โบสถ์ Church of San Giorgio Maggiore
Church of San Giorgio Maggiore เป็นหนึ่งในโบสถ์ที่ได้รับความนิยมสำหรับการถ่ายภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองเวนิส โดยเฉพาะหากต้องการมุมมองที่ยอดเยี่ยมของเมืองเวนิสก็สามารถปีนขึ้นไปที่ด้านบนของหอระฆัง Campanile di San Giorgio Maggiore ของวิหารได้ด้วย
โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ Benedictine ในศตวรรษที่ 16 บนเกาะที่มีชื่อเดียวกันในเมืองเวนิสทางตอนเหนือของอิตาลี ก่อสร้างมหาวิหารเสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1576 โดยการออกแบบของสถาปนิก Andrea Palladio ซึ่งได้ออกแบบโบสถ์ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงเช่น II Redentore ที่อยู่บริเวณภายใน San Giorgio Maggiore ที่อยู่ด้านหลังของ Façade ของมหาวิหารซึ่งเป็นโบสถ์สไตล์เรอเนซซีนคลาสสิกที่ทำขึ้นจากหินอ่อนสีขาวที่สวยงาม ประกายเหนือน้ำทะเลสีฟ้าของทะเลสาบตรงข้ามกับ Piazzetta ซึ่งเป็นจุดโฟกัสของมุมมองจากทุกส่วนของ Riva degli Schiavoni มีการตกแต่งภายในที่ยอดเยี่ยมและพิถีพิถัน จึงทำให้รู้สึกได้ถึงความโอ่อ่า กว้างขวาง ภายในคริสตจักรทั้งสามชั้นมีความสว่างมากและมีเสาขนาดใหญ่และเสาบนผนังตกแต่งที่โผล่ขึ้นมา การตกแต่งได้ผสมผสานรูปแบบวิหารอันยาวนานของ Basilican ไว้กับแผนกางเขนด้วยภาพขนาดใหญ่ของ Tintoretto เอกลักษณ์ของภาพวาดต่างๆ ที่วาดโดย Tintoretto เช่นเดียวกับภาพวาดของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Leonardo da Vinci นั่นก็คือภาพกระยาหารค่ำมื้อสุดท้ายที่ฝังศพของพระเยซูคริสต์และการล่มสลายของ Manna และภายในมหาวิหารยังมีภาพวาดของ Sebastiano Ricci ที่มีชื่อภาพวาดว่า Madonna enshrroned with Saints ซึ่งเสร็จสมบูรณ์ในปี 1708 Retable นี่ถือเป็นผลงานชิ้นเอกของ San Giorgio Maggiore เลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วภายในคริสตจักรยังมีภาพวาดอื่นๆ ที่โดดเด่นอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่นในโบสถ์ Cappella dei หรือโบสถ์แห่งความตายก็มีภาพวาดของ Entombment of Christ ที่วาดโดยมTintoretto อีกเช่นกัน
มุมที่สร้างความตกตะลึงให้กับนักท่องเที่ยวมากที่สุดคือเมื่อมองจาก Piazza San Marco แล้วมองไปที่คลองจะพบกับหน้าผาของวัดด้วยกอนโดลาที่แกว่งไปแกว่งมาในลากูนด้านหน้าของมันดูยิ่งใหญาสวยงาม อีกหนึ่งมุมที่โดดเด่นคือการปีนขี้นไปบนหอระฆัง ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งเดินหรือใช้ลิฟต์ หอระฆังนี้สูงเกือบเท่าหอระฆังของ San Marco ทำให้ได้มุมมองทัศนียภาพที่ยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน
ค่าใช้จ่าย
ในส่วนของโบสถ์นั้นสามารถเข้าชมได้ฟรี ไม่เสียค่าบริการ ยกเว้นในส่วนของหอระฆังที่มีค่าบริการในการเข้าชม 3 ยูโรเท่านั้น
เวลาทำการ
เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน โดยในเดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคมนั้นจะเปิดให้บริการในเวลา 9.00 น. ถึงเวลา 19.00 น. แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม จะเปิดให้บริการในเวลา 8.30 น. ถึงเวลา 18.00 น. เท่านั้น
วิธีการเดินทาง
สามารถเลือกเดินทางด้วย Water bus : San Giorgio, โดยเลือกใช้ line 2 และ N