วิธีการเดินทางต่างๆภายในเมือง Strasbourg
Photo: Alexandre Prévot [CC BY-SA 2.0] from flickr.com/photos/alexprevot/6555688549/
เมืองสทราซบูร์ (Strasbourg)หรือสามารถออกเสียงแบเยอรมันเป็น ชตราสส์บวร์ค เมืองขนาดเล็กในแคว้นอาลซัสของฝรั่งเศสที่ติดกับชายแดนของเยอรมนี เมืองแห่งนี้แม้จะเจริญหากก็ยังแฝงกลิ่นอายยุคเก่าจากสถาปัตยกรรมภายในเมืองที่ยังคงสไตล์โบราณๆไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม อาคารบ้านเรือนที่เรียงรายกันเหมือนหมู่บ้านน่ารักๆ อีกทั้งมีการสร้างแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแคว้นอาลซัส บรรยากาศเป็นกันเองผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส แลดูไม่เร่งรีบเหมือนกับปารีส แถมยังไม่มีมิจฉาชีพมากวนใจเหมือนเมืองใหญ่ๆ ให้อารมณ์เหมือนเมืองที่มีความชนบทแต่ก็แฝงความศิวิไลอย่างลงตัวแบบที่หาได้ยากจากที่อื่นๆ สถานที่ท่องเที่ยวฮิตๆจะรวมอยู่ละแวกเดียวกันในเขตเมืองเก่า Grande Île ที่มีลักษณะเหมือนเกาะล้อรอบด้วยแม่น้ำอิล ที่สวยจนได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกจากยูเนสโก การเดินทางเดินท่องเที่ยวภายในเมืองก็สามารถทำได้หลายแบบ ได้แก่
เดิน
การเดินท่องเที่ยวนี่เป็นวิธีการเดินทางที่คลาสสิกสุดแล้ว เหมาะสุดๆสำหรับคนไม่ชอบความวุ่นวาย เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หาที่นั่งพัก มีเวลาค่อนข้างเยอะ ที่สำคัญทั้งประหยัดและยังสามารถซึมซับวิถีชีวิตถนนระยะทางที่ผ่านมาได้ โดยเฉพาะเมืองที่มีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่นักแห่งนี้ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวรวมกันอยู่แบบเป็นกระจุกๆ ไม่น่าจะต้องเดินไกลมาก เผลอๆไม่ทันจะเหนื่อยก็ถึงแล้ว
รถบัสประจำทาง
รถบัสจะมีกระจายอยู่ทั่วไปตามจุดสำคัญต่างๆของเมือง มีรถบัสออกอย่างสม่ำเสมอตรงเวลา นับเป็นอีกการวิธีการเดินทางที่เหมาะกับคนไม่ชอบชอบเดิน มีสัมภาระพอตัว ซึ่งค่ารถจะขึ้นอยู่กับระยะทางเป็นหลัก
รถราง Tram
รถรางที่ผู้โดยสารจะได้นั่งชมเมืองแบบเพลินๆ ส่วนใหญ่พื้นที่ให้บริการของรถรถรางจะจำกับในโซนๆใจกลางเมืองเป็นหลัก คนที่ไม่ยากเดินเยอะๆ แต่ก็รู้สึกไม่อยากขึ้นรถบัสก็แนะนำให้ลองขึ้นรถรางดูซักครั้ง มันเป็นประสบการณ์ที่ดีไปอีกแบบ
รถ Taxi
คนที่ต้องการความรวดเร็วแข่งกับเวลา อาจะต้องไปขึ้นรถไฟต่อเพื่อเดินทางไปยังเมืองอื่นๆ ข้าวของมีเต็มไม้เต็มมือ รถแท็กซี่ก็นับเป็นตัวเลือกที่เข้าท่า เพียงแค่ราคาอาจจะหนักกระเป๋าไปซักหน่อย แถมบางทีต้องรอให้ถูกจุดบริการที่เค้ากำหนดไว้ไม่อย่างงั้นอาจไม่มีรถจอดรับเลยก็เป็นได้
เรือ
เนื่องจากลักษณะเมืองเป็นเหมือนเกาะที่มีแม่น้ำล้อมรอบอยู่ การโดยสารทางเรือจึงกลายเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นเลยก็ว่าได้ และยังกลายเป็นวิธีการชมเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมากๆ ดูอย่างวันหยุดสุดสัปดาห์ที่คนแน่นมาเลย ปกติแล้วรถจะมีออกในทุกๆครึ่งชั่วโมง แล่นไปตามเส้นทางที่จะได้เห็นทัศนียภาพเมืองโดยรวมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆของเมือง อีกทั้งมีบ้านเรือนโบราณสไตล์อาลซัสที่เรียงรายตลอดสองฝั่ง ใช้เวลาล่องเรือแต่ละเที่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง โดยตรงที่นั่งจะมีหูฟังพร้อมคำบรรยายที่เลือกได้หลายภาษา (แต่ไม่มีภาษาไทย)
รถสามล้อ
ลืมภาพสามล้อในไทยไปได้เลย เพราะรถสามล้อของที่นี่จะมีดีไซน์ที่ดูทันสมัยสีสันสดใส มีหลังคาทำให้หายห่วงเรื่องแดดแรงๆฝนพรำๆ ลักษณะการทำงานก็ไม่ใช่เครื่องยนต์แต่เป็นเหมือนจักรยานสามล้อใช้แรงงานคนนี่แหล่ะถีบ ที่นั่งกว้างพอให้นั่งคนเดียวแบบสบายๆ เป็นอะไรที่น่าลองไปอีกแบบ
จักรยาน
นับเป็นวิธีการเดินทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเมือง เพราะพื้นที่ในเมืองไม่ได้กว้างขวางมาก ปั่นจักรยานไปถึงเร็วกว่าเดิน เมื่อยขาก็น้อยกว่า แถมปั่นรับลมเย็นๆนี่ยิ่งดีงาม มีจุดให้เช่าจักรยานตามแหล่งท่องเที่ยวหลายจุดอยู่หาไม่ยากนัก
รถไฟ
ส่วนมากจะเน้นไปที่การเดินทางระหว่างเมือง ซึ่งแต่ละเมืองในแคว้นอาลซัสก็ไม่ไกลกันมากเดินทางประมาณชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว นักท่องเที่ยวส่วนมากจึงนิยมจะนั่งรถไฟมากกว่าเช่ารถขับเพื่อท่องเที่ยว เพราะทั้งประหยัดและยุ่งยากน้อยกว่า
