รีวิวเที่ยวฮ่องกง วันที่ 2 อาหารเช้าฮ่องกง City Gate Outlet พระใหญ่ และ The Peak
รีวิวเที่ยวฮ่องกงวันที่ 2 แล้ว เราตื่นกันแต่เช้าเพื่อออกมาทานร้านอาหารเช้าสไตล์ฮ่องกงในตำนานที่มีชื่อร้าน งงๆ ว่า Austrarian Diary Company ซึ่งฟังดูไม่ค่อยเกี่ยวกับฮ่องกงซักเท่าไหร่ แต่เค้าว่ากันว่า เป็นร้านอาหารเช้าสไตล์ชาชังเตงที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฮ่องกง มีไข่คนหรือ Scrambled Egg ที่อร่อยมากๆ เราไปถึงก่อน 8 โมงเช้าเล็กน้อย คนก็ยืนต่อคิวกันอยู่เต็มหน้าร้านแล้ว ร้านนี้จะอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟใต้ดิน Jordan ดูข้อมูลร้าน Austrarian Diary Company เพิ่มที่นี่
ใครสนใจเกี่ยวกับอาหารสไตล์ ชา ชัง เตง(Cha Chaan Teng)และ 7 ร้านดังของฮ่องกง ดูเพิ่มได้ที่นี่
ทานอาหารเช้าเสร็จ สถานที่เที่ยวแรกของเราคือวัดธูปแดงหรือวัดเจ้าแม่ทับทิม ทินหัว(Tin Hua Temple)อยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟใต้ดินเยามาเต Yau Ma Tei ทางเข้าจะอยู่ติดกับสวนสาธารณะขนาดเล็ก ภายในจะเต็มไปด้วยธูปขดเป็นวงสีแดงและสีเหลืองห้อยอยู่บนเพดานเต็มไปหมดทั้งวัด ทำให้ด้านในวัดเต็มไปด้วยควันธูป เมื่อมีแสงแดดส่องลงมาทำให้มองเห็นเป็นเหมือนกับลำแสงสวยงามมาก เป็นอีกหนึ่งวัดศักสิทธิ์ของฮ่องกงที่มีคนท้องถิ่นเดินทางมาสักการะอยู่ตลอดเวลา
เมื่อเที่ยววัดเจ้าแม่ทับทิมเสร็จ ก็แวะไปเที่ยวตลาดค้าส่งผักและผลไม้ขนาดใหญ่ที่สุดของฮ่องกง อยู่ไม่ไกลจากวัด ย่านเยามาเต แต่ตอนที่ไปตลอดวายไปเกือบหมดแล้ว เพราะตลาดนี้จะคึกคักมากที่สุดช่วง ตี 4 ถึง 6 โมงเช้า ตอนเราไปถึงจึงเป็นช่วงที่คนงานเริ่มพักผ่อนกัน ปิดร้านกันไปเกือบหมดแล้ว หลายคนก็จับกลุ่มกันนั่งเล่นไพ่นกกระจอกเทศ ดูข้อมูลตลาดค้าส่งผักและผลไม้ได้ที่นี่
จากนั้นเราก็ไปเดินเล่นที่ตลาดสด ที่ถนน Nelson Street เป็นตลาดสดของคนท้องถิ่นที่ขายพวกผักผลไม้ เนื้อต่างๆ และอาหาร โดยการปิดถนน Nelson Street และถนน Canton Road ใกล้กับสถานนีรถไฟใต้ดิน Mongkok Station บนถนนจะมีแผงลอยต่างๆมาขายของ แบ่งออกเป็นโซนๆ คือ ผัก, ผลไม้ เนื้อต่างๆ และอาหารทะเล ที่อยู่เรียงๆกันไป มีคนฮ่องกงมาเดินจับจ่ายใช้สอยกันแน่นถนน ให้บรรยากาศแบบ Local ดี ดูข้อมูลตลาดสดย่านมงกกได้ที่นี่
เดินเล่นที่ตลาดนี้กันเสร็จแล้วก็ใกล้จะเที่ยงละ อาหารเที่ยงของเราวันนี้คือร้านโจ๊กสุดฮิตของคนไทย Sea View Congee ที่อยู่สถานีมงกกนี้เช่นเดียวกัน เดินจากตลาดไปไม่ไกลก็ถึง เป็นร้านห้องแถวสไตล์บ้านๆ ที่เปิด 24 ชั่วโมง! เป็นร้านโจ๊กเราก็ต้องสั่งโจ๊ก โดยที่ร้านจะมีอาหารอย่างอื่นๆขายด้วย คล้ายๆกับร้านโจ๊กอื่นๆทั่วฮ่องกง รสชาติโจ๊กจะเหลวมาก ปาท่องโก๋กรอบนอกนุ่มใน ราคาไม่แพง โดยรวมแล้วรู้สึกว่าเฉยๆ ไม่ได้มีความรู้สึกว่าจะต้องมากินอะไร ดูรีวิวร้านโจ๊ก Sea View Congee เพิ่มได้ที่นี่
กินอิ่มก็ได้เวลาไปเที่ยวกันต่อ สถานีต่อไปจะอยู่ที่เกาะลันเตา(Lantau) เดินทางกันไกลทีเดียว จากสถานีมงกก ไปเปลี่ยนเป็นสายสีส้มที่สถานี Tsing Yi เพื่อจะไปลงที่ปลายทาง สถานี Tung Chung ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจมากอยู่ 2 แห่งคือห้าง Outlet City Gate ที่อยู่ติดกับสถานีรถไฟเลย กับที่ขึ้นพระเช้าไปพระใหญ่นองปิง(Ngong Ping) เมื่อเราไปถึงก็เลยแวะเดินเล่นที่ห้าง outlet กันก่อน อยู่ภายในอาคารมีแบรนด์ต่างๆมากมาย ที่น่าสนใจ ลดราคาพอสมควรเรียกว่าถ้าใครจะมาช้อปปิ้งน่าจะได้ของแน่นอน ประมาณ 3 ชั้น มีที่ฝากกระเป๋าเป็นตู้ locker ไว้ให้บริการที่ชั้น B2 และ B3 ด้วย ดูข้อมูลห้าง City Gate เพิ่มได้ที่นี่
เมื่อเดินเล่นที่ห้างนี้กันเสร็จก็ ออกจากห้างแล้วเดินไปทางสถานีขึ้นกระเช้านองปิง ซึ่งจะมีกระเช้าอยู่ 2 แบบให้เลือกคือธรรมดา และแบบ Crystal หรือแบบที่พื้นกระเช้าใส เราเลือกซื้อตั๋วขาขึ้นแบบ Crystal และขาลงแบบธรรมดา โดยตู้หนึ่งจะนั่งได้เต็มที่ประมาณ 8 คน ถ้าเราไป 6-8 คนเค้าอาจจะให้เราเป็นส่วนตัวทั้งตู้เลย ในตอนขาขึ้นก็เห็นวิวได้รอบทิศทางเลย แต่บางช่วงก็ดูสูงมาก ใครกลัวความสูงมากๆอาจจะต้องใช้แบบธรรมดาแทน ใช้เวลาในกระเช้ากันประมาณ 20 นาทีก็ขึ้นมาถึงบนเขา เดินออกจากสถานีมาก็จะเจอกับหมู่บ้านนองปิง ที่เค้าสร้างขึ้นสำหรับให้นักท่องเที่ยว มีร้านค้า ร้านอาหารต่างๆรวมทั้ง 7-11 ด้วย เดินตรงไปตามทางเรื่อยๆก็จะไปเจอกับบันไดเพื่อขึ้นไปสักการะพระใหญ่กันแล้ว ด้านบนพระใหญ่จะปลอดโปร่งมาก มองเห็นวิวไปได้ทั่วบริเวณ ลมเย็น แม้แดดจะแรงมาก็ตาม ที่ใต้พระใหญ่ก็ยังมีส่วนที่เป็นพระพุทธรูปและร้านขายของที่ระลึกอยู่ด้วย ดูข้อมูลการเที่ยวพระใหญ่นองปิงได้ที่นี่
หลังจากเที่ยวนองปิงเสร็จ ก็ต้องไปต่อคิวขึ้นกระเช้ากลับนานเกือบชั่วโมง ถ้าใครซื้อตั๋วแบบ Crystal ขาลงก็แทบจะไม่ได้ต้องรอคิวเลย ผิดกับขาขึ้นที่ต้องรอพอๆกัน กว่าจะลงมาถึงก็เริ่มเย็นแล้ว เป้าหมายสุดท้ายของเราวันนี้คือจะขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกกันจุดชมวิวบน The Peak แต่ก็ปรากฏว่าไปกันไม่ทัน กว่าจะไปถึงสถานีขึ้นรถรางของ The Peak ก็เกือบมืดแล้ว แถมต้องต่อคิวขึ้นรถรางอีกเกือบชั่วโมง ขึ้นมาถึงบน The Peak ก็ประมาณ 2 ทุ่มได้ วิวบน The Peak ถือได้ว่าสวยมาก มองเห็นเป็นโค้งน้ำทั้งตึกอาคารสูงต่างๆมากมาย ดูข้อมูลการเที่ยวจุดชมวิว The Peak ได้ที่นี่
เดินเล่นชมวิวเมืองฮ่องกงและอ่าววิคทอเรียกันเสร็จก็หิว ซึ่งมีบะหมี่เจ้าดังที่เปิดอยู่หลายสิบสาขาทั่วฮ่องกงอยู่บน The Peak ด้วย ร้านบะหมี่นี้ชื่อว่า Mak Noodle หรือร้านบะหมี่นายมัก เป็นร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่าร้อยปีแล้ว ผ่านมาหลายรุ่น แต่รสชาติยังอร่อยถูกปากไม่เปลี่ยน เป็นบะหมี่ใส่ชามเล็กๆมาเส้นเล็กกรอบนุ่มกำลังดี มีให้เลือกกินกับ เนื้อตุ๋น, หมูแดง และเกี้ยวกุ้ง ส่วนเมนูอื่นๆก็อร่อยไม่แพ้กัน ดูรีวิวร้านบะหมี่ Mak Noodle ได้ที่นี่