ซากมหานคร ปอมเปอี Pompeii Ruins
ซากมหานครปอมเปอี (Pompeii Ruins) เป็นเศษซากของมหานครที่เคยรุ่งเรืองในยุคโบราณเกือบ 2,000 ปีที่ผ่านมา ที่ความยิ่งใหญ่และรุ่งโรจน์ได้ล่มสลายลงไปในชั่วพริบตาจากโศกนาฏกรรมของการระเบิดของภูเขาไฟ ทิ้งไว้เพียงซากและศพผู้เสียชีวิตมากมายให้นักโบราณคดีขุดค้นและให้นักท่องเที่ยวเที่ยวชมในปัจจุบัน
ปอมเปอีเป็นมหานครที่หายสาปสูญ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 1599 ระหว่างการขุดค้นอุโมงค์ใต้ดิน โดยคณะผู้ขุดค้นได้ขุดไปเจอกำแพงที่เต็มไปด้วยภาพวาดและร่องรอยแห่งการจารึกมากมาย แต่การสำรวจครั้งนี้ได้เกิดหยุดชะงักไป จนเมื่อปี 1748 จึงได้มีการขุดค้นอีกครั้ง ทำได้ทำการขุดเรื่อยมาจนโฉมหน้าแห่งความรุ่งโรจน์และเจริญรุ่งเรืองที่หายสาปสูญไปด้วยภัยพิบัติทางธรรมชาติได้ปรากฎขึ้นอีกครั้ง การค้นพบครั้งสำคัญเกิดขึ้นในปี 1863 เมื่อ Giuseppe Fiorelli ได้ขุดค้นพบชิ้นส่วนของชาว Pompei ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดของภูเขาไฟ โดยชิ้นส่วนดังกล่าวนั้นเป็นโพรงภายใต้ขี้เถ้าภูเขาไฟเนื่องจากได้มีการเสื่อมสลายไปตามกาลเวลา แต่เนื่องจากทางคณะผู้สำรวจใช้วิธีการเจาะรูเล็กๆ และหยอดปูนปลาสเตอร์ลงไปในโพรง เมื่อปูนแห้งทำให้เกิดเป็นรูปร่างของมนุษย์ในอิริยาบถต่างๆ ซึ่งวิธีนี้ทำให้เกิดภาพที่น่าสนใจมากสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ โดยเป็นวิธีที่ทำให้ทราบถึงกิจกรรมต่างๆ ก่อนที่พวกเค้าจะเสียชีวิตลง เห็นการดิ้นรนเอาตัวรอด เห็นภาพคนรักกอดกัน หรือครอบครัวกอดกันล้วนแล้วแต่สร้างความประทับใจ และสะเทือนใจในเวลาเดียวกัน
จากเศษซากที่หลงเหลือยู่รวมกับหลักฐานทางโบราณคดีที่ได้ถูกขุดค้นพบมากขึ้นเรื่อยๆ นั้นล้วนแล้วแต่ชี้ให้เห็นได้ชัดถึงความเจริญรุ่งเรืองของเมืองแห่งนี้ในอดีต โดยเมือง Pompeii นั้นตั้งอยู่ใกล้กับเมือง Naples ทางตอนใต้ของอิตาลี เป็นทำเลทองที่เอื้อต่อทั้งการค้าและการเกษตร เศรษฐีที่มีฐานะร่ำรวยนิยมสร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่นี่ มีมหาวิหาร สถาปัตยกรรมต่างๆ มากมายตามแบบฉบับโรมันโบราณ นอกจากนี้ยังมีอัฒจันทร์ขนาดใหญ่ความจุมากกว่า 20,000 ที่นั่งสำหรับชมการประลองของกลาดิเอเตอร์ และเพื่อความบันเทิงรูปแบบอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งสิ่งต่างๆ ล่มสลายในพริบตัวด้วยภัยพิบัติของการระเบิดของภูเขาไฟ เหลือไว้เพียงเศษซากให้เราได้เรียนรู้เท่านั้น แม้ว่าชื่อของ Pompeii จะถูกจดจำด้วยภัยพิบัติของภูเขาไฟระเบิด แต่ในความจริงแล้วนั้นในปี 1962 Pompeii ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ อาคารจำนวนมากของเมืองเสียหาย ต้องใช้เวลาฟื้นฟูถึง 17 ปีเลยทีเดียว
ด้วยโศกนาฏกรรมอันยิ่งใหญ่ที่ถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ บวกกับความยิ่งใหญ่และงดงามอันน่ามหัศจรรย์ของเมือง Pompeii ทำให้ที่นี่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งในประเทศอิตาลีโดยมีผู้มาเยือนมากกว่า 2 ล้านคนในแต่ละปี นอกจากนั้นแล้วสถานที่แห่งนี้ยังได้รับคัดเลือกให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์กรยูเนสโกในปี 1997 อีกด้วย
ค่าใช้จ่าย
โต๊ะขาย ตั๋วสำหรับบริการเที่ยวชมเมืองโบราณ Pompeii อยู่ในบริเวณอุทยานเท่านั้น ตั๋วที่ขายอยู่ภายนอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางอุทยานใดๆ ทั้งสิ้น ราคาค่าตั๋วเข้าชมเต็มราคาคือ 13 ยูโร สำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือผู้ที่มีเงื่อนไขตรงส่วนลดค่าตั๋วราคา 7.50 ยูโร ค่าตั๋วมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่ที่การจัดนิทรรศการหรืออีเว้นท์พิเศษต่างๆ และหากกรุ๊ปทัวร์โรงเรียนสนใจเที่ยวชมต้องทำการจองล่วงหน้า
เวลาทำการ
เปิดให้บริการทุกวันยกเว้นในช่วงวันที่ 25 ธันวาคม , 1 มกราคม และ 1 พฤษภาคมของทุกปี โดยในช่วง 1 เมษายนจนถึง 31 ตุลาคมนั้นจะเปิดให้บริการในเวลา 8.30 น. ไปจนถึงเวลา 19.30 น. แต่ช่วงเวลาสุดท้ายที่ให้เข้าคือ 18.00 น. ส่วนในช่วง 1 พฤศจิกายนถึง 31 มีนาคมนั้นจะเปิดให้บริการในเวลา 8.20 น. ถึงเวลา 17.00 น. แต่ช่วงเวลาสุดท้ายที่ให้เข้าคือ 15.30 น. เท่านั้น
วิธีการเดินทาง
ศูนย์กลางการคมนาคมหลักเพื่อไปยัง Pompeii อยู่ที่ Naples Centrale สามารถเลือกใช้รถไฟใต้ดิน line 2 จาก Naples Centrale ไป Salerno ซึ่งจะผ่าน Pompeii หรือจะเลือกใช้รถไฟ Circumvesuviana ที่มุ่งหน้าไป Naples ไปยัง Sorrento ซึ่งจะผ่าน Pompeii เช่นกัน