รีวิว เที่ยวสิงคโปร์ วันสุดท้าย เน้นกิน ติ่มซำ ข้าวมันไก่ เต้าฮวย และเที่ยวย่าน Little India ห้าง Mustafa
รีวิวเที่ยวสิงคโปร์ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของทริปนี้แล้ว ตื่นเช้ามาเราก็เก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์แล้วก็ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน จากนั้นก็เดินออกมาหาทานข้าวเช้า วันนี้เราจะทานอาหารเช้าที่ร้านติ่มซำ Mongkok Dim Sum ที่เปิด 24 ชั่วโมงที่ซอย Lor 8 Geylang เป็นร้านติ่มซำเก่าแก่ชื่อดังอีกร้านของสิงคโปร์ที่มีราคาไม่แพง มีเมนูอาหารที่หลากหลาย ปัจจุบันเปิดหลายสาขาทั่วประเทศสิงคโปร์แล้ว สั่งเมนูมาหลายอย่าง รสชาติโอเค โจ้กเนื้อละเอียดมาก
ทานข้าวเช้าเสร็จเราก็เดินไปขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี Kallang เพื่อจะไปเที่ยวย่าน Little India ชมสีสันวัฒนธรรมของชาวอินเดียที่อาศัยอยู่ในประเทศสิงคโปร์ ขึ้นจากสถานีรถไฟ Little India มาก็จะเจอกับ ศูนย์อาหาร และตลาด Tekka Center ก่อนเลย ด้านในจะมีร้านอาหารอินเดียเยอะมาก รวมทั้งผักและผลไม้ ซึ่งว่ากันว่าเป็นแหล่งขายผักและผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์ด้วย
เดินทะลุ Tekka Center ออกมาอีกฝั่ง จะเจอกับถนน Seragoon Road ที่เป็นถนนเส้นหลักที่ผ่าใจกลางย่านนี้ เราเดินข้ามถนนนี้ไปเพื่อจะไปเดินเที่ยวใน Little India Arcade เป็นตรอกเล็กๆตัดกันไปมา พร้อมกับร้านขายของกระจุกกระจิก ที่มีกลิ่นอายของวัฒนธรรมอินเดียแฝงอยู่
จากนั้นเราก็วนกลับออกมาที่ถนน Seragoon เหมือนเดิมแล้วข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อไปชม ซอยที่มีบ้านหลากสีสัน ที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของย่านนี้ที่ชื่อว่า House of Tan Teng Niah
จากนั้นก็เดินไปเที่ยววัดฮินดูที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศสิงคโปร์ วัดศรีวีรมากาลีอัมมัน(Sri Veerama Kaliamman Temple) ไปถึงหน้าวัดก็พบชาวฮินดูมากมายที่เดินทางมาสักการะกันที่วัดแห่งนี้ วัดนี้สามารถเข้าไปชมได้ฟรี โดยต้องถอดรองเท้าไว้ด้านหน้า และพื้นวัดมักจะลื่นๆมันๆหน่อยจากของสักการะต่างๆ มีซุ้มประตูทางเข้าขนาดใหญ่ที่สวยงาม ใครยังไม่เคยเข้าวัดแขกแนะนำให้มาเดินดูได้ที่นี่ แต่ควรแต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อย
หลังจากนั้นเราก็จะไปเดินเล่นกันที่ห้างมุสตาฟา(Mustafa Centre) ซึ่งเป็นห้างฮิตของคนไทย มีของขายเยอะแยะมากมาย เน้นที่ราคาไม่แพง ของที่คนไทยนิยมซื้อกัน จะเป็นพวกของฝาก ขนม ของที่ระลึก น้ำหอม และพวกอุปกรณ์อิเลคโทรนิค
บริเวณใกล้ๆกันกับห้าง มุสตาฟา จะมีวัดฮินดู ที่ชื่อว่า วัดศรี ศรีนิวาส เปรุมาล(Sri Srinivasa Perumal Temple) ที่มีซุ้มประตูวัดที่สวยงามมากเช่นกัน
จุดหมายถัดไปของเราคือ ร้านข้าวมันไก่ชื่อดังอีกร้านของประเทศสิงคโปร์ นั่นก็คือ ร้านข้าวมันไก่ บุนทงกี่(Boon Tong Kee) ซึ่งปัจจุบันได้รับการพัฒนาเป็นร้านอาหารที่มีกับข้าวอย่างอื่นๆที่นอกเหนือจากข้าวมันไก่อีกหลายรายการ และเปิดหลายสาขาทั่วสิงคโปร์แล้ว ซึ่งที่เราจะไปคือ ร้านบุนทงกี่(Boon Tong Kee) สาขา Boon Keng เพราะอยู่ห่างไปเพียง 1 สถานีเท่านั้น ข้าวมันไก่ร้านนี้ อร่อยมาก ชิ้นใหญ่ เนื้อแน่นแต่นุ่มและหอมมันกำลังดี น้ำจิ้มไม่เหมือนกับบ้านเราแต่ก็อร่อยใช้ได้ และกับข้าวอย่างอื่นก็รสชาติดีไม่แพ้กันเลย แนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาด
ทานข้าวกันเสร็จก็ว่าจะหาขนมทานกันซักหน่อย โดยเราจะไปทานขนมเต้าฮวยชื่อดังกัน ร้านนี้ชื่อว่า เต้าฮวย Rochor Original BeanCurd นั่งรถไฟใต้ดินกลับไปที่สถานี Rochor พอออกมาเห็นอาคารรูปร่างแปลก แต่สวยงาม เป็นอาคารเรียนของ Lasalle Colledge of art เดินต่อมาอีกนิดก็เจอร้านเต้าฮวยร้านนี้
ทานข้าวอิ่มแล้ว ทานขนมแล้ว เวลายังเหลืออีกหลายชั่วโมงจึงไปเที่ยวเพิ่มอีกซักที่ มาเที่ยวประเทศสิงคโปร์ 2 ครั้งแล้ว ก็น่าจะทำความรู้จักกับประเทศนี้ให้มากกว่านี้ซักหน่อย จึงเลือกที่จะไป พิพิธภัณท์แห่งชาติสิงคโปร์(Singapore National Museum) ที่จัดแสดงอยู่ภายในอาคารแบบคลาสสิค สวยงาม ภายในพิพิธภัณท์จะมีโซนที่จัดแสดงประวัติศาสตร์ของประเทศสิงคโปร์ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งเปิดให้เข้าชมได้ฟรี
เดินเล่นดูเรื่องราวต่างๆของสิงคโปร์กันจนได้เวลา ก็นั่งรถกลับไปที่โรงแรม เอากระเป๋าแล้วก็เดินทางสู่สนามบินชางฮี เพื่อเตรียมตัวกลับเมืองไทยต่อไป
ทริปสิงคโปร์คราวนี้ก็ขอจบลงแล้ว ขอขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม หวังว่าทุกคนจะชอบและได้ประโยชน์จากรีวิวของเราบ้าง แล้วเจอกันใหม่