ความเป็นจริงแล้วการท่องเที่ยวที่เมืองมิลาน(Milan)นั้นจะเที่ยวเป็น One day trip จากกรุงโรม หรือจะใช้เวลาท่องเที่ยวเพียง 2 วัน 1 คืนก็ได้เช่นกัน แต่เนื่องจากว่ามิลานเป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับสองของอิตาลี มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังอยู่ห่างจากกรุงโรมเกือบ 600 กิโลเมตร จึงควรให้เวลาในการเที่ยวชมซักหน่อย เราจึงแนะนำการวางแผนเที่ยวเมืองมิลานสำหรับ 3 วัน 2 คืน ตามนี้
▌วันแรก
Photo by Steffen Schmitz from commons.wikimedia.org/wiki/File:Milano,_Duomo_with_Milan_Cathedral_and_Galleria_Vittorio_Emanuele_II,_2016.jpg [CC by-sa 4.0]
มาถึงเมืองมิลานตอนเช้า และหลังจากเช็คอินเข้าที่พักเป็นที่เรียบร้อยแล้วมุ่งหน้าไปที่
Piazza Duomo จัตุรัสที่เป็นแลนด์มาร์คหลักกลางเมืองมิลานที่เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหารเพื่อหามื้อเที่ยงและชมความสวยงามของจัตุรัสก่อนจะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของมิลานอย่าง
Milan Cathedral หรือ Duomo มหาวิหารขนาดใหญ่อันสวยงามของมิลาน เป็นแลนด์มาร์คสำคัญอันดับหนึ่งที่โดดเด่นที่สุดของมิลาน มหาวิหารแห่งนี้เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นความภาคภูมิใจที่สุดของมิลาน อีกทั้งยังเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองในอิตาลีรองมาจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ที่กรุงโรมอีกด้วย ชมความสวยงามของมหาวิหารแล้วอย่าพชาดสำหรับการเที่ยวชมสมบัติล้ำค่าโบราณและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่อยู่นพิพิธภัณฑ์ Duomo ในบริเวณของมหาวิหารกันด้วย
จากนั้นแวะมาจิบเครื่องดื่มที่คาเฟ่น่ารักๆ ในบริเวณจัตุรัสก่อนจะไปต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลอย่าง Santa Maria Delle Grazie โบสถ์แบบโกธิคโดดเด่นด้วยอิฐสีแดงและการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยภาพวาดฝาผนัง โบสถ์แห่งนี้มีลักษณะคล้ายถ้ำ อากาศภายในเย็นตลอดทั้งปี เป็นสถานที่สำคัญที่ใช้เก็บภาพวาดสำคัญระดับโลกอย่าง The last Supper หรือกระยาหารค่ำมื้อสุดท้ายของอัจฉริยะภาพระดับโลก Leonardo da Vinci มารับชมเรื่องราวการตีความในภาพวาดของ da Vinci ผ่านภาพวาดและคำบรรยายจากไกด์เที่ยวชม ที่นี่อาจต้องใช้เวลาซักนิดเพราะมีคนเข้าชมจำนวนมากและจำกัดผู้เข้าชมต่อรอบ แต่ไม่นานมากนักเพราะ1 รอบนั้นใช้เวลาในการชมประมาณกลุ่มละ 15 นาทีเท่านั้น ภาพวาดอันสำคัญนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่ห้องอาหารขนาดเล็กบริเวณด้านหลังของโบสถ์
Photo by Marcin Białek from commons.wikimedia.org/wiki/File:Santa_Maria_delle_Grazie_Milan_2013.jpg [CC by-sa 3.0]
เสร็จจากการเที่ยวชมภาพวาด The last supper ไปชมระบบเสียงสุดอลังการของการแสดงโชว์โอเปร่าและบัลเลท์ บนที่นั่งชมแสนสบาย รวมไปถึงชมพิพิธภัณฑ์อันหรูหราเกี่ยวกับโอเปร่ากันที่
Teatro alla Scala ก่อนกลับไปที่จัตุรัสดูโอโม่ที่เราไปตอนเช้า เพื่อจะเข้าชมห้างเก่าแก่สำคัญข้างๆโบสถ์มิลาน อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ
Grand Galleria Vittorio Emanuele II ห้างสรรพสินค้าที่เก่าแก่ที่สุดของมิลานและเก่าแก่ที่สุดในโลก ต้นแบบของ Grand Galleria ในโรม เป็นอาคารขนาดใหญ่ที่มีหลังคาโค้ง มี 6 เส้นทางจัตุรัสที่มีจุดตัดตรงกลาง เป็นสถานที่ช้อปปิ้งในร่มที่หรูหรามากที่สุดและมีแบรนด์ไฮเอนด์ชื่อดังมากมายให้ได้เลือกช้อปกัน ไม่ว่าจะเป็น LV , Prada , Versace และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงแบรนด์เก่าแก่ของท้องถิ่นอีกด้วย มีร้านค้าร้านอาหารและร้านขนมเก่าแก่ของมิลานเปิดให้บริการ จึงเป็นสถานที่นัดพบยอดนิยมสำหรับมื้อเย็นของคนในมิลาน ดังนั้นนอกจากช้อปปิ้งและชื่นชมความหรูหราแล้วคุณจึงสามารถหาดินเนอร์สุดพิเศษได้จากที่นี่ด้วย
▌วันที่ 2
Photo by Jean-Christophe BENOIST from commons.wikimedia.org/wiki/File:Milan_-_Arco_della_Pace.jpg [CC by-sa 3.0]
ใช้ Metro มุ่งหน้าไปที่สถานีปลายทางคือ Cadorna FN เพื่อไปยัง
สวนสาธารณะ Parco Sempione ซึ่งเป็นขนาดใหญ่อันสวยงามด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรม และรายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมาย จากสวนสาธารณะไปเที่ยวชมกันที่
Castello Sforzesco ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่นอกจากตัวปราสาทแล้วยังมีพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็ก คอลเลคชั่นที่มีสิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจมากมาย รวมไปถึงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของปราสาทและเมืองมิลาน ต่อจากปราสาทขึ้นไปชมวิวของเมืองมิลานในมุมสูงกันที่
Torre Branca หอคอยขนาดสูงที่สามารถมองเห็นทัศนัยภาพของเมืองได้เป็นไมล์จากหอคอย หอคอยได้รับการออกแบบที่ทันสมัยด้วยคริสตัลใสที่บางแต่แข็งแรงทนทานทำให้สามารถมองเห็นวิวได้จากภายในหอคอย จากจุดนี้สามารถมองเห็นความสวยงามของธรรมชาติและสถาปัตยกรรมของ Parco Sempione และอาคาร อนุสาวรีย์สิ่งก่อสร้างต่างๆ ในบริเวณ Parco Sempione ได้โดยรอบ และหากโชคดีไปในวันที่อากาศแจ่มใสยังสามารถมองเห็นวิวเทือกเขาแอลป์และเทือกเขา Apennines ได้จากบนนี้อีกด้วย แล้วกลับมาที่พื้นก่อนจะไปต่อกันที่
Milan archeological museum พิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของเมืองมิลานแบบเชิงลึกตั้งแต่ในยุคสมัยกรีกโบราณ และยังมีเครื่องปั้นดินเผา ชุดเกราะและผลงานโบราณให้ชมกันอีกมากมาย ก่อนมื้อเที่ยงไปแวะชมภาพวาดอิตาเลียนชื่อดังมากมายกันที่
Pinacoteca di Brera แกลเลอรีขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของมิลาน
Photo by Stefano Stabile from commons.wikimedia.org/wiki/File:Piazza_mercanti_Milano.JPG [CC by-sa 3.0]
ไปหามื้อเที่ยงและช้อปปิ้งของฝากเก๋ๆ พร้อมชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมอันวิจิตรบรรจงที่
Piazza dei Mercanti ก่อนจะไปที่ สถานี S.Ambrogio เพื่อไปชม
Sant Ambrogio โบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดของมิลาน เป็นโบสถ์สไตล์โรมันลอมบาร์ดแห่งแรกในโลก ซึ่งชั้นใต้ดินของโบสถ์นั้นมีโครงกระดูกนักบุญคนสำคัญสวมชุดเต็มยศอย่างสง่างามให้ได้ชมกัน โดยหนึ่งในนักบุญนั้นคือผู้สถาปนาวิหารแห่งนี้ขึ้นมาด้วย
Photo by Pietrodn from commons.wikimedia.org/wiki/File:Panoramica_Chiostro_MuseoScienzaTecnologiaDaVinci_Milano.jpg [CC by-sa 4.0]
ต่อจากนั้นไปกันที่
Leonardo da Vinci National Museum of Science and Technology พิพิธภัณฑ์ที่แบ่งเป็น 7 ส่วน ซึ่งแต่ละส่วนมีห้องสำหรับให้ได้ทดลองทางวิทยาศาสตร์กันด้วย ส่วนที่โดดเด่นที่สุดคือส่วนของ Leonardo da Vinci ซึ่งจะมีผลงานต่างๆ ที่จำลองขึ้นตามแบบสำเร็จของ da Vinci มีการตีความหมายต่างๆ บนภาพวาดของเค้าผ่านผู้เชี่ยวชาญอย่างน่าสนใจ และมีสิ่งประดิษฐ์น่าทึ่งมากมายให้ได้ชมกันอีกด้วย
Photo by Jose Luis Hidalgo R. from commons.wikimedia.org/wiki/File:San_Siro_2014.jpg [CC by-sa 4.0]
ปิดท้ายทริปของวันที่ 2 ด้วย
AC Milan San Siro Stadium สนามกีฬาของสโมสรฟุตบอลชื่อดังในอิตาลี AC Milan และ Inter Milan ชมพิพิธภัณฑ์ของสโมสร และสนามกีฬาสุดยอดแห่งความทันสมัยที่ได้ผ่านมาตรฐานของยูฟ่า อีกทั้งยังสามารถรับชมแมตช์พิเศษของสโมสรชื่อดังในบ้านของเค้าเองอีกด้วย
▌วันที่ 3
Photo from Official Associazione Didattica Museale
เริ่มทริปของวันสุดท้ายกันที่ Museo Civico di Storia Naturale di Milano พิพิธภัณฑ์ที่มีสิ่งที่น่าสนใจมากมายให้เรียนรู้ ทั้งวิวัฒนาการของมนุษย์ ซากสัตว์ดึกดำบรรพ์ต่างๆ มากมาย เรื่องราวของพืชและสัตว์เลี้ยงรูปด้วยน้ำนม ไปจนถึงแร่ธาตุต่างๆ จากทั่วโลก พิพิธภัณฑ์นี้นั้นได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงในยุคต่างๆ ของโลกผ่านการเปลี่ยนแปลงของแร่ธาตุและการปรับตัวเพื่อการดำรงชีวิตของสัตว์โลก ต่อจากนั้นไปเที่ยวชม Basilica di San Lorenzo อีกหนึ่งโบสถ์ที่เก่าแก่และมีความสำคัญต่อคริสตศาสนาของมิลาน มีความโดดเด่นที่แท่นบูชาอันสูงโดดเด่นจนน่าทึ่ง และความสวยงามของภาพโมเสกที่ตกแต่งบนเพดานในโบสถ์ Sant Aquilino เสร็จแล้วหามื้อเที่ยงรับประทานก่อนที่จะเก็บของเตรียมตัวเดินทางกลับ