วัดนักบุญยอแซฟ ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย


อัพเดตล่าสุดเมื่อ 21 กรกฎาคม 2567

 

วัดนักบุญยอแซฟ (Saint Joseph catholic Church Ayutthaya): ศาสนสถานในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีหลักฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช งดงามด้วยสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์บนที่ดินพระราชทาน และเป็นวัดคาทอลิกในไทยที่ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่น ปี พ.ศ. 2550

เรื่องราวการตั้งวัดเริ่มจากแต่เดิมสมเด็จพระสันตะปาปาได้แต่งตั้งพระสังฆราชปิแอร์ ลังแบรต์ เดอ ลาม็อตเป็นประมุขมิสซังสำหรับภาคตะวันออกไกล ต่อมาสมณกระทรวงเผยแพร่ความเชื่อได้จัดตั้งพระธรรมทูตซึ่งประกอบไปด้วยพระสังฆราชลังแบรต์ คุณพ่อเดอ บูร์ช และคุณพ่อเดดีเอร์ไปเผยแพร่ศาสนายังแคว้นตังเกี๋ย แคว้นโคชินไชน่า และจีน แต่เพราะเกิดการกีดกันทางศาสนาอย่างรุนแรงจนธรรมทูตไม่อาจเดินทางเข้าไปได้ แม้จะพยายามเข้าไปอีกเป็นครั้งที่สอง แต่เรือเกิดอับปางธรรมทูตจึงต้องเข้ามาพำนักในกรุงศรีอยุธยาที่ค่ายคริสตังญวน สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงทราบข่าวจึงโปรดให้พระสังฆราชลังแบรต์เข้าเฝ้าและพระราชทานที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้กับพระสังฆราช ในปี ค.ศ. 1665 สังฆราชลังแบรต์สร้างโรงเรียน สำนักพระสังฆราช และวัดเป็นอาคารชั่วคราวขึ้น เรียกรวมๆ ว่า “ค่ายนักบุญยอแซฟ”

ต่อมามีการสร้างสามเณราลัย โรงพยาบาล กระทั่งปี ค.ศ. 1685 จึงมีการสร้างวัดเป็นอาคารถาวรขึ้น ซึ่งมาแล้วเสร็จเอาเมื่อปี ค.ศ. 1688 เมื่อเสียกรุงครั้งที่ 2 ค่ายนักบุญยอแซฟถูกชาวพม่าทำลายจนย่อยยับ ทว่าคริสศาสนิกชนได้ช่วยกันสร้างขึ้นใหม่ ผู้ออกแบบอาคารคือ นายโยอากิม กรัสซี่ และในที่สุดในปี ค.ศ. 1891 (พ.ศ. 2434) พระสังฆราช หลุยส์ เวย์ พระสังฆราชเกียรตินามแห่งเกราซาก็ประกอบพิธีเสกวัดใหม่นี้ขึ้น

อาคารปัจจุบันเป็นที่สร้างขึ้นในสมัยรัชการที่ 5 ในปี พ.ศ. 2426-2434 รวมระยะเวลาสร้าง 8 ปี เป็นโบสถ์ทรงโรมาเนสก์ (ศิลปะนอร์มัน ช่วงศตวรรษที่ 10-12) และได้รับการขนานนามว่าเป็นโบสถ์ที่เก่าที่สุดและสวยที่สุดในประเทศไทย วัดนักบุญยอแซฟ อยุธยา ได้รับการบูรณะโดยทางวัดร่วมกับบริษัท มรดกโลก จำกัด เรื่อยมา จนได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ศิลปะสถาปัตยกรรมดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ในวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2007 (พ.ศ. 2550)

สิ่งที่น่าสนใจ

  1. ชมความงามของโบสถ์

ด้านนอกอาคารเป็นแบบ ลาตินครอส (Latin Cross) กล่าวคือเมื่อมองจากด้านบนแล้วจะมีรูปร่างคล้ายกางเขน มีมุกด้านหน้าเป็นทางเข้าโบสถ์อยู่ใต้หอระฆัง ภายในตกแต่งอย่างสวยงามด้วยกระจกสีแสดงประวัติพระเยซูคริสต์และพระแม่มารี หน้าแท่นบูชามีภาพนูนต่ำสีสดที่งดงามเป็นอย่างยิ่งแสดงภาพอาหารมือสุดท้าย (The last Supper) สำหรับบันไดเป็นบันไดเวียนสู่พักเท้าและชันลอย แม้แต่ฝ้าเพดานก็ยังวิจิตรด้วยลดลายสีทองบนพื้นสีเลือดหมูและสีน้ำเงิน

  1. รูปปั้นและรูปเคารพนักบุญยอแซฟ

วัดแห่งนี้มีรูปปั้นและรูปเคารพนักบุญยอแซฟที่งดงามอย่างมากอยู่ด้วยกัน 3 จุด ได้แก่

  • หน้าโบสถ์ เหนือมุกด้านหน้า มีภาพนักบุญยอแซฟอุ้มพระบุตร ความสำคัญของนักบุญยอแซฟคือการที่ท่านยอมรับพระเยซู ทำให้พระเยซูทรงอ้างสิทธิเป็นแมสซียาห์ที่มีสายเลือดแห่งกษัตริย์ดาวิด กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรยูดาห์และราชอาณาจักรอิสราเอลได้ นอกจากภาพนี้จะแสดงถึงความเอื้ออาทรของนักบุญยอแซฟแล้ว ยังเป็นภาพที่สวยสะดุดตาจนเป็นจุดเด่นหรือสัญลักษณ์ของวัดเลยก็ว่าได้
  • รูปปั้นนักบุญยอแซฟ พระแม่มารีอุ้มพระบุตร รูปปั้นนี้ตั้งอยู่ด้านนอกของอาคาร เป็นรูปปั้นที่แสดงถึงเอกภาพและพลังของความเป็นหนึ่งเดียวกัน
  • ภายในโบสถ์มีรูปปั้นนักบุญยอแซฟอุ้มพระบุตร ใต้รูปปั้นมีข้อความภาษาละตินว่า ‘EGO CERTA  SPES VITAE’ แปลเป็นไทยได้ว่า เราคือความหวังแห่งชีวิตอย่างแท้จริง
  1. ถ้ำแม่พระ

ด้านนอกของอาคารเป็นสวนที่มีรูปปูนปั้นมากมาย สิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของวัดนักบุญยอแซฟ คือ ถ้ำแม่พระ สร้างเป็นรูปปูนปั้นพระแม่มารียืนอยู่หน้าถ้ำ แสดงถึงเหตุการณ์พระแม่ประจักษ์ที่ลูร์ด ในฝรั่งเศส โดยพระแม่ได้มาปรากฏแก่เด็กหญิงแบร์นาแด็ต ซูบีรูในถ้ำที่เมืองลูร์ด ประเทศฝรั่งเศสถึง 18 ครั้งในปี ค.ศ. 1858


Exit mobile version