วิลล่า ดิ เอสเต้ Villa d’Este


Villa d’Este ตั้งอยู่ที่เมือง Tivoli ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบ้านพักวิลลาอันสวยงามหรูหราและมรดกโลกที่มีชื่อเสียงของยูเนสโกอย่างพระราชวังเรเนซองส์และ Villa d’Este อันโด่งดังในสวนอันงดงามของเมืองในศตวรรษที่ 16 สถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับการหลีกหนีความวุ่นวาย เงียบสงบ หรูหรา เพียบพร้อมไปด้วยความหลากหลายของรูปแบบทางสถาปัตยกรรมโบราณและแหล่งน้ำธรรมชาติที่ดีที่สุดในอิตาลี

Villa d’Este อันงดงามใน Tivoli นี้เป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์กรยูเนสโกของอิตาลี วิลลาแห่งนี้ได้รับการว่าจ้างจากพระคาร์ดินัล Ippolito II d’Este ผู้ว่าการ Tivoli ในปี ค.ศ. 1550 ซึ่งรู้สึกผิดหวังกับการที่พระสังฆราชไม่ได้รับการเลือกตั้งจึงอยากจะนำความหรูหราของศาล Ferrarese Roman and French Courier มาตั้งไว้ที่ Tivoli จึงตรงกับความหรูหราที่สามารถพบได้ใน Hadrian’s Villa และ Villa d’Este ความสวยงามของน้ำพุและอุโมงค์ของ Villa d’Este เป็นแบบจำลองที่สร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมที่ยึดตามแบบบาร็อค  สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวิลลาคือสวนอันมหัศจรรย์ซึ่งคิดและออกแบบโดยจิตรกรและสถาปนิก Pirro Ligorio จากนั้นสร้างและจัดสวนโดยสถาปนิกของอัลเบอร์โตกาวาด้วยความช่วยเหลือของศิลปินและช่างฝีมือดีอีกนับไม่ถ้วน  แม้จะมีช่วงเวลาที่วิลลามีช่วงเวลาที่แย่ในการช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 และ 19 แต่ก็ได้รับการบูรณะให้กลับสู่ความรุ่งโรจน์ในที่สุด และจากจุดนั้นศิลปินที่สำคัญหลายคนคือแขกของวิลลา  รวมทั้งนักดนตรีอย่าง Franz Liszt ผู้แต่งเพลง Water Games at Villa d’Este ก็ได้จัดคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของเขาที่วิลลาแห่งนี้เช่นกัน

การบำรุงรักษาวิลลายังคงที่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีบางมุมของวิลลาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการเข้าชม เช่น ตรงบันไดและแกรนด์เนินเขา เดินเล่นในสวนแขวนของบาบิโลนในขณะที่ระบบการขนส่งทางน้ำมีท่อส่งน้ำและอุโมงค์ใต้เมืองคล้ายกับวิศวกรรมขั้นสูงของชาวโรมัน มีน้ำพุ 100 แห่งที่เรียงรายตลอดเส้นทางเดินเล่นที่ยาวที่สุดที่ช่วยให้เกิดฉากหลังของทัศนียภาพอันสวยงามจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสวนนี้ได้เป็นฉากหลังของภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น ฉากจัดเลี้ยงใน Ben Hur ของ William Wyler  ส่วนทางด้านซ้ายของทางเดินคือ Fontana dell’Ovato น้ำพุสไตล์บาร็อคที่สวยที่สุดในวิลลาแห่งนี้  ประกอบไปด้วยโขดหินขนาดใหญ่และลำธารน้ำซึ่งเป็นตัวแทนของแม่น้ำสามสายที่ไหลจาก Tiburtine Hills ได้แก่ Aniene , Erculaneo และอัลบาโน  โดยในสมัยโบราณนั้นน้ำจาก Anien ได้ไหลลงสู่น้ำพุผ่านคลอง  ด้านล่างทางเดินสามระดับของน้ำพุ 100 แห่งคือน้ำพุแห่งมังกรซึ่งมีตำแหน่งอยู่ที่ใจกลางของสวน  มีตำนานเล่าว่าน้ำพุสร้างเสร็จสิ้นในคืนเดียว ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1572 เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ 13 ในส่วนล่างของสวนมี Rotonda dei Cipressi เป็นแนวโค้งกลมที่มีต้นไม้ไซเปรสยักษ์ที่มีอายุหลายศตวรรษ  น้ำพุที่น่าประทับใจที่สุดคือน้ำพุแห่งเนปจูนโดย โดย Gian Lorenzo Bernini ซึ่งความงดงามของน้ำพุนั้นทำให้เป็นตัวอย่างที่สำคัญที่ถูกคัดลอกโดยศิลปินและสถาปนิกจำนวนมากในช่วงทศวรรษที่ 1700 ด้านล่างมีบ่อสามบ่อขนาดเล็กที่สะท้อนให้เห็นถึงฉากที่ได้รับพรจากดาวเนปจูน ในขณะที่ด้านบนนั้นเป็น Fontana dell’Organo


ค่าใช้จ่าย

ค่าเข้าชม: ตั๋วเข้าชมราคาเต็มมูลค่า 11 ยูโร  ตั๋วเข้าชมสำหรับประชาชนอายุระหว่าง 14-18 ปีที่แสดงบัตรประจำตัวประชาชน 7 ยูโร และฟรีสำหรับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 13 ปีลงไป  นอกจากนั้นยังมีราคาสำหรับอีเว้นท์ต่างๆ ที่แตกต่างกันออกไป

เวลาทำการ

เวลาเปิด-ปิด: เปิดให้บริการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ที่จะงดให้บริการ โดยในวันอังคารไปจนถึงวันอาทิตย์นั้นจะเริ่มเปิดให้บริการในเวลา 8.30 น. ไปจนถึงเวลา 19.45  น. แต่สามารถซื้อตั๋วเข้าชมได้ถึงช่วงเวลาสุดท้ายคือ 18.45 น. หนึ่งชั่วโมงสุดท้ายก่อนที่จะปิด นอกจากนั้นในบางเทศกาลหรือบางอีเว้นท์อาจมีการเปลี่ยนแปลงเวลาเข้าชมหรือปิดได้

วิธีการเดินทาง

รถไฟเพื่อใช้เดินทางจากโรมไป Tivoli ส่วนมากมีที่สถานี Tiburtina เมื่อถึง Tivoli แล้วสามารถใช้บริการแท๊กซี่ได้จากบริเวณบาร์หรือร้านค้าใกล้ๆ สถานีรถไฟ หรือจะเดินไปก็ได้ ใช้เวล้าดินประมาณ 10-15 นาที โดยจากสถานีรถไฟให้เลี้ยวขวาเดินลงเนินข้ามแม่น้ำเข้าสู่เมืองเก่าแล้วมองหาป้ายสีน้ำตาลที่ชี้บอกทางไปวิลลาได้เลย

แผนที่วิลล่า ดิ เอสเต้ Villa d’Este และสถานที่อื่นๆใน ทิโวลี(Tivoli)

GPS: 41.9630 , 12.7959 - Google Map
- สถานที่ปัจจุบัน - สถานที่แนะนำ - สถานที่อื่นๆ

- ที่เที่ยวแนะนำ - จุดชมซากุระ - จุดชมใบไม้เปลี่ยนสี - เป็นมรกดโลก
Exit mobile version