แนะนำ 25 ที่เที่ยวภูเก็ต ที่ไปมาแล้วอยากบอกต่อ 2567
ไข่มุกอันดามัน ฉายาของเกาะภูเก็ตที่แค่ได้ยินก็ปังแล้ว จัดว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของประเทศไทย จนเป็นจังหวัดที่มีชาวต่างมากที่สุดจังหวัดหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเต็มไปด้วยทั้งวัฒนธรรมที่น่าค้นหา สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต และวิถีชีวิตริมชายหาดอันงดงาม หรือจะเป็นหาดทรายขาวสะอาดตา น้ำทะเลใสราวกระจก ภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา ป่าชายเลนเขียวชอุ่ม หรือจะเป็นสถานที่กิจกรรมผจญภัยสุดมันส์ ร้านอาหารพื้นเมืองอร่อยถึงเครื่อง สไตล์อาหารใต้ หรือจะเป็นซีฟู้ดสดๆ คาเฟ่ชิคๆ ภูเก็ตก็มีครบให้ได้สำรวจกันอย่างจุใจ พวกเราเลยรวบรวม 25 ที่เที่ยวฮิตมาฝากกัน รับรองได้เลยว่าไปแล้วอยากบอกต่อแน่นอน ตามมาดูกันเลย!
1. ประตูเมืองภูเก็ต
แค่ประตูเมืองภูเก็ต ก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด่านแรก ที่โดดเด่นไปด้วยสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เป็นเสาปฏิมากรรมจำนวน 29 ต้น ตั้งเด่นตระหง่าน ทอดยาวเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ โดยจุดประสงค์เพื่อบ่งบอกถึงที่มา และเรื่องราวของเมืองภูเก็ต นอกจากนี้ยังมีประติมากรรมเต่าทะเล และไข่เต่าขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นงานศิลปะที่มีแอบแฝงไปด้วยแนวความรู้รอบเกาะภูเก็ต บนหาดไม้ขาวนี้ ซึ่งถือเป็นสถานที่วางไข่เต่ามะเฟือง หากนักท่องเที่ยวท่านไหนสนใจสามารถเข้าไปชมการจัดแสดงนิทรรศการในอาคารกันได้เลย นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ บริเวณแนวป่าโกงกาง ให้เราได้เดินเล่น รับลมกันแบบชิวๆด้วยสะพานข้ามแนวป่าชายเลนทอดยาวกว่า 419 เมตร ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองภูเก็ตที่ไม่ควรพลาด แวะมาเช็คอินกันได้ที่ ตำบลไม้ขาว ใกล้กับสะพานท้าวเทพกระษัตรี-ท้าวศรีสุนทร โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
2. สะพานสารสิน
ใครขับรถไปเที่ยวเกาะภูเก็ต จะต้องผ่านสะพานสารสินก่อนแน่นอน เหมาะสำหรับใครที่มาท่องเที่ยวเมืองภูเก็ต แล้วกำลังมองหาจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองนี้ ต้องห้ามพลาดกับสะพานสารสินเลย ซึ่งเป็นสะพานที่ไว้เชื่อมต่อกันระหว่างจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต โดยถูกออกแบบให้เป็นหอชมวิวอาคารแปดเหลี่ยม ในสไตล์แบบชิโนโปรตุกีส ที่มีความสวยงาม หรูหรา ผสมผสานกับความคลาสสิคไว้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะมาดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดชิว ที่ค่อนข้างเงียบสงบ โดยเฉพาะในช่วงยามเย็น เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมาก แถมยังสามารถมองเห็นวิวทะเลกันได้แบบสุดลูกหูลูกตาอีกด้วย จึงทำให้สะพานสารสินแห่งนี้ กลายมาเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่งของเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ที่ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง เปิดให้เข้ามาชมวิวกันได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม
3. Aquaria Phuket เซนทรัล
Aquaria Phuket เซนทรัล จัดแสดงอยู่ในชั้น b1 โดยที่นี่ถือเป็นอควาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งวัดจากการใช้มวลน้ำสูงถึง 7 ล้านลิตร ที่มีแทงค์จัดแสดงถึง 13 แทงค์ ภายใต้การคำนวณพื้นที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับสัตว์น้ำได้มากที่สุด โดยอควาเรียภูเก็ต ได้เปิดตัวเป็นแห่งที่ 2 ของโลก ให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ ไปกับการจัดแสดงสัตว์น้ำกว่า 500 สายพันธุ์ รวมทั้งสิ้น 51,000 ชีวิต โดยจะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 8 โซน ภายใต้แนวคิดจากแหล่งน้ำ สู่ลำธาร และท้องทะเล อาทิ การจำลองบรรยากาศป่าหิมพานต์ ไว้สำหรับจัดแสดงพันธุ์สัตว์เลื้อยคลานหายาก โซน River Cave สัตว์น้ำจืดตามแหล่งแม่น้ำลำธาร โซน South China Sea ที่แสดงสัตว์ในทะเลจีนใต้ ฯลฯ เราจะได้สัมผัสกับสัตว์นานาชนิดกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีการโชว์ให้อาหารสัตว์ตลอดทั้งวันอีกด้วย ราคาบัตรเข้าชม Aquaria 490 บาท และบัตรเข้าชม AQUARIA กับ Trick Eye Museum 640 บาท เปิดตั้งแต่เวลา 10:30 – 20:00 น.
4. Phuket Aquarium แหลมพันวา
Phuket Aquarium แหลมพันวา เป็นสถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำสังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี โดยภายในอควาเรียมนั้น จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 5 โซน ได้แก่ โซน Aquarium เราจะได้ตื่นตาตื่นใจกับสัตว์ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็มมากกว่า 130 สายพันธุ์ รวมกว่า 1,500 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาสวยงาม ปะการัง ปลาน้ำจืด สัตว์น้ำลึก ฯลฯ ถัดจากอควาเรียมแล้วจะมีเส้นทางให้ศึกษาธรรมชาติ โดยเราสามารถชมวิวทะเลแหลมพันวา ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงามและพืชทะเลตามแนวชายฝั่ง นอกจากนี้ยังมีโซนโรงเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โซนบ่อเลี้ยงเต่าทะเลฝั่งอันดามัน รวมไปถึงโซนเรือจักทอง ใครที่มีเด็กเล็กมาเที่ยวด้วย ที่นี่ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ค่าเข้าชาวไทยผู้ใหญ่อยู่ที่ 80 บาท และเด็ก 40 บาทเท่านั้น ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปสามารถเข้าชมฟรี เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 – 16.30 น.
5. ย่านเมืองเก่า ภูเก็ต + ถนนคนเดิน
ย่านเมืองเก่า ภูเก็ต + ถนนคนเดิน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงาม และคลาสสิค รายล้อมไปด้วยตึกชิโนโปรตุกีส ที่มีสีสันสดใส เหมาะกับการเป็นเมืองท่องเที่ยวสุดๆ โดยในย่านเมืองเก่านี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมาเดินเล่นชิวๆ ชมตึกรามบ้านช่อง สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวเมืองภูเก็ต ซึ่งถือเป็นเสน่ห์ของเมืองนี้เลย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้เราได้เดินเล่นถ่ายรูปกันมากมาย อาทิ พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร เป็นไปรษณีย์เก่าของจังหวัดภูเก็ตที่มีสถาปัตยกรรมแบบโบราณ งดงามมาก พิพิธภัณฑ์เพอรานากัน ตั้งอยู่บนถนนเทพยกษัตรี ที่ได้รวบรวมของใช้เกี่ยวกับเมืองภูเก็ตในอดีตไว้ให้เราได้ศึกษา วิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมของชาวพื้นเมือง และที่ขาดไม่ได้เลยคือถนนคนเดินตลาดใหญ่ภูเก็ต ที่บรรยากาศคึกคัก ทั้งสองฝั่งข้างทางเต็มไปด้วยอาคารสวยงาม และมีร้านค้าขายของที่ระลึก อาหารพื้นเมืองรวมถึงมีกิจกรรมการแสดงต่างๆให้เราได้เดินชม ช็อป กันสุดชิล
6. จุดชมวิวกะรน
จุดชมวิวกะรน เป็นจุดชมวิวยอดฮิตที่ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางเมืองภูเก็ต โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสวยงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ภูเขาเขียวขจี จุดนี้สามารถมองเห็นวิวได้ทั้ง 3 หาดเลย คือ หาดกะตะน้อย หาดกะตะ และหาดกะรน ถูกยกให้เป็นจุดชมวิวที่จึ้งที่สุดในภูเก็ต หาดมีความโค้งมนเป็นเวิ้ง ลักษณะจะคล้ายกับ พระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เห็นน้ำทะเลไล่ระดับสีเป็นภาพที่มีครบจบในที่เดียว ทั้งทะเล ภูเขา ท้องฟ้า หาดทราย และพระอาทิตย์ตกดิน ต้องยอมรับเลยว่าเป็นความสวยงามที่หาชมได้ยากจริงๆ เป็นบรรยากาศสุดชิวที่ลมทะเลพัดเย็นสบาย ยิ่งในช่วงยามเย็นท้องฟ้าจะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้ม ทำให้จุดนี้รับชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าได้สวยที่สุดในภูเก็ตแล้ว การเดินทางไปที่จุดจุดชมวิวกระรน จะใช้เส้นทาง ถนนกะตะ – ไสยวน (4233)
7. จุดชมวิว Black Rock Viewpoint
Black Rock Viewpoint อีกหนึ่งจุดชมวิว Unseen ของเมืองภูเก็ต ที่บอกเลยว่าสายลุยไม่ควรพลาด เนื่องจากจุดชมวิวนี้อยู่สูงกว่าที่อื่นๆ ซึ่งก็มีเส้นทางที่คดเคี้ยวและลำบากพอสมควร แต่บอกเลยว่าประทับใจแน่นอน โดยเราสามารถมองเห็นวิวกังหันลม และวิวแหลมพรหมเทพด้านล่างได้ด้วย ซึ่งวิธีการเดินทางขึ้นไปในจุดชมวิวนี้สามารถใช้มอเตอร์ไซค์มีเกียร์ หรือรถกระบะก็ได้ สำหรับใครที่อยากจะสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ก็เดินได้เลย โดยทั้งสองข้างทางนั้นจะเป็นป่าเขียวอุดมสมบูรณ์ มาพร้อมกับบรรยากาศที่สดชื่น ขึ้นมาด้านบนสุด จะสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา เป็นอีกหนึ่งจุดที่ชมวิวพระอาทิตย์ตก ได้สวยงามมาก โดยจุดนี้จะสามารถมองเห็นอ่าวฉลอง หาดยะนุ้ย หาดในหาน เกาะไม้ท่อน แหลมพรหมเทพ ฯ ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมของเมืองภูเก็ต ที่ประกอบไปด้วยวิวธรรมชาติอันสวยงามรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน พิกัดที่ตำบลราไวย์ ใช้ถนนหมายเลข 4030 เปิดให้บริการทุกวันตลอดเวลา
8. ร้านของฝาก แม่จู้
ร้านของฝาก แม่จู้ ใครที่มาท่องเที่ยวเมืองภูเก็ตแล้วกำลังมองหาร้านของฝากคุณภาพดี ที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลายรายการ บอกเลยว่าต้องห้ามพลาดกับร้านแม่จู้ เปิดให้บริการตั้งแต่ พ.ศ 2482 ยาวนานกว่า 70 ปี มีของฝากให้เลือกครบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาหารพื้นเมืองน้ำพริกกุ้งเสียบ รสชาติเข้มข้น, แกงไตปลา, ชุด Gift Set, ผลไม้อบแห้ง, ขนมพื้นเมือง อาทิ เต้าส้อ ก้องถึง คุกกี้มะพร้าว บี้พ้าง ฯลฯ บอกเลยที่นี่มีให้เลือกครบครัน ซึ่งถือเป็นร้านของฝากที่ใหญ่ที่สุดในภูเก็ต การันตีคุณภาพด้วยประกาศนียบัตรมากมาย แถมยังได้รับรองมาตรฐาน ISO 9001 มาตรฐาน GMP, ฮาลาล รวมไปถึง ผลิตภัณฑ์สินค้าที่ได้รับรองเป็น OTOP 5 ดาวอีกด้วย หากใครสนใจสามารถมาช๊อปของฝากคุณภาพเยี่ยมกันได้ที่ ถนนเทพยะกษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.
9. พิพิธภัณท์เหมืองแร่
พิพิธภัณท์เหมืองแร่ พามาชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามในยุครุ่งเรืองของเมืองภูเก็ต กับพิพิธภัณฑ์เหมืองแร่ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกจัดให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญของคนยุคหลัง มีพื้นที่ขนาดกว้างขวางกว่า 400 ไร่ โดยจะแบ่งออกเป็นตัวอาคาร ที่ถูกออกแบบด้วยศิลปะชิโนโปรตุกีส ที่มีการผสมผสานกับลายปูนปั้น ให้ความสวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยอาคารนี้มีชื่อว่า อังมอเหลานายหัวเหมือง โดยภายในจะมีการจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับเครื่องมือและอุปกรณ์การทำเหมืองแร่ นอกจากนี้ยังมีส่วนของม่านฟ้าเกาะพญามังกร ที่เป็นห้องจัดนิทรรศการ ต่างๆ อาทิ ห้องเรืองรองธรณี ห้องปฐพีเหมืองแร่ ห้องชาญฉลาดนาวาชีวิต ฯ เหมาะแก่การมาศึกษาศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนรุ่นก่อนเป็นอย่างมาก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวจะได้รับชมทัศนียภาพโดยรอบ ที่มีพื้นที่ให้เดินเล่นชมวิวสวยๆมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด โดยมีค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 50 บาทและเด็ก 20 บาท เปิดให้เข้าชมตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
10. แพครูวิทย์
แพครูวิทย์ ถือเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่โด่งดังมากในเมืองภูเก็ตเลย ถูกยกระดับให้เป็นร้านอาหารไทยรสแซ่บที่ตั้งอยู่บริเวณกลางทะเลบอกเลยว่ารสชาติอร่อยถูกปาก แซ่บถึงใจแน่นอน มีลักษณะที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือจะเป็นแพเรียงต่อกันขนาดใหญ่ หลังคามุงใบจากจึงให้ความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ไฮไลท์เด็ดของร้านนี้คือวัตถุดิบที่สดใหม่จับขึ้นกันแบบสดๆจากกระชังเลย นำมาปรุงอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น หอยนางรม กุ้งแม่น้ำ ปลาหมึกนึ่งมะนาว กุ้งลายเสือผัดพริกเกลือ ปลาเก๋ามุกทอดสมุนไพร กุ้งมังกรซาซิมิ และเมนูอื่นๆให้เราได้เลือกทานกันอย่างจุใจ มาพร้อมกับบรรยากาศริมน้ำกลางบึง สุดชิลใกล้ชิดกับธรรมชาติ แถมทางร้านยังมีบริการ เรือหางยาวให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ บอกเลยว่าสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้อย่างแน่นอน พิกัดอยู่ที่ เกาะมะพร้าว ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต ร้านพร้อมเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 22:00 น.
11. บ้านอาจ้อ (Baan Ar-Jor)
สำหรับชื่อ “บ้านอาจ้อ” จะหมายถึงบ้านของทวด โดยที่นี่แต่เดิมเป็นบ้านพักตากอากาศของคหบดีเหมืองแร่ชาวจีน ตระกูล “หงษ์หยก” ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2479 ตั้งอยู่ในหาดไม้ขาว ต่อมาบ้านได้ถูกปิดไว้นานถึง 37 ปี ก่อนที่ทายาทรุ่นที่ 4 จะได้ทำการรีโนเวทใหม่ ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ โฮมสเตย์ รวมไปถึงร้านอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย ที่มีรางวัลมิชิลินไกด์การันตีกันอีกด้วย โดยตัวบ้านอาจ้อจะเป็นอาคารหลังใหญ่ขนาด 3 ชั้น ออกแบบตกแต่งสไตล์จีนโคโลเนียล ภายในแบ่งโซนต่างๆ ออกเป็นสัดส่วนได้อย่างลงตัว ในบริเวณเดียวกันจะมีทั้ง ร้านอาหาร คาเฟ่ ที่พัก และพิพิธภัณท์ แต่ราคาจะค่อนข้างสูง
12. Intuch de’ cafe
Intuch de’ cafe คาเฟ่กวางหนึ่งเดียวในภูเก็ต ลักษณะเป็นคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยสัตว์มากมายหลากหลายชนิด ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนปาล์ม ที่ให้บรรยากาศร่มรื่น ผ่อนคลาย เหมาะแก่การมานั่งรับลมชิวๆสุดๆ ที่นี่เป็นคาเฟ่ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเด็กๆจะได้เพลิดเพลินและรู้จักกับสัตว์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นแพะ นกยูง ห่าน เม่น กระรอกยักษ์ นกสวยงาม หมูป่า ม้าและไฮไลท์เด็ดของที่นี่คือสวนกวาง ที่สวยสง่า เปิดให้เราได้เข้าไปเลี้ยงอาหารตัวต่อตัวกันแบบใกล้ชิด มีมุมสวยๆให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปมากมาย เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่อิงธรรมชาติ เหมือนได้มาเที่ยวสวนสัตว์เลย ยกระดับวันหยุดให้พิเศษมากยิ่งขึ้น บอกเลยมาที่นี่ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มนั้น ก็มีให้เราเลือกทานมากมาย พร้อมเติมความสดชื่นระหว่างวัน หิวๆก็สั่งอาหารมาทานกันได้เลย รสชาติอร่อยถูกปาก พิกัด ลายันซอย 1 เสียค่าเข้าชมคนละ 50 บาท เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-18.00น. ยกเว้นวันจันทร์
13. มาดูบัว Phuket
มาดูบัว Phuket อีกหนึ่งคาเฟ่ที่เหมาะแก่การหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อน รับชมสวนบัวสายพันธุ์วิคตอเรีย หรือ บัวกระด้ง ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1.5 เมตรเลยทีเดียว บรรยากาศรอบคาเฟ่นั้นมีความผ่อนคลาย รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนไทย ให้กลิ่นอายความย้อนยุค ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของคาเฟ่แห่งนี้เลย โดยที่นี่จะมีกิจกรรมพิเศษ สามารถลงไปยืนถ่ายรูปบนใบบัวได้ ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักได้สูง 65 กิโลกรัม โดยจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 350 บาทต่อครั้ง และอีกหนึ่ง signature ของที่นี่ คือการถ่ายภาพมุมสูงด้วยโดรน ค่าใช้จ่ายคนละ 500 บาท บอกเลยได้ภาพสวยชิคไม่เหมือนใครแน่นอน ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มนั้น เมนูแนะนำของที่นี่ต้องห้ามพลาดกับยำก้านบัวกรอบ หลนก้านบัวกุ้งสด พานาคอตต้าก้านบัวเชื่อม ต้มยำโซดา สาคูเมล่อนลาเต้ และอื่นๆอีกมากมายที่รสชาติอร่อยมีความเป็นเอกลักษณ์ รับรองทานแล้วติดใจแน่นอน
14. Three Monkeys
Three Monkeys เป็นร้านอาหารที่ร่มรื่น โดยเราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่นั่งทานอาหารท่ามกลางป่าใหญ่แต่อยู่ในใจกลางเมืองภูเก็ตเลย พื้นที่กว้างขวางกว่า 60 ไร่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย ให้ความรู้สึกสดชื่นเหมาะแก่การเป็นมือพิเศษสุดๆ โดยทางร้านตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่นไม้ไผ่ ใบจาก นำมาประสานกันไปตามแนวต้นไม้ โดยจะมีการนำเหล็กมาเสริมในส่วนของโครงสร้างเพื่อให้มีความแข็งแรง จุดเด่นอยู่ที่ห้องอาหารที่มีการทำเป็นโดมสูง โปร่ง มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา โดยภายใต้อาคารนั้นจะมีการเจาะสกายไลท์ให้แสงส่องเข้ามาจึงทำให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ในส่วนของอาหาร ก็มีทั้งอาหารใต้ต้นตำรับ อาหารสไตล์ญี่ปุ่น รวมถึงอาหารสไตล์บาหลี ให้เราได้เลือกทานกันอย่างหลากหลายรับรองรสชาติอร่อยติดใจแน่นอน พิกัดที่ย่านวิชิต ถนนเหมืองเจ้าฟ้า เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09:00 – 23:00 น.
15. Rabbit Hole Phuket
Rabbit Hole Phuket สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านคาเฟ่ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกคนในครอบครัว ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว โดยไฮไลท์เด็ดของคาเฟ่จะรวบรวมสัตว์น่ารักทุกชนิดไว้ให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย ครอบครัวเป็ด ปลาคาร์ฟ แพะ ม้า และอื่นๆอีกมากมายพร้อมตอบโจทย์ ให้เราได้สนุกสนานกันอย่างเต็มอิ่ม โดยแต่ละโซนนั้นจัดที่อยู่ไว้เป็นสัดส่วน สะอาด แถมยังพื้นที่กว้างขวางมีสนามหญ้าให้เด็กๆได้วิ่งเล่นอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการขี่ม้า, ปั่นเรือเป็ด, zipline , Swing 200บาท/ครั้ง ที่สร้างความท้าทายได้อย่างยอดเยี่ยม ถือเป็นคาเฟ่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวจริงๆ ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม แนะนำเป็น เมี่ยงปลาแซลมอน แกงคั่วใบชะพลูปลาย่าง ช็อคโกแลตลาวา มิกซ์เบอร์รี่มิ้วกี้เวย์ เป็นต้น มาที่นี่รับรองไม่มีเบื่อหน่ายอย่างแน่นอน พิกัดอยู่ที่อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.
16. แหลมพรหมเทพ
แหลมพรหมเทพ มาเที่ยวภูเก็ตทั้งทีไม่มีใครไม่รู้จักแหลมพรหมเทพอย่างแน่นอน เรียกได้ว่าเป็นอันซีนของเมืองไทยเลย เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกได้สวยอันดับต้นๆของประเทศไทย เรามักจะเห็นจุดนี้อยู่ในภาพยนตร์หลายๆเรื่อง ลักษณะจะเป็นแหลมโค้งทอดตัวลงสู่ทะเล พร้อมกับวิวพระอาทิตย์ที่อยู่ด้านหน้า ให้เรามองเห็นทะเลและท้องฟ้ากันได้แบบสุดลูกหูลูกตา ในส่วนของวิวด้านซ้ายจะเป็นหาดนัยยะ และวิวด้านขวาจะเป็นหาดในหาน เหมาะแก่การมานั่งรับลมทะเลชิวๆ และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าสีส้มกลมโต บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ โดยที่แหลมพรหมเทพไม่ได้เพียงแค่วิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามน่าชมเท่านั้น แต่ยังมีทุ่งหญ้าสีทอง ที่ปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ หรือถ้าหากไปในช่วงฤดูฝนก็จะมีความเขียวขจี สร้างความสดชื่นสบายตาสุดๆ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เปิดให้เข้าชมความงามตลอด 24 ชั่วโมง
17. วัดฉลอง
วัดฉลอง จังหวัดภูเก็ตไม่ได้มีเพียงแค่ทะเลสวยและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์เท่านั้น แต่ยังเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม มีวัดวาอารามที่วิจิตรงดงาม โดยเฉพาะ วัดฉลอง (วัดไชยธาราราม) ซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต องค์พระประธานที่ชาวบ้านนิยมมากราบ สักการะกันอยู่เป็นประจำ คือ หลวงพ่อแช่ม ซึ่งชื่อเสียงโด่งดัง โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ ปิดทองที่บริเวณพระพาหุ และ พระเพลา ของหลวงพ่อแช่ม จะปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และประสบความสำเร็จในชีวิต นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยพระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไตรบารมีประกาศ ที่ได้มีการอัญเชิญพระสารีริกธาตุมาจากประเทศศรีลังกา เป็นวัดที่แนะนำให้มากราบไหว้ขอพร เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตและครอบครัวสักครั้งหนึ่งในชีวิต โดยเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
18. วัดพระใหญ่ ภูเก็ต
พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือวัดพระใหญ่ แห่งภูเก็ต เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่เราอยากจะแนะนำให้นักท่องเที่ยวมาชมความวิจิตรงดงาม ของพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ปางมารวิชัย ที่สร้างขึ้นจากหินหยกขาว ประเทศพม่า หนักถึง 135 ตัน ขนาดใหญ่กว้าง 25 เมตร สูง 45 เมตร โดยตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ที่เราสามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศา โดยเฉพาะในยามเย็น พระอาทิตย์ตกดินให้แสงสีส้มนวลตาสะท้อนกับหยกขาว ทำให้องค์พระพุทธรูปนี้โดดเด่น และงดงามมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมขึ้นมากราบสักการะขอพร นอกจากนี้ยังนิยมขึ้นมาแขวนกระดิ่งทองเหลืองเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์อีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่นอกจากจะสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิดแล้ว ยังได้มากราบขอพรพระองค์ใหญ่อันศักดิ์สิทธิ์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองอีกด้วย เปิดให้เข้ามาท่องเที่ยวได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น.
19. หาดป่าตอง
หาดป่าตอง เป็นหาดในภูเก็ตที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เต็มไปด้วยแสง สี เสียง ความบันเทิง และความสวยงามของธรรมชาติครบจบสมบูรณ์แบบในที่เดียว โดยหาดป่าตองนี้มีขนาดใหญ่ ทรายขาวละเอียดทอดยาวสุดลูกหูลูกตา น้ำทะเลใส แถมบริเวณชายหาดยังมีกิจกรรมสนุกสนานให้เราได้ตื่นตาตื่นใจกันมากมายทั้งเจ็ทสกี สปีดโบท บานาน่าโบ็ท ฯ เป็นหาดที่คึกคักทั้งในยามกลางวันและกลางคืน นอกจากนี้ยังมีผับ บาร์ ให้เราได้มานั่งปาร์ตี้กันริมชายหาด บอกเลยว่าบรรยากาศดี สนุกเพลิดเพลินจนต้องติดใจแน่นอน อีกทั้งยังเป็นเต็มไปด้วย รีสอร์ท โรงแรม ร้านค้าร้านอาหาร คาเฟ่มากมาย ไว้รองรับนักท่องเที่ยวได้ครบทุกรูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นหาดที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบความสนุก และแสงสียามค่ำคืน ที่นี่จะมอบความบันเทิงให้อย่างไร้ขีดจำกัด รับรองว่าประทับใจแน่นอน เปิดให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
20. โชว์สุดอลังการที่ Carnival Magic
Carnival Magic เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ของภูเก็ต ที่อัดแน่นไปด้วยการแสดงแสงสีเสียงสุดอลังการที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย หรือถ้าใครจะไม่ดูโชว์ก็สามารถเข้าไปเดินเล่นถ่ายรูปบรรยากาศรอบๆได้ ควรไปช่วงหัวค่ำ
21. สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต
สวนน้ำอันดามันดา ภูเก็ต สำหรับใครที่พาเด็กๆมาเที่ยวเมืองภูเก็ตด้วย เราขอแนะนำ สวนน้ำอันดามันดา เลย จัดเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คเด็ด ที่รับรองเลยว่าสนุกสุดขีดแน่นอน ให้เราได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นทางน้ำใหม่ๆกว่า 25 ชิ้น ที่จะมาสร้างความตื่นตาตื่นใจ ให้เราได้สนุกคลายร้อนกันอย่างเต็มที่ โดยที่นี่ผ่านการออกแบบภายใต้แรงบันดาลใจจาก Thai Legend Meets Fantasy จัดเต็มด้วยเครื่องเล่น 5 ธีมโซน อาทิ Emerald Forest, Coral World, The Pearl Palace, The Great Andaman Bay และ Naga Jungle ยิ่งใหญ่อลังการด้วยพื้นที่กว่า 58 ไร่ อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดให้เราได้สนุกเร้าใจกับ 12 สไลเดอร์ และโซนเครื่องเล่นเด็กกว่า 5,300 ตารางเมตร เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวสุดๆ พิกัดที่ตำบลกะทู้ เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00-19.00 น. ค่าเข้าใช้บริการ ผู้ใหญ่ 1,500 บาท เด็ก 1,000 บาท
22. สวนน้ำ Splash Jungle
สวนน้ำ Splash Jungle อีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ตอบโจทย์สำหรับคนชื่นชอบความท้าทายเป็นอย่างมาก เพราะที่นี่เต็มไปด้วยสไลเดอร์สุดมันส์ แถมยังมาพร้อมกับบรรยากาศจำลองทำเลเทียม ให้เราเล่นได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล พิกัดอยู่ที่ หาดไม้ขาว ใกล้กับสนามบินนานาชาติภูเก็ตเลย เดินทางสะดวกมาก ไฮไลท์เด็ดของสวนน้ำแห่งนี้จะแบ่งเป็น 6 โซน เช่น Super Bowl, Body Slide, Family Raft Ride และที่โด่งดังมากต้องยกให้กับ Lazy River ที่ให้เราได้สนุกสุดเหวี่ยงไปกับห่วงยางหมุนวนรอบ Splash Jungle สถานที่สะอาด มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาใช้บริการมากมาย ถ้าหากใครกำลังวางแผนพาครอบครัวมาเที่ยวภูเก็ตอยู่นั้น สวนน้ำ Splash Jungle ถือเป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คที่ไม่ควรพลาด รับรองว่าประทับใจแน่นอน ค่าตั๋วผู้ใหญ่ราคา 800 บาท เด็ก 400 บาท เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-17.45 น.
23. แหลมกระทิง
แหลมกระทิง เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดฮีลใจ ที่บรรยากาศโรแมนติกวิวสวยอลังการสุดๆ โดยนักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวของแหลมพรหมเทพ และเกาะต่างๆอีกมากมาย ไฮไลท์เด็ดของแหลมกระทิง คือจะมีทุ่งหญ้าสีเหลืองทองอร่าม ที่พลิ้วไสวตามโขดหิน พร้อมทั้งได้ชมวิวพระอาทิตย์ดวงโต ที่กำลังจะลับเส้นขอบฟ้า ถือเป็นภาพความประทับใจที่หาชมได้ยากเลยทีเดียว โดยที่จุดชมวิวนี้ จะมีโขดหินตั้งเด่นตระหง่านยื่นเข้าไปยังขอบทะเล รูปที่ได้ออกมาจึงสวยราวกับภาพวาดเลย และที่สำคัญเป็นจุดเช็คอินที่ผู้คนไม่พลุกพล่าน จึงให้ความเป็นส่วนตัวสูง บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ไม่ควรพลาด เปิดให้เข้ามาชมวิวได้ตลอด 24 ชั่วโมง
24. เกาะเฮ
เกาะเฮ เป็นเกาะขนาดเล็กยอดนิยม ที่น้ำทะเลใสไม่แพ้กับมัลดีฟเลย ด้วยทัศนียภาพและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้หมู่เกาะแห่งนี้มีเสน่ห์ที่น่าหลงใหลอย่างมาก เป็นที่นิยมของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ต่างก็ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาไม่ขาดสาย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เปิดให้มากันแบบ One Day Trip ให้เราได้เดินเล่นชิลๆบนหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาวแบบสุดลูกหูลูกตา หาดสะอาด ทะเลสวยน้ำใสมองเห็นปะการังน้ำตื้นได้เลย เห็นฝูงปลาน้อยใหญ่มากมาย เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่บอกเลยว่าไม่ควรพลาด ในส่วนของการเดินทางมาที่เกาะนั้นสามารถนั่งเรือสปีดโบ๊ทมาได้ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที เนื่องจากอยู่ห่างจากฝั่งภูเก็ตเพียงแค่ 10 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นก่อนที่สงบเงียบ ไม่วุ่นวาย เหมาะแก่การพักผ่อนสุดๆ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.
25. เกาะไม้ท่อน
เกาะไม้ท่อน ใครกำลังอยากจะหาที่ไปหลบพักกายพักใจแบบไม่ต้องวุ่นวายกับใคร เราขอแนะนำที่เกาะไม้ท่อนเลย ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต หาดทรายขาว น้ำทะเลใสแจ๊ว มองเห็นฝูงปลาน้อยใหญ่หลากหลายชนิด อาทิ ปลาสิงโต ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลาเสือ ฯลฯ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกาะไม้ท่อนถือเป็นสวรรค์ของคนที่ชอบดำน้ำเลย ให้เราได้พักผ่อนหย่อนใจกันอย่างเต็มอิ่ม เกาะไม้ท่อนได้ชื่อว่าเป็นมัลดีฟเมืองไทย วิวสวย ภายใต้ฟ้าสีคราม เกาะแห่งนี้โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ สร้างความสดชื่นให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดีเลย ให้เราได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติกันอย่างใกล้ชิด ใครที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวบอกเลยว่าเกาะแห่งนี้ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด หากใครที่สนใจ สามารถมาขึ้นเรือจากท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต หรือท่าเรือน้ำลึกพันวาได้เลย อยู่ห่างจากเกาะประมาณ 9 กิโลเมตร พร้อมเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-19.00 น.
>>> แนะนำ คาเฟ่ ร้านอาหาร ต้องห้ามพลาด ภูเก็ต <<<
>>> แนะนำ ที่พักสวย ราคาดี ภูเก็ต <<<