วิธีและขั้นตอนการขอคืนภาษีของประเทศสิงคโปร์ GST Tax Refund
นักท่องเที่ยวที่ไปช้อปปิ้งที่ประเทศสิงคโปร์จะสามารถขอคืนเงินภาษีที่เรียกว่า GST(Goods and Services Tax) จำนวน 7% ได้ เมื่อซื้อสินค้าเป็นจำนวนเงินมากกว่า 100 เหรียญขึ้นไป กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งห้างใหญ่ๆดังๆในสิงคโปร์ทั้งหมดล้วนขอ Tax Refund ได้หมดเช่น ห้างมุสตาฟา เป็นต้น โดยมีขั้นตอนที่ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก และขั้นตอนต่างๆก็ค่อนข้างจะคล้ายกับหลายๆประเทศ เช่น ประเทศเกาหลีใต้ ด้วย
เงื่อนไขของการขอคืนภาษี Tax Refund
นักท่องเที่ยวสามารถขอคืนภาษี GST ได้เมื่อชำระเงินด้วย เงินสด และบัตรเครดิต เมื่อซื้อสินค้าสินค้าตั้งแต่ 100 เหรียญขึ้นไป สามารถรวมใบเสร็จได้ไม่เกิน 3 ใบ ภายในร้านที่เข้าร่วมโปรแกรมการขอคืนภาษีเท่านั้น และในขั้นตอนการคืนเงินจะคืนมาเป็น เงินสด บัตรเครดิต หรือส่งเชคไปให้ที่บ้าน
ระหว่างการช้อปปิ้ง
ให้สังเกตร้านค้าที่มีป้ายหรือเครื่องหมายที่เขียนว่า Tax Free หรือ Global Blue Tax Free ถ้าไม่แน่ใจให้สอบถามกับพนักงานในร้านก่อน หลังจากที่ทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้ว พนักงานจะ passport ของเราเพื่อไปสลิปสำหรับการขอคืนภาษีที่เรียกว่า “eTRS Ticket” ซึ่งจะมีรายละเอียดของสินค้าที่ซื้อ จำนวน ราคา และภาษีที่จะได้คืนมาให้กับเรา ให้เราเก็บรวบรวมเอาไว้ให้ดี เพราะต้องใช้ในวันที่จะเดินทางกลับ
ในวันที่ต้องเดินทางกลับ
– ให้เราแพ็คของที่เราจะทำการขอคืนภาษี Tax Refund แยกเอาไว้ก่อน อย่าเพิ่งแพคเข้ากระเป๋าใหญ่ เผื่อเจ้าหน้าที่ของดู
– เมื่อไปถึงสนามบินชางฮี บริเวณที่เช็คอิน จะมีเครื่องให้บริการขอคืนภาษี Tax Refund ได้ตลอด 24 ชม. เรียกว่า เครื่อง “eTRS self-help kiosk” สำหรับการทำเรื่องขอคืนภาษีด้วยตนเอง ซึ่งก็ไม่มีอะไรยากและถ้าเป็นช่วงเวลากลางวันจะมีเจ้าหน้าที่ประจำคอยช่วยเหลือด้วย โดยถ้าต้องการเงินคืนมาทางบัตรเครดิตก็จะสะดวกกว่าเพราะจะเสร็จที่หน้าตู้นี้เลย โดยเงินจะเข้าหลังจากนี้ประมาณ 10 วัน แต่ถ้าขอคืนเป็นเงินสด เครื่องจะพิมพ์สลิปออกมาให้เราเข้าไปขอคืนเงินที่ด้านในหลังจากเช็คอินแล้วอีกที ที่เค้าเตอร์ “Centreal Refund Counter”
– หลังจากทำเรื่องที่ตู้ eTRS self-help เรียบร้อยแล้วจะมีสลิปออกปริ้นออกมาให้เรา ตรงนี้สำคัญมากๆ ให้เช็คที่หัวของสลิปว่า จะมีเขียนว่า APPROVED กับ NOT APPROVED ถ้าเขียนว่า APPROVED ก็แปลว่าเสร็จสิ้นการทำ Tax Refund แล้ว ให้เราไปเช็คอินต่อไปได้เลย แต่ถ้าเขียนว่า NOT APPROVED แปลว่าเราโชคดี ถูกสุ่มตรวจ ก็ไม่มีอะไร ให้เราไปที่เค้าเตอร์ “GST Refund Custom Inspection” ที่อยู่ใกล้ๆกัน แล้วเจ้าหน้าที่จะเช็คของที่เราซื้อว่าถูกต้องหรือไม่แล้วจะออกสลิปให้เรามา ก็ถือว่าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
[wp_ad_camp_1]
ขั้นตอนการใช้งานเครื่องขอคืนภาษี eTRS self-help ที่ละขั้นตอนอย่างละเอียด
1. เลือกภาษา เข้าใจว่ามีภาษาไทยด้วยนะ
2. กดปุ่ม Declare GST Refund
3. กดปุ่ม I Agree
4. รูด passport
5. ตรงนี้จะให้เราเลือกว่าจะดึงข้อมูลการซื้อสินค้าของเราจากไหน โดยมี 2 วิธี คือ
5.1 การแสกนสลิปที่ร้านค้าออกให้เรามาที่ละใบทั้งหมด ตรงหัวจะเขียนว่า “eTRS TICKET” เมื่อแสกนเสร็จหนึ่งใบก็ให้กดปุ่ม “ADD MORE TICKET” จนครบ
5.2 ถ้าตอนที่เราใช้บัตรเครดิตใบเดียวในการซื้อสินค้าทั้งหมด และตอนที่ซื้อได้มีการแจ้งที่ร้านค้าให้ลงทะเบียนบัตรเครดิตใบนั้นเป็น บัตรหลักของเราแล้ว โดยระบบจะเรียกเครดิตการ์ดใบนั้นว่า “eTRS TOKEN” ก็ให้เรากดปุ่ม “SWIPE CARD” เราแค่รูดบัตร จากนั้นระบบจะดึงรายการสินค้าทั้งหมดของเราออกมาให้เองทันที
6. เมื่อเช็ครายการสินค้าทั้งหมดของเราแล้วว่าถูกต้องเรียบร้อย ก็กดปุ่ม Next
7. ให้เลือกวิธีการรับเงินภาษีคืน มีให้เลือก 2 แบบ คือ CREDIT CARD โดยจะคืนเงินเข้าบัตรเครดิตที่เราต้องการ และ CASH เข้าไปรับเงินสดคืนที่ด้านใน เค้าเตอร์ชื่อว่า “Centreal Refund Counter”
8. กดปุ่ม REQUEST FOR APPROVAL จากนั้นระบบจะปริ้นสลิปออกมา ให้เช็คที่สลิปว่าเขียนว่า APPROVED หรือ NOT APPROVED ถ้าเป็น APPROVED ก็แปลว่าเสร็จสิ้นการทำ Tax Refund แล้ว ให้เราไปเช็คอินต่อไปได้เลย แต่ถ้าเขียนว่า NOT APPROVED แปลว่าเราโชคดี ถูกสุ่มตรวจ ก็ไม่มีอะไร ให้เราไปที่เค้าเตอร์ “GST Refund Custom Inspection” ที่อยู่ใกล้ๆกัน แล้วเจ้าหน้าที่จะเช็คของที่เราซื้อว่าถูกต้องหรือไม่แล้วจะออกสลิปให้เรามา ก็ถือว่าเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
หรือแนะนำให้ดูวิดีโอด้านล่างนี้เอาเลยก็ได้ ง่ายดี มีบอกหมดทุกขั้นตอนอย่างละเอียดเลย ตั้งแต่ตอนช้อปปิ้งไป การใช้เครื่อง eTRS ไปจนถึงตอนขอเงินคืนเลย
https://www.youtube.com/watch?v=YS9Gd1M2RR8