เปรียบเทียบ 3 พาสท่องเที่ยวยอดฮิต ของกรุงปารีส


บางคนอาจกำลังกุมขมับเลือกว่าไปปารีสจะเลือกใช้บัตรท่องเที่ยวพาสแบบไหนดีถึงจะคุ้มมากที่สุด เราจึงได้นำเอาบัตรฮิตๆ 3 ใบนั่นคือ The Paris Pass, Paris Passlib และ Paris Museum Pass  มาเทียบคุณสมบัติต่างๆให้ดูกันเห็นเป็นข้อๆ เพื่อให้คุณสามารถเลือกบัตรที่เหมาะกับรูปแบบการท่องเที่ยว รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ที่ชอบ ในราคาที่คุ้มค่ามากที่สุด ก่อนอื่นต้องมาทำความรู้จักบัตรทั้ง 3 แบบ ว่าแต่ละบัตรนั้นมีสิทธิประโยชน์อะไร อย่างไร มีรายละเอียดดังนี้

 

The Paris Pass

parispass.com

บัตรท่องเที่ยวที่สามารถใช้ได้ทั้งกับระบบขนส่งได้ฟรีแบบไม่จำกัดจำนวนครั้งไม่ว่าจะเป็น รถไฟใต้ดิน รถไฟ RER รถราง และรถประจำทาง ภายในโซน 1-3 พร้อมสามารถเข้าชมแลนด์มาร์กดังๆและพิพิธภัณฑ์มากกว่า 60 แห่งในกรุงปารีส โดยถ้าที่ไหนมีช่อง Fast Track Entry ก็เข้าได้เลยไม่ต้องต่อคิวยาวๆ แถมยังมีสิทธิพิเศษอีกหลายอย่าง ทั้งทัวร์ชมเมืองด้วยรถทัวร์สองชั้น Hop-On Hop-Of ใน 1 วัน ทัวร์ชมโรงโอเปร่าที่โรงอุปรากรปาแลการ์นีเย (Opera Garnier) ล่องเรือชมแม่น้ำแซน และส่วนลดต่างๆอีกมากมาย โดยบัตรจะแบบออกตามจำนวนวันได้แก่ 2,3,4 และ 6 วัน พร้อมรับคู่มือท่องเที่ยวปารีสจำนวน 120 หน้า

รายละเอียดเพิ่มเติมของ The Paris Pass

 

Paris Passlib

Photo from en.parisinfo.com

บัตรที่จะยกระดับการเที่ยวปารีสให้ง่ายและสะดวกกว่าเดิม สามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมได้มากกว่า 50 แห่ง ผ่านช่อง Fast Track Entry ที่เข้าได้เร็วทันใจ อีกทั้งยังคลอบคลุมการใช้งานระบบขนส่งในปารีสแบบไม่จำกัดภายในโซน 1-3 ไม่ว่าจะเป็นรถไฟใต้ดิน รถไฟ RER รถราง และรถประจำทาง พร้อมด้วยทริปการทัวร์ชมเมืองปารีสแบบสั้นใน 1 วันอย่าง รถทัวร์สองชั้น Hop-On Hop-Of  และล่องเรือในแม่น้ำแซน แถมคู่มือแบบเล่มและยังมีแอพพลิเคชั่นที่รวมเอาสถานที่แนะนำ คำแนะนำต่างๆไว้ให้โหลดติดโทรศัพท์ให้อุ่นใจ ทีสำคัญบัตรมีให้เลือก 4 ประเภท ได้แก่ 1,2,3 และ 5 วัน

รายละเอียดเพิ่มเติมของ Paris Passlib

 

Paris Museum Pass

Photo from en.parismuseumpass.com/

บัตรที่สามารถเข้าพิพิธภัณฑ์ พระราชวัง อนุสรณ์สถาน และสถานที่ท่องเที่ยวดังๆมากกว่า 50 แห่งทั้งในใจกลางเมืองรวมไปถึงรอบๆปารีส แบบไม่จำกัดจำนวนการเข้าพร้อมไม่ต้องรอคิวด้วยช่อง Fast Track Entry โดยบัตรแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 2,4, และ 6 วัน ด้านหลังมีการเขียนชื่อและวันที่เริ่มใช้กำกับ ตัวบัตรจะมีการแนบคู่มือการท่องเที่ยวปารีสและสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมรายการไว้ด้วย

รายละเอียดเพิ่มเติมของ Paris Museum Pass

 

 

บัตรแบบไหนที่เหมาะที่สุด

สิ่งที่แรกที่ควรคำนึงถึงก็คือแพลนในการท่องเที่ยวที่วางไว้ถ้าต้องเดินทางมากๆเที่ยวปารีสอย่างน้อย 2-6 วันคิดว่าต้องใช้ระบบขนส่งเยอะ เผื่อหลงก็เซฟๆด้วยบัตร The Paris Pass เพราะได้ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวมากกว่า  60 แห่ง พร้อมสิทธิพิเศษส่วนลดค่าเข้า ค่าอาหาร และอื่นๆ แต่หากมีแพลนท่องเที่ยวในปารีสใน 1-5  วันแล้วละก็เลือกบัตร Paris Passlib จะเหมาะกว่า ในส่วนบัตร Paris Museum Pass จะเหมาะกับคนที่เน้นไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยวทั้งในปารีสและรอบๆ ซึ่งจะไม่รวมการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ แล้วไปซื้อบัตรเกี่ยวกับการเดินทางเสริมหรือซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆไปมากกว่า

 

เกี่ยวกับการซื้อและรับบัตร

บัตร Paris Museum Pass สามารถซื้อได้หลายที่ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน ROISSY-CHARLES DE GAULLE (CDG) ตามพิพิธภัณฑ์ และจุดขายอีกหลายแห่งในปารีส ส่วนบัตร Paris Passlib จะซื้อได้ที่  Paris Convention และ Visitors Bureau ซึ่งตั้งอยู่ที่ 25 rue des Pyramides และจุดข้อมูลการท่องเที่ยว ตั้งอยู่แถวๆGare du Nord และ Hotel de Ville ในส่วนของบัตร The Paris Pass จะไม่สามารถซื้อได้ที่สนามบินเหมือนๆกับ Paris Passlib โดยสามารถซื้อได้ที่ Big Bus Ticket Shop ใกล้ๆกับสถานีรถไฟใต้ดิน Pyramidesบัตรทุกแบบทั้ง The Paris Pass ,Paris Passlib และ Paris Museum Pass สามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งจะมีบริการจัดส่งทั่วโลก หรือจะส่งมายังโรงแรมที่พักในปารีสได้ เพียงแต่จะมีค่าจัดส่งเพิ่มเติมตามระยะทาง

 

สรุป

การจะเลือกว่าบัตรไหนที่เหมาะควรเลือกให้เหมาะกับจำนวนวันที่จะเที่ยวและสถานที่ต่างๆที่จะเดินทางไป หากเดินทางเยอะต้องใช้ระบบขนส่งสาธารณะก็เลือกบัตรที่รวมทั้งสองแบบเข้าด้วยกัน แต่ถ้าไม่จะเน้นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเดียว เพราะแต่ละแห่งสามารถเดินไปได้ไม่ไกลกันนักก็เลือกเฉพาะบัตรที่เน้นการเที่ยวอย่างเดียว ทางที่ดีเพื่อการประหยัดค่าจัดส่งควรเลือกไปรับบัตรเองมากกว่าบวกค่าจัดส่ง เพราะส่วนมากสถานที่จำหน่ายหาไม่ยาก แถมบางบัตรยังมีช่องทางจำหน่ายเยอะมากๆ เรียกได้ว่าสะดวกเที่ยวแบบไหนควรเลือกแบบนั้น และวางแผนการเที่ยวดีๆ การใช้บัตรก็ถือเป็นตัวช่วยที่ทั้งง่าย ประหยัดเวลา ยิ่งเที่ยวมากก็ยิ่งใช้คุ้ม