อนุเสาวรีย์ Altare della Patria
Altare della Patria อาคารอันงดงามซึ่งจัดได้ว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกรุงโรมที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเกียรติยศของ Victoria Emanuele II กษัตริย์องค์แรกของอิตาลีที่มีเอกภาพในกรุงโรม ตั้งอยู่บนพื้นที่ระหว่าง Piazza Venezia และ Capitoline Hill
อนุสาวรีย์นี้มีอีกชื่อว่า Vittoriano เป็นอนุสาวรีย์ที่มีโครงสร้างแบบผสมผสาน ได้รับการออกแบบโดย Giuseppe Sacconi ซึ่งถูกเปิดตัวในปี 1911 และได้เสร็จสมบูรณ์ในปี 1925 Vittoriano มีบันไดคอลัมน์โครินเธียนน้ำพุประติมากรรมขี่ม้าของ Victoria Emanuele II และรูปปั้นสองรูปของเทพธิดาวิคตอเรียอยู่ที่บนจัตุรัส โครงสร้างของอนุสาวรีย์มีความกว้าง 135 เมตร และสูง 70 เมตร มีพื้นที่โดยรวมทั้งหมด 17000 ตารางเมตร ในปี 2007 ได้มีการเพิ่มโครงสร้างแบบพาโนรามาเข้าไปเพื่อให้นักท่องเที่ยวที่เข้าชมสามารถนั่งชมทัศนียภาพแบบ 360 องศาของกรุงโรมได้อีกด้วย
อนุสาวรีย์นั้นมีหลุมฝังศพของทหารที่ไม่รู้จักกับเปลวไฟนิรันดร์ที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้รูปปั้นเทพธิดาแห่งโรมหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ตามแนวคิดของ General Giulio Douhet ร่างกายของทหารที่ไม่รู้จักนั้นได้รับเลือกจากซากทั้งหมด 11 ซากโดย Bergamas หญิงจาก Gradisca Isonza ซึ่งมีเด็กเพียงคนเดียวที่ถูกฆ่าตายในระหว่างสงครามและศพของลูกชายเธอนั้นไม่ได้รับการกู้คืน ร่างของทหารที่ถูกเลือกได้ถูกย้ายจาก Aquileia และทำพิธีโดย Bergamas ที่โรมก่อนจะถูกฝังไว้ใน Vittoriano ในศาลที่เรียกว่า Sacrario Delle Bandiere ธงที่เก่าแก่ที่สุดที่แสดงคือธงของเรือรบในศตวรรษที่ 19 เมื่อหน่วยทหารของอิตาลีถูกเปิดใช้งานธงก็จะถูกนำมาจาก Vittoriano และกลับไปยังหน่วยงานตามที่มาของธงพร้อมทั้งได้รับชื่อประเพณีและเกียรติยศทางทหารที่มอบให้กับธงเมื่อเวลาผ่านไป
อนุสาวรีย์ที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโรมแห่งนี้ได้รับการถกเถียงตั้งแต่การเริ่มก่อสร้างถึงการลุกล้ำในเขตพื้นที่ขนาดใหญ่ของ Capitoline Hill กับย่านในยุคกลางเพื่อประโยชน์ส่วนตน อีกทั้งยังต้องทำลายสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากมายเพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอในการสร้าง นอกจากนั้นแล้วยังมีชาวอิตาเลียนมากมายที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดในการสร้างอนุสาวรีย์ที่ใหญ่โตสะดุดตาและมีโครงสร้างที่ซับซ้อนแตกต่างจากสิ่งก่อสร้างคลาสสิคมากมายที่อยู่โดยรอบ ดังจะเห็นได้ชัดจากอนุสาวรีย์แห่งนี้นั้นค่อนข้างจะแตกต่างกับอาคารโดยส่วนมากในกรุงโรมทั้งในเรื่องของลักษณะรูปร่างโดยทั่วไปและไม่มีโดมหรือหอคอยตามแบบอาคารทั่วไปที่พบเจอในกรุงโรม นอกจากนั้นแล้วอนุสาวรีย์แห่งนี้ยังเป็นสีขาวประณีตที่สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวนำเข้าจาก Botticino ในเบรสชาทำให้มันเห็นถึงความแตกต่างได้ชัดมากในหมู่อาคารและสิ่งก่อสร้างสีน้ำตาลที่สร้างจากอิฐที่อยู่โดยรอบ คุณสมบัติอันโดเด่นนี้ทำให้อนุสาวรีย์ได้รับการตั้งชื่อเล่นที่ไร้สาระมากมาย เช่น เค้กแต่งงาน ฟันปลอม หรือเครื่องพิมพ์ดีดเป็นต้น แต่โดยรวมแล้วอนุสาวรีย์แห่งนี้ก็มีความสวยงามโดดเด่นสะดุดตา และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของกรุงโรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทัศนียภาพอันงดงามที่สามารถมองเห็นได้จากระเบียงที่เข้าถึงได้ด้วยลิฟท์แบบพาโนรามานั้นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมและคุ้มค่าสำหรับการเที่ยวชมของอนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นอย่างมาก อีกมิติที่น่ประทับใจคือภาพดวงอาทิตย์ที่สะท้อนบนหินอ่อนสีขาวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมและถ่ายภาพประทับใจมากมายเช่นกัน
ค่าใช้จ่าย
มีค่าบริการเฉพาะในส่วนของลิฟต์แบบพาโนรามาเท่านั้น โดยผู้ใหญ่ราคา 7 ยูโร เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีและผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปี 3.50 ยูโร
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอาทิตย์ โดยเปิดบริการในเวลา 9.30 น. ถึงเวลา 19.30 น. ยกเว้นในช่วงฤดูหนาวที่จะเปิดให้บริการถึงเวลา 16.30 น. เท่านั้น แต่ต้องเข้าชมก่อน 30 นาทีสุดท้ายของเวลาปิดอนุสาวรีย์ และจะปิดให้บริการในทุกวันที่ 25 ธันวาคมและ 1 มกราคมของทุกปี
วิธีการเดินทาง
สามารถเลือกเดินทางโดยใช้รถไฟใต้ดิน Metro line B โดยสถานีที่ใกล้มากที่สุดคือสถานี Colosseo หรือจะเลือกเดินทางโดยรถประจำทางสาย 40 มาลงที่ Piazza Venezia นอกจากนั้นแล้วรถประจำทางอีกหลายสายก็มาหยุดที่ Piazza Venezia ได้เช่นกัน