เที่ยวฝรั่งเศสฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน สิงหาคม และกันยายน ดีมั้ย เป็นยังไงมาดูกัน

Photo: Andrea Schaffer [CC BY-SA 2.0] from flickr.com/photos/aschaf/4830168143

ฤดูร้อนในแถบยุโรปนั้นถือเป็นหน้าท่องเที่ยว หรือช่วง High Season ที่จะมีทั้งคนในยุโรปและคนจากต่างถิ่นนิยมเดินทางมากันในช่วงนี้ ประเทศฝรั่งเศสก็เช่นกัน ผู้คนจะนิยมท่องเที่ยวดูได้จากสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆคนพลุกพล่านคิวแต่ละที่ยาวเป็นหางว่าว ยิ่งเมืองแถบชายทะเลไปหาดไหนก็เต็มไปด้วยคนจำนวนมากที่มาอาบแดด เล่นกีฬาทางน้ำกันแบบไม่กลัวอากาศร้อนๆเลยซักนิดเดียว ถ้าซื้อพวกตั๋วเครื่องบินหรือที่พักช่วงนี้อาจต้องทำใจกับราคาที่ค่อนข้างสูงอยู่บ้าง จริงๆถ้าจะวางแผนมาในฤดูนี้จองล่วงหน้านานหน่อยจะได้ราคาดีกว่า เพราะยิ่งจองกระชั้นชิดยิ่งราคาแพง และจะเต็มเอาด้วย สิ่งที่ดีที่สุดในช่วงนี้นั่นก็คือเวลาช่วงกลางวันจะยาวนานมากกว่าทุกๆฤดู เรียกว่าเที่ยวกันยาวๆกว่าจะมืดอาจจะปาเข้าไป 2-3 ทุ่มเลยทีเดียว รวมทั้งยังเป็นช่วงที่ทุ่งดอกลาเวนเดอร์จะออกดอกบานทั่วทั้งทุ่งอย่างสวยงามมากด้วย แต่ละเดือนของฤดูร้อนในฝรั่งเศสนั้นจะเป็นอย่างไรบ้างตามมาดูกัน

เดือนมิถุนายน

เริ่มต้นแต่วันที่  22  มิถุนายน   อุณหภูมิของปารีสต่ำสุดประมาณ 14 องศา และสูงสุดประมาณ 37 องศา เรียกว่าอากาศมีแปรปรวนอยู่พอสมควรเลย นอกจากจะต้องเตรียมเครื่องกันหนาวบางๆ เสื้อคลุมซักตัวสองตัวติดกระเป๋าไว้บ้าง อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็เป็นยาแก้แพ้ แก้อาอาการหวัด ที่ควรมีสลากยาเป็นภาษาอังกฤษกำกับไว้ สถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆโดยเฉพาะในปารีสคนเริ่มเยอะถ้าไม่อยากรอนานและมีแพลนไปหลายๆที่แนะนำให้ซื้อบัตร Paris Pass ต่างๆไว้ ถ้าคิดว่าเดินทางมากเที่ยวเยอะแน่ๆก็เอาแบบที่คลอบคลุมทั้งระบบขนส่งสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าแล้วนั้น ยังช่วยประหยัดเวลาเพราะสามารถเข้าช่องด่วนพิเศษได้ด้วย

เดือนกรกฎาคม

ในเดือนนี้อุณหภูมิของปารีสต่ำสุดประมาณ 10 องศา และสูงสุดประมาณ 35 องศา ค่าเฉลี่ยอากาศโดยรวมจะร้อนมากกว่าเดือนที่ผ่านมา เสื้อผ้าจึงต้องเน้นแบบสวมใส่สบาย ผ้าระบายความร้อนได้ดี พร้อมอุปกรณ์กันแดดแบบครบครันไม่ว่าจะเป็น หมวก ร่ม แว่น จัดมาให้ครบ ช่วงนี้นับว่าที่สุดสำหรับการไปดูทุ่งลาเวนเดอร์ในแถบแคว้นโพรวองซ์ดินแดนทางตอนใต้ของฝรั่งเศส แต่ถ้าอยากเห็นทุ่งลาเวนเดอร์พานสะพรั่งเต็มท้องทุ่งไม่ควรไปเกินวันที่ 14 กรกฎาคม เนื่องจากหลังจากวันนี้จะเป็นช่วงเก็บเกี่ยวลาเวนเดอร์ คนที่ตั้งใจว่าจะไปชมทุ่งลาเวนเดอร์สีม่วงงามๆอาจไปเจอทุ่งโล่งๆแทน อีกทั้งวันที่ 14 กรกฎาคมยังเป็นวันชาติฝรั่งเศส ตามเมืองต่างๆจึงมีบรรยากาศคึกคักมากเป็นพิเศษ แถมอาจได้ชมขบวนพาเรดสนุกๆและมีการจุดพลุอลังๆให้ชม

เดือนสิงหาคม

อุณหภูมิของปารีสต่ำสุดประมาณ 10 องศา และสูงสุดประมาณ 32 องศา ถือว่าเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมไปตามเมืองริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอย่างเมืองนีซ และเมืองมาร์แซย์ เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศฟ้าใส น้ำทะเลสวย พร้อมชายหาดทอดยาวน่าอาบแดด เสื้อผ้าที่เตรียมที่นอกจากจะเน้นเบาสบายๆประหนึ่งอยู่ชายหาดเมืองไทยแล้วนั้นที่ขาดไม่ได้เลยก็เป็นชุดว่ายน้ำฮอตๆไว้อวดหุ่นสวย ครีมกันแดดดีๆที่จะป้องกันไม่ให้ผิวไหม้จนเกินไป รองเท้านี่ควรเตรียมไว้ทั้งรัดส้นสุภาพเผื่อไว้เข้าหลายๆสถานที่ รวมไปถึงรองเท้าแตะเดินสบายๆไว้เดินชายหาดชิลๆ

เดือนกันยายน

ฤดูร้อนจะสิ้นสุดเป็นทางการในวันที่ 22 กันยายน ในช่วงนี้ถือว่าเริ่มนับถอยหลังฤดูใบไม้ร่วงที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อุณหภูมิของปารีสต่ำสุดประมาณ 6 องศา และสูงสุดประมาณ 30 องศา อากาศช่วงนี้ค่าเฉลี่ยจะต่ำลงนั่นหมายถึงอากาศจะร้อนน้อยลงบ้าง กลางคืนอาจจะเย็นขึ้นมากจนเป็นเลขตัวเดียว เสื้อผ้าควรเอาเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอมาเผื่อบ้าง เรียกได้ว่าอากาศส่วนมากจะน่าเดินเพราะไม่ร้อนจะเกินไปนัก อีกทั้งยังไม่ฝนมากวนใจ ยังถือเป็นช่วงนี่น่ามาเที่ยว ที่สำคัญองุ่นเริ่มออกมาเยอะไวน์มีให้ลองชิมกันหลากหลายยี่ห้อ