เทคนิคแลกเงินให้ได้อัตราแลกเปลี่ยนงามๆ มีเงินช้อปกระจายที่ฮ่องกง
ใกล้สิ้นปีแล้ววางแผนหรือยังว่าจะไปเที่ยวไหนดี เหนื่อยมาทั้งปีต้องให้รางวัลกับตัวเองกันหน่อย ซึ่งหากไม่อยากเดินทางไปไหนไกล “ฮ่องกง” ก็จัดเป็นอีกประเทศที่น่าไปไม่น้อย เพราะเต็มไปด้วยอาหารอร่อยๆ และแหล่งช้อปปิ้งชื่อดัง ดังนั้นใครที่เตรียมตัวไปช้อปกระจายมาดูทริคดีๆ ในการแลกเงินดอลลาร์ฮ่องกงให้ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุดกันดีกว่า
ฮ่องกง เป็นประเทศที่อยู่ใกล้เมืองไทยและเต็มไปด้วยสถานที่น่าท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการไปไหว้พระใหญ่ที่ Ngong Ping360 เที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ ตระเวนชิมอาหารรสชาติอร่อย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การช้อปกระจายในแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังที่มีอยู่ทั่วทั้งเกาะ ยิ่งปัจจุบันค่าตั๋วเครื่องบินก็ถูก สายการบินก็เยอะ การเดินทางก็สะดวกเพียงแค่ 3 ชั่วโมง แถมไม่ต้องขอวีซ่า ทุกอย่างดูเป็นเรื่องง่ายๆ สบายๆ ไปหมด ซึ่งเมื่อตั้งใจจะมาช้อปปิ้งละลายทรัพย์ที่ฮ่องกงกันแล้ว ก็คงต้องหาวิธีแลกเงินให้ได้อัตราแลกเปลี่ยนดีๆ วันนี้เราจึงมีทริคเด็ดๆ เกี่ยวกับการแลกเงินยังไงให้ประหยัด คุ้มค่า และสะดวกที่สุดมาฝาก
เทคนิคการแลกเงิน ก่อนจัดกระเป๋า
ฮ่องกงใช้สกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกง ก่อนเดินทางจึงต้องเตรียมแลกเงินบาทเป็นดอลลาร์ฮ่องกง ถ้ามีเวลาเตรียมตัวก่อนไปให้ลองเช็กเปรียบเทียบค่าเงินและดูอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินว่าช่วงไหนคุ้มค่าที่สุด แล้วแลกเงินเก็บไว้ ทางที่ดีควรคำนวณก่อนไปเที่ยวว่า เราจำเป็นใช้จ่ายอะไรบ้าง เพราะถ้าเงินเหลือรับรองว่าการแลกเงินกลับส่วนใหญ่จะได้เรทอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินที่ต่ำกว่าตอนแลกไปแน่นอน ฉะนั้นควรแลกเงินไปแต่พอดี และที่สำคัญการพกเงินสดจำนวนมากยังเสี่ยงต่อการทำเงินหายหรือถูกขโมยด้วยนะ
เงินตราที่ใช้ชำระหนี้ตามกฎหมายในฮ่องกงคือ เงินสกุลดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) โดยมีอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ประมาณ 7.80 HKD ต่อ 1 USD หรือ 1 HKD ต่อ 4.12 บาท/ไทย ทั้งนี้อัตราการแลกเปลี่ยนอาจผันผวนไปบ้าง เหรียญกษาปณ์จะออกโดยรัฐบาล ส่วนการออกธนบัตรฮ่องกงจะแบ่งกันระหว่างธนาคารพาณิชย์สามแห่ง ได้แก่ ธนาคารเอชเอสบีซี ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และธนาคารแห่งประเทศจีน ธนบัตรเหล่านี้จะแตกต่างกันไปทั้งการออกแบบและสีสันตามมูลค่าเงิน
ธนบัตร
- HK$10 – สีเขียวหรือสีม่วง (ธนบัตรสีม่วงออกโดยรัฐบาล)
- HK$20 – สีน้ำเงินเข้มหรือสีน้ำเงินอ่อน (แบบเก่าหรือแบบใหม่)
- HK$50 – สีม่วงหรือสีเขียว (แบบเก่าหรือแบบใหม่)
- HK$100 – สีแดง
- HK$500 – สีน้ำตาล
- HK$1,000 – สีเหลือง
เหรียญกษาปณ์
- 10c – ทำจากทองสำริด มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดเล็ก
- 20c – ทำจากทองสำริด มีลักษณะเป็นวงกลมพร้อมรอยหยักตรงขอบ ขนาดเล็ก
- 50c – ทำจากทองสำริด มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดกลาง
- HK$1 – ทำจากเงิน มีลักษณะเป็นวงกลม บาง ขนาดใหญ่
- HK$2 – ทำจากเงิน มีลักษณะเป็นวงกลมพร้อมรอยหยักตรงขอบ ขนาดใหญ่
- HK$5 – ทำจากเงิน มีลักษณะเป็นวงกลม หนา ขนาดใหญ่
- HK$10 – ทำจากทองสำริดและเงิน มีลักษณะเป็นวงกลม ขนาดกลาง
บัตรอะไรใช้แทนเงินสดในการเที่ยวฮ่องกงได้บ้าง?
บัตรเครดิตถือเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวขาช้อป เพราะทั้งง่ายและสะดวกสบายไม่ต้องพกเงินเยอะก็สามารถซื้อของได้ สำคัญที่สุดต้องเช็กเรื่องเรทอัตราแลกเปลี่ยน และค่าธรรมเนียมให้ดีๆ เพราะเมื่อเรารูดใช้ก็อาจเสี่ยงเจอกับอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงกว่าการใช้เงินสดได้ และเมื่อนำไปรูดที่ฮ่องกงทั้งบัตรวีซ่าและมาสเตอร์การ์ด จะคิดค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงินต่างประเทศ 2-2.5% ในทุกๆ การใช้งาน ทั้งนี้ควรสอบถามไปยังธนาคารเจ้าของบัตรว่า คิดอัตราตรงนี้เท่าไหร่ ซึ่งแต่ละธนาคารจะไม่เท่ากัน เช่น กรุงศรีอยุธยา คิด 2% ส่วนไทยพาณิชย์ และกสิกรไทย คิด 2.5% แต่ขึ้นชื่อว่าบัตรเครดิตยังไงก็ต้องใช้สติในการรูด เพราะเกิดคุณเผลอรูดบัตรเครดิตไปแบบไม่ทันระวัง บอกได้เลยว่าได้นั่งกลุ้มใจตอนมีใบเรียกเก็บเงินส่งมาที่บ้านแน่นอน
บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ VISA หรือ Mastercard
สามารถใช้รูดจ่ายซื้อสินค้าและกดเงินสดจากตู้ ATM ได้ โดยอัตราแลกเปลี่ยนจะคิดเรทตามหน้าเว็บ Currency Converter ของแต่ละประเภทบัตร ซึ่งสามารถเข้าเช็กได้ตามเว็บไซต์ของประเภทบัตรเดบิตที่พกไป ตามนี้เลย
หน้าบัตรเดบิตเป็นของค่ายไหน ให้เข้าเว็บไซต์ของค่ายนั้นเพื่อเช็กเรทอัตราแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ ซึ่งเรทที่รูดในบัตรจะไม่เหมือนกับเรทที่แลกเงินตามธนาคารหรือร้านแลกเงิน ดังนั้น จะเอามาเทียบกันไม่ได้ และอัตราแลกเปลี่ยนก็จะเปลี่ยนไปตามวัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเช็กผ่านเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง ที่ฮ่องกง มีตู้ ATM อยู่ทั่วไป หลายแห่งรับบัตรที่สามารถใช้ได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเครื่องกด ‘เงินอิเล็กทรอนิกส์’ ของธนาคาร HSBC บางแห่งก็ให้ผู้ถือบัตร Visa และ MasterCard กดเงินดอลลาร์ฮ่องกง (HKD) ได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่โดยปกติแล้วการถอนเงินจากตู้ ATM จะมีค่าธรรมเนียมสูงกว่าการรูดจ่ายผ่านเครื่องรูดบัตรตามร้านค้า ดังนั้น หากไม่จำเป็นต้องใช้เงินสด แนะนำให้ใช้บัตรรูดจ่ายที่ร้านค้าน่าจะดีกว่า
บัตร Octopus
เป็นบัตรที่ใช้จ่ายค่าเดินทางในฮ่องกงได้ทุกแบบ ทั้งรถบัส, รถไฟ, รถราง, ที่จอดรถ, บริการต่างๆ เช่น ตู้ Locker, ร้านอาหาร, ศูนย์อาหาร และใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อต่างๆ ได้ด้วย เป็นบัตรที่คนฮ่องกง 99% มีกัน และเป็นบัตรที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาฮ่องกงเลือกใช้ เพราะสามารถหาซื้อบัตรนี้ได้ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานีในฮ่องกง อีกทั้งยังสะดวกและใช้งานง่าย โดยคุณสามารถเติมเงินเข้าบัตร Octopus ได้ที่ตู้อัตโนมัติหรือที่เคาท์เตอร์ของสถานีรถไฟฟ้า เริ่มต้นที่ 50 ดอลลาร์ฮ่องกง (HKD)
บัตรกรุงไทย Travel Card
บัตรกรุงไทย Travel Card เคล็ดไม่ลับของความคุ้มค่าที่จะใช้จับจ่ายที่ฮ่องกง บัตรนี้บัตรเดียวสามารถเป็นได้ทั้งบัตรรูดซื้อของ และร้านแลกเงินส่วนตัว เพียงคุณแลกเงินสกุลดอลลาร์ฮ่องกงไว้ในบัตรผ่านโมบายแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT ด้วยอัตราแลกเปลี่ยนที่พิเศษสุด แค่นี้คุณก็สามารถได้รับความสะดวกสบายกับการใช้จ่าย ทั้งการถอนเงินที่ตู้ ATM (สูงสุดถึง 50,000 บาท/บัตร/วัน) ใช้รูดหรือซื้อสินค้าและบริการ ณ ร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ VISA (สูงสุดถึง 500,000 บาท/บัตร/วัน) โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม รับรองว่าวิธีนี้ช่วยให้นักท่องเที่ยวขาช้อปประหยัดได้เยอะทีเดียว และที่สำคัญถ้าช้อปจนเงินหมด สามารถแลกเพิ่มได้ง่ายๆ ผ่านโมบายแอปพลิเคชั่นด้วยเรทอัตราแลกเปลี่ยนเงินที่ทัดเทียมกัน ไม่เสียค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตลอดเวลาอีกด้วย
บัตรกรุงไทย Travel Card นั้นเป็นส่วนหนึ่งของบริการ iBanking หรือ Mobile banking ซึ่งสามารถใช้บริการผ่านแอปฯ Krungthai NEXT ได้ มาสรุปสิ่งที่ แอปฯ ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องธุรกรรมการเงินกันดังนี้
- เช็กข้อมูลบัญชีเงินฝาก ดอกเบี้ยเงินฝาก เงินเข้า-ออก
- โอนเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ
- เติมเงินมือถือและชำระบิลต่างๆ
- ชำระเงินกู้ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อบุคคล สินเชื่อ SME หรืออื่น ๆ
- เช็กอัตราแลกเปลี่ยน และแลกเงินต่างประเทศถึง 10 สกุลเงินผ่านแอปฯ
- ซื้อ-จองล่วงหน้าสลากกินแบ่งรัฐบาล
- การลงทุนเป็นเรื่องง่าย จองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์
- Video Call เจ้าหน้าที่ธนาคารให้ทำธุรกรรมทางการเงินให้
ได้รู้เทคนิคในการแลกเงินไปเที่ยวฮ่องกงให้ได้เรทอัตราแลกเปลี่ยนดีๆ ไปแล้ว ใครสะดวกใช้แบบไหน ก็เลือกตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนได้เลย บางคนใช้บัตรเครดิตรูดเพราะมีแต้มสะสมพิเศษ หรือมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงอาจจะไม่อยากพกเงินสดไปมาก หรือบางคนก็ชอบที่จะจ่ายเงินสดมากกว่า เพราะควบคุมค่าใช้จ่ายได้ และเรทอัตราแลกเปลี่ยนดีกว่ารูดบัตร หรือบางคนไม่มีบัตรเครดิต แต่เงินสดหมด ก็เลือกใช้บัตรเดบิตรูดจ่าย หรือกดเงินสดที่ตู้ ATM ก็ใช้ได้เช่นกัน ได้ข้อมูลไปแบบแน่นปึ้กขนาดนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทริปช้อปกระจายที่ฮ่องกงของคุณครั้งนี้ทั้งสนุกและคุ้มค่าอย่างที่หวังนะ!
อ้างอิง: Brandinside.asia | KTB.co.th | Blognone.com | hongkongsmiletrip.com | Unsplash.com