top-beijing-china-places

อัพเดตล่าสุดเมื่อ 4 กันยายน 2567

 

กรุงปักกิ่ง(Beijing) เป็นเมืองหลวงของประเทศจีน ที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรม และแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่มากที่สุด ถึง 7 แห่ง มีความสวยงาม มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 3,000 ปี จนถูกยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามระดับโลก มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบให้เราได้เช็คอิน ไม่ว่าจะเป็น กำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม สวนสนุก อุทยาน ศาลเจ้า รวมถึงวัดเก่าแก่ที่สำคัญๆอีกมากมาย ตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์ แต่ละที่นั้นมีสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่อลังการ สวยงามสมคำร่ำลือ และที่สำคัญ มีความสวยประณีตแบบคลาสสิคสไตล์จีนดั้งเดิม ที่จะทำให้คุณได้สัมผัสถึงกลิ่นอายวัฒนธรรมอันล้ำค่าของโลก สำหรับใครที่อยากเปิดประสบการณ์สัมผัสประเทศแผ่นดินใหญ่ บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดกับเมืองปักกิ่ง จะมีที่ท่องเที่ยวไหนน่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามพร้อมๆกันเลย

แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยวปักกิ่ง ประเทศจีน ยอดฮิต ต้องห้ามพลาด เมืองหลวงมากเสน่ห์

 

หน้านี้มีอะไรบ้าง

 

 

เที่ยวปักกิ่ง นอนที่ไหนดี?

สำหรับคนไทยที่มาเที่ยวปักกิ่ง ย่าน Wangfujing เป็นที่นิยมเพราะใกล้สถานที่สำคัญอย่าง Forbidden City และ Tiananmen Square แถมยังมีแหล่งช้อปปิ้งหลากหลาย อีกย่านหนึ่งที่ชอบกันคือ Qianmen ซึ่งเป็นแหล่งพักราคาประหยัด มีร้านค้าและอาหารท้องถิ่น พร้อมทั้งเข้าถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์ได้ง่าย ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศสมัยใหม่ มักจะเลือกพักที่ Sanlitun เพราะมีร้านอาหารสุดชิค บาร์ และแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน

 

 

 

1. หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tian Tan Temple of Heaven)

fotokon/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Hall_of_Prayer_for_Good_Harvest.JPG

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Tiantan.jpg

หอสักการะฟ้าเทียนถาน (Tian Tan Temple of Heaven) หรือบางคนเรียกว่า วิหารบวรสรวงสวรรค์ จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันศักดิ์สิทธิ์ของประเทศจีน ที่นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมแล้วยังถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มอาคารทางศาสนาโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก จนถูกยกระดับให้เป็นมรดกโลกในปี 1998 อันเนื่องมาจากเป็นสิ่งของล้ำค่า ที่ถูกก่อสร้างมาโดยไม่มีการใช้ตะปูเลย ถือเป็นความน่าทึ่งที่นักท่องเที่ยวจะต้องไปสัมผัสถึงความอลังการสักครั้งหนึ่งในชีวิต บอกเลยว่ามีความสวยงามสมคำร่ำลือแน่นอน เป็นสถานที่กว้างขวาง โดยที่มีพื้นที่กว่า 1,668.75 ไร่ ซึ่งขนาดใหญ่กว่าพระราชวังต้องห้ามถึง 4 เท่าเลยทีเดียว ไฮไลท์เด็ดของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้คือ ตำหนักสักการะฉีเหนียนเตี้ยน ที่อยู่ทางทิศเหนือ มีความสวยงามโอ่อ่า เป็นสถานที่สำคัญที่ใช้ในการบวงสรวง นอกจากนี้ยังมีตำหนักหวงฉุงหยีว์ เป็นตำหนักเทพสถิตที่อยู่ตรงกลาง และ หยวนซิวถาน แท่นบวงสรวงฟ้าที่อยู่ทางทิศใต้ ใครที่เดินทางไปเที่ยวกรุงปักกิ่งต้องห้ามพลาดกับสถานที่แห่งนี้เลย

 

 

 

2. Galaxy Soho

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Galaxy_SOHO_China.jpg

abcdstock/shutterstock.com

zhengzaishuru/shutterstock.com

Galaxy Soho จัดเป็นศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่ง อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศจีนนั้นมีความพัฒนาในเรื่องของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด โดยการออกแบบศูนย์การค้าและสำนักงานนี้ให้มีความสวยงามแปลกตา ดุจโลกอนาคตใหม่ ที่มีความก้าวล้ำทันสมัยและไม่ซ้ำใคร โดยการออกแบบนี้เป็นผลงานจาก Zaha Hadid นักสถาปัตยกรรมหญิงชื่อดังระดับโลก ที่มีผลงานสร้างชื่อเสียงอันโด่งดัง ผลงานแต่ละชิ้นจะมีความโดดเด่นและน่าจดจำ ย่านศูนย์การค้านี้ก็เช่นกัน ที่ถูกออกแบบมาให้เหมือนหลุดเข้าไปในยุคอวกาศ มีความสวยงามทันสมัยและในขณะเดียวกันก็สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมจีนแบบดั้งเดิม ซึ่งก็ถือว่าสวยงามแปลกใหม่ ด้านในเต็มไปด้วยร้านค้า และสำนักงานที่เชื่อมต่อกันทั้งหมด 4 ตึกสูงทั้งหมด 18 ชั้น บอกเลยว่าเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปักกิ่งที่ไม่ควรพลาด

 

 

 

3. กำแพงเมืองจีน (Great Wall Of China)

zhu-difeng/shutterstock.com

javen/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Great_Wall_of_China,_Beijing_%2827780841820%29.jpg

กำแพงเมืองจีน (Great Wall Of China) จัดเป็นหนึ่งใน 7 มหัศจรรย์ของโลก ที่เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอน โดยมีจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้เป็นผู้ก่อสร้างคนแรก เพื่อเป็นแนวบอกชายแดนและป้องกันการรุกรานของศัตรู มีความยาวกว่า 21,196.18 กิโลเมตร จนเป็นกำแพงที่ยาวที่สุดในโลก โดยวัสดุที่ใช้นั้นมีความแตกต่างกันไปมีทั้งหิน ดิน ไม้ โดยส่วนใหญ่จะใช้นักโทษสงคราม และทาสนับล้านคน เป็นกำแพงที่ถูกสร้างต่อกันมาหลายยุคหลายสมัย หลังจากหมดสมัยจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้แล้วก็ยังคงสร้างกันมาอย่างต่อเนื่องรวมระยะเวลาเกือบ 2,000 ปี สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ปักกิ่งนั้น นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมาเช็คอินเลย โดยกำแพงเมืองจีนนั้นมีหลายด่านมาก ด่านที่นิยมไปท่องเที่ยวกันมากที่สุดคือ ด่านปาต้าหลิง(Great Wall of Badaling) กับ เนื่องจากเดินทางง่ายและมีความทันสมัยมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและที่สำคัญรายล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยงามจนนักท่องเที่ยวจะต้องประทับใจอย่างแน่นอน

 

 

 

4. เมืองน้ำโบราณกู๋เป่ย (Gubei Water Town)

fanjianhua/shutterstock.com

qizai00/shutterstock.com

Photo from https://www.pexels.com/photo/pagoda-and-bridge-in-gubei-water-town-18709766/

เมืองน้ำโบราณกู๋เป่ย (Gubei Water Town) สำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลและอยากสัมผัสกับเมืองโบราณที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมจีนแบบดั้งเดิม รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อบอุ่น เป็นการผสมผสานกันระหว่างภูเขา แม่น้ำอย่างลงตัว ต้องห้ามพลาดกับเมืองโบราณกู๋เป่ยนี้เลย ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของตีนสะพานเมืองจีน ด่านซือหม่าไถ เป็นหมู่บ้านที่มีทั้งน้ำพุร้อนและน้ำพุเย็นไหลมาบรรจบกัน กลายเป็นทะเลสาบยวนหยางหู ที่มาพร้อมกับบรรยากาศแสนอบอุ่น ให้เราได้พักผ่อนโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ผ่อนคลายด้วยการแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน บอกเลยว่าเป็นบรรยากาศสุดชิลล์ ที่นักท่องเที่ยวจะต้องประทับใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนจะมีการจัดแสดงแสงไฟรอบหมู่บ้าน ให้บรรยากาศสุดโรแมนติก รับรองว่าเมืองน้ำโบราณนี้จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับแขกผู้มาเยือนได้ตราตรึงใจอย่างแน่นอน

 

 

 

5. พระราชวังฤดูร้อน (The Summer Palace)

i-viewfinder./shutterstock.com

hellorf-zcool/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Beijing_-_Summer_Palace_-_Letn%C3%AD_pal%C3%A1c_Yiheyuan_-_panoramio.jpg

พระราชวังฤดูร้อน (The Summer Palace) เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ในสมัยจักรพรรดิแห่งราชวงศ์ชิง และได้สิ้นสุดการครอบครองในยุคของพระนางซูสีไทเฮา ถือเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุด ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก UNESCO ในปี 1998 อีกด้วย ตั้งอยู่ห่างจากพระราชวังต้องห้ามเพียงแค่ 8 กิโลเมตรเท่านั้น อยู่ในเขตไห่เตี้ยนทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปักกิ่ง พระราชวังนี้เต็มไปด้วยงานศิลปะอันทรงคุณค่า อาทิ เจดีย์สูงแปดเหลี่ยม โรงงิ้ว สวนดอกไม้ เป็นต้น โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งอยู่ริมทะเลสาบคุณหมิงถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ให้สาวๆถ่ายรูปได้สวยงาม กับสะพานทอดยาวของพระราชวังตลอดทั้งทาง หากมองขึ้นไปจะเห็นหอคอย ซึ่งเป็นตำหนักของพระนางซูสีไทเฮา สวยงามสูงเด่นเป็นตระหง่าน และอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวมักจะมาเยี่ยมชมความอลังการของพระราชวังนี้คือบนยอดเขา ที่มองลงมาแล้วจะเห็นทะเลสาบสวยงาม เป็นสถานที่ที่ควรค่าแก่การมาเยือนเป็นอย่างมาก

 

 

 

6. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน(the National Museum of China)

v_e/shutterstock.com

vladj55/shutterstock.com

Photo from https://www.needpix.com/photo/805374/beijing-china-museum-asia-chinese-travel-architecture-landmark-famous

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน(the National Museum of China) หนึ่งในพิพิธภัณท์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำหรับใครที่ชื่นชอบในเรื่องของประวัติศาสตร์และศิลปะอันทรงคุณค่า ที่นี่ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะสมเป็นอย่างมาก จะตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจัตุรัสเทียนอันเหมิน มีการนำเสนอประวัติศาสตร์ ศิลปะ รวมถึงมีการจัดนิทรรศการ โบราณคดี โบราณวัตถุ อีกทั้งยังมีนิทรรศการแลกเปลี่ยนกันระหว่างประเทศอีกด้วย มีห้องจัดแสดงมากถึง 48 ห้อง โดยมีสมบัติอันล้ำค่าของประเทศจีนให้เก็บรักษาไว้กว่า 1.2 ล้านชิ้น อาทิ หัวสัตว์ร้ายแห่งพระราชวังฤดูร้อน หน้ากากซานซิงตุยแห่งมณฑลเสฉวน นักรบดินเผา ฯลฯ มีพื้นที่กว่า 192,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 ชั้น ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมฟรีทุกวันยกเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 16.00 น.

 

 

 

7. วัดลามะ (Lama Temple)

bill-perry/shutterstock.com

v_e/shutterstock.com

Photo from https://www.flickr.com/photos/ethomsen/16164607808

วัดลามะ (Lama Temple) อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ทั้งบรรยากาศวัด และพระราชวังในเวลาเดียวกัน เป็นวัดที่สร้างขึ้นจากคำสั่งของคังซีฮ่องเต้ ไว้เป็นพระตำหนักของพระราชโอรสองค์ที่ 4 หย่งเจิ้น เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่สวยและตระการตามากที่สุดในกรุงปักกิ่ง แนะนำให้มาเยือนสักครั้งหนึ่งรับรองว่าสวยสมคำร่ำลือแน่นอน เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 60,000 ตารางกิโลเมตร การออกแบบสวยงามแปลกตา เป็นการผสมผสานวัฒนธรรมทั้ง 4 ระหว่าง วัฒนธรรมฮั่น มองโกล แมนจู และทิเบต ไว้อย่างลงตัว สำหรับใครที่มาท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ก็จะได้ชมความงามของใบแปะก๊วย ที่ให้สีเหลืองทองอร่ามได้บรรยากาศอบอุ่น เป็นภาพที่ประทับใจ อย่างที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน

 

 

 

8. Universal Studio Beijing Resort

robert-way/shutterstock.com

testing/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Universal_Studios_Beijing_globe_square_(20210907121340).jpg

Universal Beijing Resort พามาเปลี่ยนบรรยากาศพักจากธรรมชาติ แล้วมาพบกับความสนุกสนานที่รอนักท่องเที่ยวอยู่ ให้ได้ตื่นตาตื่นใจกันแบบไร้ขีดจำกัดตลอดทั้งวัน กับสวนสนุกที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 2,500 ไร่ เป็นทั้งสวนสนุกและโรงแรมรีสอร์ทที่ผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมของจีนให้ความสวยงามแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร นักท่องเที่ยวจะได้พบกับเครื่องเล่นมาตรฐานระดับโลก การแสดงที่ดีที่สุดจาก Universal Studio จัดเต็มโซนดังๆที่หลายคนชื่นชอบ เช่น Harry Potter, Transformers, มินเนี่ยน, Jurassic World, กังฟูแพนด้า ฯลฯ ที่จะมาสร้างความสนุกสนานกันแบบไม่รู้เบื่อตลอดทั้งวัน สำหรับใครที่พาเด็กๆมาด้วย แนะนำว่าต้องห้ามพลาดที่นี่เลย บอกเลยว่าเป็นสถานที่ที่จะช่วยสร้างความสนุกสนานตราตรึงใจให้กับเด็กๆจนต้องกลับมาเยือนใหม่อีกครั้งอย่างแน่นอน

 

 

 

9. พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City)

abcdstock/shutterstock.com

abcdstock/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Forbidden_City_Beijing_China_%28164849005%29.jpeg

พระราชวังต้องห้าม (Forbidden City) ถูกสร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย ที่อยู่ใจกลางเมืองปักกิ่งเลย มีความใหญ่โตโอ่อ่า อลังการ ซึ่งเป็นที่ประทับของจักรพรรดิในราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิงเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีอายุมากกว่า 600 ปี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1987 โดยมีพื้นที่ขนาดกว้างขวางรวมทั้งสิ้น 450 ไร่ เป็นพระราชวังโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ภายในจะแบ่งออกเป็นพระราชฐานชั้นนอก และชั้นใน มีอาคารทั้งหมด 950 หลัง มีห้องอยู่ทั้งหมด 9,999 ห้อง นอกจากนี้ยังมีหอพระสมุด มีคูและกำแพงสูงถึง 11 เมตรล้อมรอบ โดยใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างยาวนานถึง 14 ปีเลยทีเดียว ที่มาของคำว่าพระราชวังต้องห้ามนั่นหมายถึงในอดีต พื้นที่แห่งนี้เป็นเขตหวงห้าม ผู้ที่จะเข้าไปได้มีเพียงแค่จักรพรรดิ สนม กำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้เท่านั้น ปัจจุบันเปิดให้เข้าชมความยิ่งใหญ่อลังการได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:30 – 16:30 น.

 

 

 

10. ถนนหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang)

cowardlion/shutterstock.com

aphotostory/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:View_down_Nanluoguxiang_2011.jpg

ถนนหนานโหลวกู่เซียง (Nanluoguxiang) ในเมืองกรุงปักกิ่งนอกจากจะเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมและธรรมชาติที่สวยงามให้เราได้เที่ยวชมแล้ว ยังมีถนนคนเดินที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินชิว หาขนม ของฝากกันได้อย่างจุใจ โดยถนนคนเดินนี้ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดและดีที่สุดในกรุงปักกิ่งแล้ว ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของพระราชวังต้องห้าม เป็นถนนคนเดินที่ทอดยาวกว่า 800 เมตรเต็มไปด้วยร้านค้า เสื้อผ้า เครื่องประดับรวมถึงของใช้ต่างๆที่มีความสวยงาม และน่าสะสมอย่างมากอีกทั้งยังมีร้านอาหารรสชาติอร่อยไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินกันตลอดทั้งเส้นทางเลย ลักษณะของถนนคนเดินนั้นแตกต่างจากที่อื่นอย่างสิ้นเชิง ยังคงความเก่าแก่ ให้บรรยากาศที่คลาสสิคเหมือนย้อนอดีตไปในยุคสมัยโบราณเลย ใครที่มาเที่ยวกรุงปักกิ่งแนะนำต้องห้ามพลาดกับถนนคนเดินนี้ รับรองได้ของติดไม้ติดมือไปอย่างแน่นอน

 

 

 

11. อุทยานเป๋ยไห่ (Beihai Park)

schnepfdesign/shutterstock.com

wang-ai/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Beihai_Park_2.jpg

อุทยานเป๋ยไห่ (Beihai Park) นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวจะต้องห้ามพลาดเลยเมื่อมาเยือนกรุงปักกิ่ง จะตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของพระราชวังต้องห้าม โดยไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้คือจะมีเจดีย์สีขาว ที่สวยโดดเด่นเป็นตระหง่าน มีความสง่างามตั้งอยู่บนเนินเขาเกาะหยก สำหรับใครที่มาท่องเที่ยวแห่งนี้แนะนำให้เข้าทางประตูทิศใต้ จะได้พบกับสะพานหย่งอัน เป็นหินอ่อนที่ทอดยาวข้ามทะเลสาบ ภายในอุทยานมีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงามให้เราได้เที่ยวชม เช่น ศาลา 5 มังกร ที่ยื่นออกมาในทะเลสาบ แต่เดิมเป็นศาลาที่ไว้ใช้พักผ่อนหย่อนใจขององค์จักรพรรดิ กำแพง 9 มังกร ลักษณะคือจะเป็นกำแพงที่มีรูปสลักนูนของมังกรที่มีความประณีตสวยงาม โดยมีความยาว 27 เมตรสูง 6 เมตร ถูกสร้างขึ้นเมื่อในปี 1756 สำหรับใครที่สนใจสามารถเดินทางไปเก็บภาพความประทับใจกันได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06:30 – 20:00 น.

 

 

 

12. สวนสัตว์ปักกิ่ง (Beijing Zoo)

anton_ivanov/shutterstock.com

chinahbzyg/shutterstock.com

Photo from https://www.flickr.com/photos/14545665@N04/3068399764

สวนสัตว์ปักกิ่ง (Beijing Zoo) มาเอาใจน้องๆหนูๆกันบ้าง กับสวนสัตว์ปักกิ่ง ที่เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของจีน ที่มีอายุกว่า 100 ปี มีขนาดพื้นที่กว้างขวางราว 40,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด ที่หาชมได้ยาก กว่า 1,000 สายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น จิ้งจอกอาร์กติก เสือโคร่งไซบีเรีย หมีขั้วโลก ฯลฯ โดยจะแบ่งออกเป็นหลากหลายโซนมีทั้งสัตว์กลางคืน สัตว์เลื้อยคลาน รวมถึงสัตว์น้ำที่จะแสดงโชว์อยู่ในโซนอควาเรียม ให้เด็กๆได้ตื่นตาตื่นใจกับโลกใต้ท้องทะเล และแน่นอนว่ามาถึงกรุงปักกิ่งทั้งที ต้องห้ามพลาดกับโซนหมีแพนด้า ที่อยู่ในห้องกระจกติดแอร์ หมีตัวใหญ่อ้วนกลม ที่มีพฤติกรรมน่ารักถูกใจเด็กๆอย่างแน่นอน โดยทางสวนสัตว์ก็ได้มีจัดโซนขายของที่ระลึก ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือไป สามารถพาลูกๆหลานๆมาเที่ยวกันได้เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 – 17.00 น.

 

 

 

13. Red-brick Art Gallery

frankie-wo/shutterstock.com

frankie-wo/shutterstock.com

Red-brick Art Gallery ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดสถาปัตยกรรมของประเทศจีน ที่ถูกผลักดันให้เป็นศูนย์กลางของศิลปะระดับโลก โดยแกลลอรี่นี้มีความสวยงาม แบบใหม่และไม่เคยมีที่ไหนปรากฏมาอย่างแน่นอน ด้วย Concept การสร้างคือการเลือกใช้อิฐแดง เพราะมันคือวัสดุที่สำคัญและเรียบง่ายชิ้นแรกสุดของการก่อสร้างสถาปัตยกรรม นำมาเพิ่มมูลค่าสร้างความโดดเด่นกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ ที่มีพื้นที่ราวกว่า 20,000 ตารางเมตร จุดประสงค์เพื่อใช้สำหรับการจัดแสดงนิทรรศการงานต่างๆ และเพื่อเป็นพิพิธภัณฑ์ให้ประชาชนได้มารับชมความงาม ดื่มด่ำและแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ทางศิลปะ ภายในอาคารประกอบไปด้วยห้องจัดนิทรรศการทั้งหมด 9 ห้อง สตูดิโอทำงานศิลปะและงานวิจัย 2 ห้องนอกจากนี้ยังมีการแบ่งโซนห้องสมุด คาเฟ่ ร้านอาหาร คลับบาร์ ฯลฯ ที่แยกโซนสีเทาและสีแดงไว้อย่างชัดเจนนี่จึงถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่นักท่องเที่ยวต้องมาสัมผัส รับรองได้ภาพสวยๆกลับไปอย่างแน่นอน เปิดให้บริการ เสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 17.00 น.

 

 

 

14. ถนนคนเดิน หวังฝู่จิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street)

mirko-kuzmanovic./shutterstock.com

cowardlion/shutterstock.com

Photo from https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Beijing_Wangfujing_20170806.jpg

ถนนคนเดิน หวังฝู่จิ่ง (Wangfujing Pedestrian Street) เป็นอีกหนึ่งถนนคนเดินชื่อดังของกรุงปักกิ่งเลย ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่อยู่คู่กับคนจีนมาอย่างช้านาน สำหรับใครที่กำลังมองหาย่านช้อปปิ้ง รวมถึงร้านอาหารรสชาติอร่อยแบบต้นตำหรับ รับรองว่าที่นี่จะช่วยตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของฝาก และไฮไลท์เด็ดที่ทุกคนมาจะต้องลิ้มลองเลยนั่นคือ ถังหูลู่ หรือ ผลไม้เคลือบน้ำตาลนั้นเอง บอกเลยว่าหวานฉ่ำชื่นใจ กับรสชาติต้นตำหรับแท้ ไม่มีที่ไหนเหมือยอย่างแน่นอน บรรยากาศในย่านถนนคนเดินนี้คึกคักอย่างมาก ให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจตลอดทั้งเส้นทาง เรียกได้ว่าเป็นย่านแห่งการช๊อปปิ้งที่ไม่ควรพลาดเลย แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง อีกด้วย

 

 

 

15. ย่านศิลปะ 798 Art District

ostill-is-franck-camhi/shutterstock.com

janicekuan/shutterstock.com

almazoff/shutterstock.com

798 Art District ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปักกิ่ง เป็นย่านศิลปะร่วมสมัยที่เคยเป็นโรงงานอุตสาหกรรมในยุค 1950 แต่ตอนนี้กลายมาเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่มีชีวิตชีวา มีทั้งแกลเลอรี่ สตูดิโอ ร้านค้า และคาเฟ่ ที่แสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย ภาพถ่าย ประติมากรรม และงานติดตั้งศิลปะจากศิลปินจีนและนานาชาติ ที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างประวัติศาสตร์และความทันสมัย อาคารอุตสาหกรรมเก่าถูกเติมเต็มด้วยศิลปะล้ำยุค ทำให้เป็นจุดที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ชอบศิลปะ และอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมในปักกิ่ง เราสามารถเดินชมผลงานศิลปะ เข้าร่วมงานอีเวนท์ และซึมซับบรรยากาศสร้างสรรค์ได้ทั้งวัน

 

 

 

 

16. Temple of Earth (Ditan Park)

chinahbzyg/shutterstock.com

testing/shutterstock.com

chinahbzyg/shutterstock.com

Temple of Earth หรือที่รู้จักในชื่อ Ditan Park (ติ๋ถาน กงหยวน) หรือ วิหารแห่งธรณี เป็นหนึ่งในแท่นบูชาจักรพรรดิที่สำคัญแต่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก สร้างขึ้นในปี 1530 ในสมัยราชวงศ์หมิง เพื่อใช้บูชาเทพเจ้าแห่งดิน เป็นคู่กับ Temple of Heaven ที่มีชื่อเสียงมากกว่า Ditan Park เป็นสถานที่เงียบสงบที่เราสามารถหลบหลีกความวุ่นวายในเมืองได้ มีต้นไม้ใหญ่สมัยโบราณ สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม และพื้นที่สีเขียวกว้างขวาง ที่นี่เป็นที่นิยมของคนท้องถิ่น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล Temple Fair ที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงตรุษจีน ซึ่งเราจะได้สัมผัสกับการแสดงพื้นบ้าน งานฝีมือ และอาหารแบบดั้งเดิม Temple of Earth เป็นจุดที่เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อน และเรียนรู้เกี่ยวกับพิธีกรรมของจักรพรรดิในบรรยากาศที่เงียบสงบ

 

 

 

17. คฤหาสน์ของเจ้าชายกง (Prince Gong’s Mansion)

gyn9037/shutterstock.com

song-jun./shutterstock.com

zhao-junyu/shutterstock.com

Prince Gong’s Mansion ตั้งอยู่ในย่านซีเฉิงของปักกิ่ง เป็นคฤหาสน์หลวงที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 และเคยเป็นของเจ้าชายกง บุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์จีน คฤหาสน์นี้ใหญ่โตและหรูหรา มีทั้งห้องโถงใหญ่ สวนสวย และศาลาที่แสดงถึงชีวิตหรูหราของชนชั้นสูงในปักกิ่ง สวนภายในคฤหาสน์เป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด มีการจัดสวนแบบจีนดั้งเดิม มีบ่อน้ำ กองหิน และต้นไม้โบราณ เราสามารถเดินชมความงามของห้องที่ตกแต่งอย่างวิจิตร เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของคฤหาสน์ และบางครั้งยังได้ชมการแสดงงิ้วจีนหรือดนตรีแบบดั้งเดิมที่จัดขึ้นในบริเวณนี้อีกด้วย คฤหาสน์ของเจ้าชายกงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับคนที่สนใจประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมแบบจีน

 

 

 

18. สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง (Beijing National Stadium)

cowardlion/shutterstock.com

ajancso/shutterstock.com

Photo from https://www.flickr.com/photos/wojtekgurak/5215704787

สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง (Beijing National Stadium) หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของสนามกีฬารังนก เป็นสนามกีฬาขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับผู้ชมได้เกือบ 100,000 ที่นั่งเลย เป็นหนึ่งในอาคารที่สร้างจากเหล็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยสถานที่แห่งนี้เคยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเมื่อปี 2008 มาแล้ว ด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงามมีความทันสมัย มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 258,000 ตารางเมตร ถูกออกแบบโดยสถาปนิกชาวสวิตเซอร์แลนด์ Herzog & DeMeuron รวมกับสถาบันออกแบบสถาปัตยกรรมจีน จนได้สนามกีฬาแห่งชาติ ที่มีความใหญ่โตโอ่อ่า อลังการ และเป็นที่ร่ำลือกันไปทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันก็เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมความงาม กันได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 6.00 – 21.00 น. โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืนนั้นจะมีการจัดแสดงมาสคอต ป้ายไฟเกล็ดหิมะ โคมไฟนกพิราบ ทางเดินลอยฟ้า ที่บอกเลยว่าสวยงามสมคำร่ำลือ

 

 

 

19. The CCTV Headquarters (อาคารสำนักงานใหญ่ของ CCTV)

abcdstock/shutterstock.com

mike-fuchslocher./shutterstock.com

The CCTV Headquarters เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ที่เด่นที่สุดในปักกิ่ง ตั้งอยู่ในย่าน Central Business District ตัวอาคารมีดีไซน์ที่แปลกตาและทันสมัย ออกแบบโดยสถาปนิกชาวดัตช์ Rem Koolhaas ลักษณะของอาคารเป็นเหมือนวงแหวนหรือรูปตัว “Z” ซึ่งต่างจากตึกระฟ้าทั่วไป โครงสร้างนี้ประกอบด้วยหอคอยสองฝั่งที่เอนเข้าหากัน เชื่อมด้วยส่วนบนที่ยื่นออกมา ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใครนี้เป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญในงานออกแบบสถาปัตยกรรมยุคใหม่ของจีน และแสดงถึงอิทธิพลของสื่อและการกระจายเสียงในประเทศ ถึงแม้เราจะไม่สามารถเข้าไปภายในได้ แต่ก็สามารถชมและถ่ายรูปจากมุมต่าง ๆ ภายนอกได้ ถือเป็นจุดที่น่าสนใจสำหรับการเดินเล่นและถ่ายรูป

 

 

 

20. พิพิธภัณฑ์เมืองหลวงปักกิ่ง (The Capital Museum in Beijing)

tk-kurikawa/shutterstock.com

The Capital Museum in Beijing เป็นหนึ่งในสถาบันวัฒนธรรมชั้นนำของเมือง ที่นี่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของปักกิ่ง ตั้งอยู่ในย่านซีเฉิง ตัวอาคารมีดีไซน์ที่ทันสมัย มีพื้นที่จัดแสดงกว้างขวาง ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุหลากหลายที่มีอายุนับพันปี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปั้นดินเผา อักษรวิจิตร หยก สำริด และศิลปะพื้นบ้านดั้งเดิม การจัดแสดงยังมีรูปแบบอินเตอร์แอคทีฟที่ช่วยให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของปักกิ่งได้ดีขึ้น The Capital Museum เหมาะสำหรับคนที่อยากสำรวจอดีตของเมืองนี้ และอยากรู้ว่าปักกิ่งมีบทบาทสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของจีนอย่างไร ทำให้เป็นที่ที่ควรมาเยือนสำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม

 

 

 

 

รู้หรือไม่?

ท่าอากาศยานนานาชาติ ปักกิ่ง ต้าซิง: เป็นอาคารผู้โดยสารสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ท่าอากาศยานนานาชาติปักกิ่งต้าซิงเปิดตัวในปี 2019 และเป็นอาคารผู้โดยสารสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7.5 ล้านตารางฟุต ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง Zaha Hadid และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 100 ล้านคนต่อปี สนามบินแห่งนี้ได้รับการยกย่องในด้านการออกแบบที่ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพ

รถไฟใต้ดินปักกิ่ง: ระบบรถไฟใต้ดินที่ยาวที่สุดในโลก

รถไฟใต้ดินปักกิ่งเป็นระบบรถไฟใต้ดินที่ยาวที่สุดในโลก โดยมีความยาวกว่า 727 กิโลเมตร (451 ไมล์) และรองรับผู้โดยสารกว่า 3.7 พันล้านคนต่อปี ระบบรถไฟนี้มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดการจราจรติดขัดในเมืองและทำให้การเดินทางในปักกิ่งสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

เป็ดปักกิ่ง: หนึ่งในอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

เป็ดปักกิ่งเป็นหนึ่งในอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีประวัติยาวนานกว่า 600 ปี ตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง เป็ดปักกิ่งโดดเด่นด้วยหนังกรอบและเนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมแพนเค้กบาง ซอสหอยนางรม และต้นหอม ร้านอาหาร Quanjude ในปักกิ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในการทำเป็ดปักกิ่ง และเคยเสิร์ฟให้กับบุคคลสำคัญจากทั่วโลก การได้ลองเป็ดปักกิ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนปักกิ่ง

 

 

 

 

เที่ยวปักกิ่ง ช่วงไหนดี?

ช่วงที่ดีที่สุดคือฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) และฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-พฤศจิกายน) ซึ่งถือว่าเป็นหน้าไฮของการท่องเที่ยว เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้จะเย็นสบาย มีท้องฟ้าแจ่มใส และธรรมชาติสวยงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีจะทำให้ทิวทัศน์ของเมืองดูงดงามมากขึ้น ส่วนฤดูร้อน (มิถุนายน-สิงหาคม) อากาศจะร้อนและมีฝนตกชุก ขณะที่ฤดูหนาว (ธันวาคม-กุมภาพันธ์) จะหนาวจัดและมีหิมะตก จึงอาจไม่สะดวกในการเดินทางเที่ยวในบางสถานที่ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซัน ยกเว้นวันหยุดยาวต่างๆของประเทศจีน

 

 

 

 

เที่ยวปักกิ่ง ใช้เวลากี่วันดี

สำหรับคนที่มาเที่ยวปักกิ่งครั้งแรก 3-4 วันก็เพียงพอที่จะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ ๆ อย่าง Forbidden City, Tiananmen Square, Temple of Heaven, Summer Palace และ Great Wall ที่ Badaling หรือ Mutianyu แต่ถ้ามีเวลา 5-7 วัน เราจะได้สำรวจสถานที่ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากขึ้น เช่น Hutongs, Lama Temple และส่วนอื่น ๆ ของ Great Wall รวมถึงเที่ยวสบาย ๆ ในย่านทันสมัยอย่าง 798 Art District หรือถนนช้อปปิ้ง Wangfujing สำหรับคนที่มีเวลา 8-10 วัน สามารถขยายทริปไปยังเมืองใกล้เคียงอย่าง Tianjin หรือไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับที่ Ming Tombs หรือ Chengde ได้เพื่อประสบการณ์ที่ครอบคลุมมากขึ้น

 

 

 

>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก ปักกิ่ง เดินทางสะดวก ราคาไม่แพง <<<

top-beijing-china-places

Photo from https://www.pexels.com/photo/great-wall-of-china-1423580/

 

 

 

 

>>> แนะนำ โรงแรมที่พัก ปักกิ่ง เดินทางสะดวก ราคาไม่แพง <<<

hotels-beijing-china

Photo from https://pxhere.com/en/photo/763186#google_vignette